ศน.จัดค่ายเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ ปี68

ชลบุรี 7พ.ค.-กรมการศาสนา จับมือ องค์การทางศาสนาทั้ง 5 ศาสนา จัดอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ 2568 ระหว่าง วันที่ 5-9 พ.ค.2568


กรมการศาสนาร่วมมือจากองค์การทางศาสนาทั้ง 5 ศาสนา จัดโครงการอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ ณ โรงแรม Eco Hotel by Thammasat อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีนายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งผู้เข้าร่วมรวม 150 คน ประกอบด้วยเยาวชนจากส่วนกลางและจังหวัดในภาคใต้ รวมทั้งเยาวชนที่สมัครเข้าร่วมผ่านช่องทางออนไลน์ ครูพี่เลี้ยง ผู้แทนองค์การศาสนา เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในภาคใต้ และเจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนา

นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา (อศน.) เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม มีนโยบายส่งเสริมงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่มุ่งเน้นให้สถาบันทางสังคมร่วมปลูกฝังและพัฒนาให้เด็ก เยาวชน และประชาชนเป็นคนดี มีคุณธรรมและจริยธรรม เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ โดยเฉพาะการปลูกฝังเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้หลักธรรมคำสอน ความแตกต่างในวิถีชีวิต ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม โดยนำเยาวชนเข้าร่วมการอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ในหลักสูตรพื้นฐานและหลักสูตรผู้นำ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักธรรมคำสอนทางศาสนาที่ตนนับถือและต่างศาสนา เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม


 โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 นี้ กรมการศาสนาได้รับความร่วมมือจากองค์การทางศาสนาทั้ง 5 ศาสนาได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ พร้อมทั้งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา จัดอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ หลักสูตรพื้นฐาน ภายใต้แนวคิด “The Green Religion” ระหว่างวันที่ 5 – 9 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรม Eco Hotel by Thammasat อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยให้เยาวชนต่างศาสนาได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เรียนรู้วัฒนธรรม ความแตกต่าง ความเชื่อ ความศรัทธาอย่างเคารพซึ่งกันและกัน พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น    

1.  กิจกรรมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ประกอบด้วยกิจกรรมที่ออกแบบเพื่อการละลายพฤติกรรม สร้างความคุ้นเคยระหว่างศาสนา เสริมสร้างทักษะด้านการทำงานเป็นทีม ความพร้อมเพียง การเรียนรู้นิสัยใจคอ และการไว้วางใจซึ่งกันและกัน

2. กิจกรรมฐานการเรียนรู้ (Walk Rally)ประกอบด้วย ฐานศาสนาพุทธ ฐานศาสนาอิสลาม ฐานศาสนาคริสต์ ฐานศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ฐานศาสนาซิกข์ ฐานมารยาทไทย และฐานการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีทั้งความสนุกสนาน และการสอดแทรกความรู้ด้านหลักธรรมและข้อปฏิบัติทางศาสนาการฝึกปฏิบัติมารยาทไทยและมารยาทด้านอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม และการเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม ทั้งการวางแผนและการสื่อสาร


3. กิจกรรมทัศนศึกษาศาสนสถาน จำนวน 4 แห่ง คือ พระพุทธศาสนา : วัดญาณสังวราราม, ศาสนาอิสลาม : มัสยิดดารุ้ลอิบาดะห์, ศาสนาคริสต์ : โบสถ์พระมหาไถ่ และศาสนาซิกข์ : วัดซิกข์ พัทยา

เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการอบรมได้เรียนรู้หลักปฏิบัติในการเข้าศาสนสถาน รวมถึงเรียนรู้สถาปัตยกรรม พิธีกรรม ความเชื่อ และประเพณีของแต่ละศาสนา

4. กิจกรรมระดมความคิด Hackathonเป็นการระดมความคิด นำข้อมูลและสิ่งที่ได้รับจากการทัศนศึกษามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันในชุมชน โดยจะนำไปต่อยอดและขยายผลให้แก่บุคคลในชุมชนได้

5. กิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับ สถาบันหลักของชาติ และส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากประสบการณ์จริง จากกิจกรรมเปิดประสบการณ์นั่งรถสะเทินน้ำสะเทินบก ปลูกป่าชายเลนและฐานโครงการให้ความรู้ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว

6. กิจกรรม “เสริมพลังความคิดและพฤติกรรมเชิงบวก” ฝึกทักษะการเป็นผู้นำการวางแผน และการฟัง ผ่านเกมเป็ดมรณะ

7. กิจกรรม 1 เดียว คือ ศาสนิกสัมพันธ์ สลายความเป็น “พวกฉัน – พวกเธอ” ให้เป็น “พวกเรา” โดยการนำผ้าพันคอของผู้เข้ารับการอบรมทุกกลุ่มที่เป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งกลุ่มในการทำกิจกรรมมาผูกต่อกันเป็นคำว่า “ศาสนิกสัมพันธ์”

8.  กิจกรรมราตรีสมานฉันท์ ในช่วงภาคค่ำคืนสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ มีการเปิดให้ผู้เข้าร่วมได้สร้างสรรค์การแสดงทางวัฒนธรรมในมิติศาสนา รวมไปถึงกิจกรรมสันทนาการ และช่วงเวลาแห่งการแบ่งปันความรู้สึกที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ

9. กิจกรรมนำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ที่ได้รับจากค่าย ที่จะจัดขึ้นในวันสุดท้ายของโครงการอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  พร้อมทั้งกิจกรรมการมอบรางวัลแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการศาสนาได้ให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ให้แก่เยาวชนแต่ละศาสนาได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตที่แตกต่าง เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง และดำเนินการจัดอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์มาตลอดทุกปี เว้นการอบรมไปช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยเยาวชนที่เข้าการอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ เป็นเยาวชนจากส่วนกลางและจังหวัดในภาคใต้ รวมทั้งเยาวชนที่สมัครเข้าร่วมผ่านช่องทางออนไลน์ อายุระหว่าง 15 – 17 ปี ครูพี่เลี้ยง ผู้แทนองค์การศาสนา เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในภาคใต้ และเจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนา รวม 150 คน

อธิบดีกรมการศาสนา (อศน.) กล่าวทิ้งท้ายว่าเยาวชนที่ผ่านการอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ ซึ่งกรมการศาสนาและองค์การทางศาสนา มีความเชื่อมั่นว่า เยาวชนจะได้รับการปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความเคารพซึ่งกันและกันในความแตกต่างหลากหลายด้านเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และวิถีชีวิต พร้อมทั้งส่งเสริมบทบาทของเยาวชนในการเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความสงบสุข สันติ และยั่งยืนในอนาคต.-สำนักข่าวไทย612

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย