สธ.เยี่ยมผู้ป่วยดื่มยาดอง ฝากผู้ยังไม่รักษารีบไปพบแพทย์

กรุงเทพฯ 29 ส.ค. – นายกองตรี ธนกฤต ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยจากการกินเหล้าเถื่อน พร้อมฝากความเป็นห่วงคนที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษา เพราะอันตรายถึงชีวิต


นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์, เจ้าหน้าที่ กทม., กรมควบคุมโรค และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในชุมชนร่มทิพย์ที่มีผู้ป่วยจากการกินเหล้าเถื่อน 5-6 ราย รวมถึงตรวจเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตรายล่าสุด

โดยทันทีที่นายกองตรี ธนกฤต มาถึง ก็ได้พูดคุยกับประชาชนที่มีอาการ แต่รักษาได้ทัน โดยระบุว่าตนกินเหล้าเถื่อนมาเป็นเวลากว่า 1 ปี กินเพื่อบำรุงร่างกายเพราะตนทำงานเป็น รปภ.ที่ต้องมีการเปลี่ยนกะทำงาน โดยครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมาไม่เคยมีอาการใดๆ ครั้งสุดท้ายที่กินคือวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เพิ่งมีอาการเมื่อวันที่ 26 ส.ค. โดยมีอาการเหมือนกับผู้ป่วยคนอื่นๆ คือ หน้ามืด อาเจียน หายใจไม่เต็มปอด เหนื่อยหอบกว่าปกติ พอมีอาการก็รีบโทรหา รพ.ในทันที หลังจากที่รถ รพ.มารับไปที่ รพ.นวมินทร์ 9 หมอก็ได้เจาะเลือด และให้แอดมิด 2 คืน และให้กลับบ้านได้ในวันที่ 28 ส.ค. โดยให้ยามาทานเพื่อบรรเทาอาการ จนตอนนี้ก็อาการดีขึ้น โดยหมอนัดดูอาการอีกครั้งในวันที่ 4 ก.ย. เผยได้ซื้อเหล้าเถื่อนจากซุ้มในหมู่บ้าน ซึ่งมีอยู่แค่ร้านเดียว โดยขายใส่ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ภาษาชาวบ้านเรียกว่า 1 กั๊ก ราคา 30 บาท ถ้าใส่เป็นขวดน้ำพลาสติก เรียกว่า 1 แบน ราคา 60 บาท


จากนั้นก็ได้พูดคุยกับนางลอย ซึ่งเป็นแม่ยาย ของหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากยาดองเถื่อน เล่าว่า ลูกเขยอายุ 31 ปี ทำงานช่างไฟ ปกติก็ดื่มเหล้าและยาดองบ้างเวลาทำงานเหนื่อย ในวันที่ 22 สิงหาคม ทราบว่าลูกเขยไปดื่มมากับเพื่อนหลังเลิกงานที่ซุ้มยาดองแถวบ้าน ต่อมาวันที่ 23 สิงหาคม ตื่นมาลูกเขยตะโกนเรียกบอกว่า ไม่ไหว ตาพร่ามัว มองไม่ค่อยเห็น จึงให้ขึ้นไปนอน ผ่านมา 3 ชั่วโมงขึ้นไปดู เห็นลูกเขยนอนหายใจติดขัด เหนื่อยหอบ จึงรีบพาไปโรงพยาบาล ต่อมา 5 วัน ลูกเขยก็เสียชีวิต หลังจากรู้ว่าการตายเกิดจากยาดอง ครอบครัวก็รู้สึกโกรธคนขาย และหวังว่า คนที่เกี่ยวข้องจะถูกลงโทษ

นพ.ไพโรจน์ ได้ระบุว่าในการดูแลผู้ป่วยต้องทำอย่างเต็มที่ และจะดำเนินการเชิงรุก ในการค้นหาผู้ป่วยรายอื่นที่ยังไม่เข้ารับการรักษา เชื่อว่ายังมีอีกจำนวนมากที่เป็นแรงงานต่างด้าว และนอกจากการรักษาแล้วจะมีการติดตามอาการหลังจากนั้น เนื่องจากเมทานอลมีผลต่อดวงตาที่อาจเกิดอันตรายได้

นายกองตรี ธนกฤต ระบุว่าในการดูแลรักษาทางพยาบาลในเครือกระทรวงสาธารณสุขจะรับผิดชอบในส่วนนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะนี้พบว่าในการรับการรักษามีเพียงคนไทยเท่านั้น ยังไม่มีชาวต่างชาติเข้ารับการรักษา จึงมีความเป็นห่วงเพราะในคลัสเตอร์นี้มีมากกว่า 18 ซุ้ม และคาดว่าถ้าชาวต่างชาติยังไม่มีการเข้ารักษาจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6 ราย โดยตอนนี้ผู้ที่ทำการผสมเหล้าเถื่อนมีความผิดในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย /กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส / ข้อหาตามสรรพสามิต / ขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะมีการขยายผลต่ออย่างแน่นอน


พร้อฝากบอกไปยังประชาชนว่าให้หยุดบริโภคเหล้าเถื่อนก่อน เพราะไม่รู้ว่าเหล้าที่รับมาจากเจ๊ปูและผู้ต้องหาอีก 2 ราย กระจายไปถึงไหนแล้ว และมีฤทธิ์อันตรายถึงชีวิต และโหลเหล้าเถื่อนแต่ละโหลเป็นสูตรเดียวกัน โดยใช้สมุนไพรที่เชื่อว่าจะทำให้ร่างกายดีขึ้น แต่ที่จริงแล้วการที่ร่างกายรับแอลกอฮอล์เข้าไปจะเข้าไปกดประสาท เลยทำให้หลายคนเชื่อ ในการประสานงานการเยียวยามอบหมายให้ รพ.นพรัตน์ฯ เป็นผู้ประสานงาน และถ้าในพื้นที่ใกล้บ้านใครมีคนดื่มเหล้าเถื่อน และมีอาการให้รีบแจ้งจะได้รักษาได้ทันที

ส่วนชาวต่างชาติหากมีการอาการให้มาพบได้เลย ยืนยันว่าไม่ถูกดำเนินคดี ให้รีบมารักษาตัว โดยสามารถยื่นขอสิทธิ์เข้าการรักษาได้ ถ้าช้าอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ถ้าไม่มั่นใจว่า อาการที่เป็นอยู่ เข้าข่ายอันตรายหรือไม่ สามารถโทรมาปรึกษาได้ที่เบอร์ 025482300 ตลอด 24 ชม. -420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”