ตั้งทีมช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กรณีขนย้ายกากแคดเมียม

กทม. 18 เม.ย.-สภาทนายความฯ ตั้งทีมให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กรณีการขนย้ายกากแร่แคดเมียมจากหลุมฝังกลบที่ จ.ตาก พร้อมกำหนด 6 แนวทางช่วยเหลือด้านกฎหมาย ขณะนายกสภาฯ เผยคุยกับ รมว.ยุติธรรม รับจะให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบดำเนินคดีอาญา

ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ ว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน ประธานอนุกรรมการฝ่ายคดีและปฏิบัติการ นายขวัญชัย โชติพันธุ์ ประธานอนุกรรมการฝ่ายฝึกอบรมและวิชาการ นางทัดดาว จตุรภากร กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แถลงข่าว กรณีการขนย้ายกากแร่แคดเมียมจากหลุมฝังกลบที่จังหวัดตากไปยังพื้นที่ในเขต จ.สมุทรสาคร จ.ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร


ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า เกี่ยวกับกรณีกากแร่แคดเมียมที่ปรากฏเป็นข่าวในขณะนี้ สภาทนายความฯ เป็นหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีนี้มาตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากได้รับข้อร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายเพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ชาวบ้านกว่า 1,000 คนในพื้นที่ 3 ตำบล คือตำบลแม่กุ ตำบลแม่ตาว และตำบลพระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่สังกะสี โดยผู้ประกอบการที่ได้รับประทานบัตรบนดอยผาแดง ซึ่งการทำเหมืองแร่สังกะสีจะมีกากแร่แคดเมียมเป็นผลพลอยได้และจัดอยู่ในกลุ่มวัตถุอันตรายทั้งต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน สารแคดเมียมดังกล่าวได้ปนเปื้อนในพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะข้าว กระเทียม และถั่วเหลือง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้านที่ต้องเจ็บป่วยจากพิษของสารแคดเมียม โดยสภาทนายความได้ยื่นฟ้องคดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ชาวบ้านที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้กรุงเทพมหานคร จำนวน 6 คดี คดีส่วนใหญ่ถึงที่สุดในชั้นอุทธรณ์โดยศาลอุทธรณ์แผนกคดีสิ่งแวดล้อมมีคำพิพากษาให้ผู้ประกอบการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ชาวบ้าน และมีจำนวน 3 คดีที่ยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และจำนวนค่าเสียหาย และได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองพิษณุโลกเพื่อขอให้ประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยศาลปกครองมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 ให้ออกกฎกระทรวงกำหนดพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันคดีถึงที่สุด

ส่วนกากแคดเมียม เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้ประกอบการต้องมีมาตรการจัดการด้วยการฝังกลบตลอดไป ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้มีการขุดหลุมฝังกลบกากแร่แคดเมียมในพื้นที่จังหวัดตาก และมีการขนย้ายจากสถานที่ฝังกลบต้นทางไปยังสถานที่ปลายทางต่างๆ นายกสภาทนายความ ยังเปิดเผยว่า แนวทางดำเนินการเรื่องนี้ ตนได้หารือกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม โดยได้รับแจ้งว่า การดำเนินการทางอาญา จะสั่งการให้ ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบ ส่วนคดีทางสิ่งแวดล้อม เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง สภาทนายความจะไปช่วยเหลือด้านกฎหมาย และกำหนดการดำเนินการ 6 แนวทาง


1.จะแต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กรณีประชาชน และชุมชนได้รับผลกระทบจากการขุดและส่งต่อกากแร่แคดเมียมจากบ่อฝังกลบของโรงงานถลุงแร่สังกะสีในจังหวัดตาก ไปยังสถานที่อื่น ๆ
2.จะดำเนินการเรียกร้องและดำเนินคดีตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมกับเจ้าของ หรือผู้ครอบครองมลพิษหรือแหล่งกำเนิดมลพิษ เช่น เจ้าของหรือผู้ครอบครองกากแคดเมียม เจ้าของหรือผู้ครอบครองโรงงานถลุงแร่ เจ้าของหรือผู้ขนส่งกากแร่ เจ้าของหรือผู้รับกากของเสีย และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยต้องเยียวยาความเสียหายต่อสุขภาพ ร่างกายและจิตใจของประชาชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
3.ดำเนินการเรียกร้องและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานรัฐที่อนุญาตให้ขนย้ายกากของเสียอันตรายจากบ่อฝังกลบภายในโรงงานถลุงแร่สังกะสี โดยไม่มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยต้องชดใช้เยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน
4.สภาทนายความฯ ขอเรียกร้องให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจเลือดและปัสสาวะประชาชน ชาวจังหวัดตาก และชุมชนที่อยู่รายรอบโรงงานถลุงแร่สังกะสี รวมถึงประชาชนในตำบลแม่กุ แม่ตาว พระธาตุผาแดง ที่ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของแคดเมียมจากการทำเหมืองแร่สังกะสีของผู้ประกอบการ (บริษัทผาแดง อินดัสตรี จำกัด (มหาชน)) และพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดชลบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบว่ามีการเก็บหรือครอบครองกากแคดเมียม และประชาชนหรือชุมชนอื่นที่มีการเก็บหรือครอบครองกากแคดเมียม

5.ขอเรียกร้องให้ภาครัฐให้ผลักดันและผ่านการออกกฎหมายเกี่ยวกับการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (PRTR – Pollutant Release and Transfer Register) เพื่อเป็นมาตรการให้ผู้ประกอบการต้องเปิดเผยข้อมูลการปล่อยมลพิษที่เกิดจากการผลิตในโรงงาน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบที่มาของมลพิษใกล้ตัวที่อาจส่งผลต่อสภาพแวดล้อมที่ตนอาศัยอยู่ โดยมีหลักเกณฑ์ในการตรวจวัดมลพิษที่ชัดเจนที่ต้องรายงานต่อหน่วยงานเกี่ยวข้อง มาบังคับใช้โดยเร็ว และขอให้ตรวจสอบบ่อดักตะกอนแคดเมียมในพื้นที่ทำเหมืองสังกะสี และบ่อฝังกลบกากตะกอนแคดเมียมในบ่อฝังกลบภายในโรงงานว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (รายงาน EIA) และเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบ

6.สภาทนายความเห็นว่า กากแคดเมียมที่เป็นกากของเสียอันตรายที่ตรวจพบในโรงงานต่างๆทั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร ต้องนำไปกำจัดหรือฝังกลบในโรงงานที่มีใบอนุญาตประเภท 101(โรงงานปรับคุณภาพของเสียรวม-Central Waste Treatment) (ฝังกลบกากของเสียอันตราย) เท่านั้น จะนำไปทำลายหรือฝังกลบที่อื่นไม่ได้ และเมื่อโรงงานถลุงแร่สังกะสีที่จังหวัดตากไม่ใช่โรงงานที่มีใบอนุญาตประเภท 101 (โรงงานปรับคุณภาพของเสียรวม -Central Waste Treatment -ฝังกลบกากของเสียอันตราย) จึงไม่สามารถนำกากแคดเมียมที่เป็นกากของเสียอันตรายกลับมาฝังกลบในโรงงานได้ เว้นแต่จะได้ใบอนุญาต 101 เสียก่อน แต่ใบอนุญาต 101 ก็ต้องทำรายงานอีไอเอ และได้รับการอนุมัติอนุญาตเสียก่อน จึงไม่ใช่เรื่องง่าย


ว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน ประธานอนุกรรมการฝ่ายคดีและปฏิบัติการ กล่าวย้ำว่า ในประเด็นสุดท้ายนี้สำคัญที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องตอบคำถามว่าที่บอก ว่าจะนำกากแคดเมียมกลับไปฝังกลบที่เดิม ที่จ.ตากปลายทางไม่มีใบอนุญาต 101 ทำได้หรือไม่ที่จะนำไปฝังกลบที่เดิมและที่พื้นที่ต้นทางกากฝังกลบ ที่ จ.ตาก ตามรายงาน มี 1500 ไร่ มีหลุมฝังกลบ 7 บ่อ ขุดมาแล้ว 2 บ่อ จึงต้องไปตรวจสอบตามรายงาน ทำตามมาตรการป้องกันสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างไร และที่เหลืออยู่มีการไปตรวจสอบหรือไม่ ว่ายังอยู่ครบ หรือมีการลักลอบขุดออกมาแล้ว เพราะตั้งข้อสังเกตมีมูลเหตุจูงใจในการพยายาม ขุดกากอันตรายขึ้นมา มองว่า อาจเพราะหากแคดเมียม หากหลอมแล้ว มีมูลค่าตันละกว่าแสนบาท จึงอาจเป็นแรงจูงใจ หากไม่กำกับให้ดี ก็จะเกิดเหตุแบบนี้อีก

นางทัดดาว จตุรภากร กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากการติดตามสุขภาพประชาชน มีความกังวลเพราะมีการตรวจ 100% เฉพาะคนงาน แต่ประชาชนโดยรอบ ใช้การสุ่มตรวจ ในความเป็นจริงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรมีการตรวจทั้งหมด ยกตัวอย่างการจัดการด้านสุขภาพหลังสารพิษรั่วไหล ในประเทศญี่ปุ่นที่ มีการตรวจสุขภาพประชาชน ก็พบว่า ใช้เวลา 10 ปี กว่าประชาชนจะออกอาการให้เห็นจากการได้รับผลกระทบ จึงมองว่า รัฐไม่ใช่มาด่วนสรุป การตรวจไม่เจอตอนนี้ก็บอกว่าไม่พบอันตราย

ด้าน นายไพโรจน์ จำลองราษฎร์ รองประธานอนุกรรมการฝ่ายคดีและปฏิบัติการ เปิดเผยว่า สภาที่นายความฯได้ลงพื้นที่ ตั้งแต่ ปี53 ก่อนมีการฟ้องร้อง ที่พบว่า ชาวบ้าน ใน 3 ตำบล ใน อ.แม่สอด มีอาการป่วย โดยไม่ทราบสาเหตุ และต่อมาก็มีการตรวจพบว่าชาวบ้านส่วนหนึ่งมีสารแคดเมียมในร่างกาย จากการอาศัยในพื้นที่โดยรอบ
และแม้ต่อมา ปี 56 ศาลปกครองมีคำพิพากษา ให้ออกกฎกระทรวงกำหนด ให้ออกกฎกระทรวงกำหนดพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาวอำเภอแม่สอดจังหวัดตากเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ภายใน90 วันนับ ตั้งแต่วันคดีถึงที่สุดนั้น
ผ่านมา10 ปี จนทุกวันนี้ พื้นที่ ลุ่มน้ำตาว อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่มีการพลิกฟื้นพื้นดินให้กับคืนสู่สภาพเดิม และมีการกำหนดให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นที่ลุ่มให้ชาวบ้านปลูกอ้อย ซึ่งคนละวิถีชีวิตที่เคยทำ บางคนก็ยังต้องลักลอบปลูกข้าว จึงเรียกร้องให้รัฐจริงจังกับการพลิกฟื้นพื้นที่ให้กลับมามีสภาพดังเดิม เพราะชาวบ้านต้องทนทุกข์ต่อทั้งสภาพแวดล้อมและสุขภาพมานาน.-417.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย