เปิดวันแรก! โรงเรียนที่เกิดเหตุ นร.แทงกันเสียชีวิต

กรุงเทพฯ 2 ก.พ. – รร.ย่านพัฒนาการ ที่เกิดเหตุ นร.แทงกันเสียชีวิต เปิดวันแรก หลังจากปิด 3 วัน นักเรียนยังมาเรียนบางตา ครู-เทศกิจ ตั้งจุดตรวจหน้าโรงเรียน ขณะกรมสุขภาพจิตลงพื้นที่ ตรวจสอบสภาพจิตใจนักเรียนกลุ่มใกล้จุดเกิดเหตุกว่า 100 คน


บรรยากาศที่โรงเรียนในพื้นที่เขตสวนหลวง กลับมาเปิดการเรียนการสอนปกติ หลังจากออกประกาศหยุด ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ.67 เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อมูล และการเก็บพยานหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งเป็นการเยียวยาสภาพจิตใจของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงกำหนดให้ปิดสถานศึกษาชั่วคราว จากกรณีนักเรียนชายอายุ 14 ปี ชั้น ม.2 ก่อเหตุใช้มีดแทงเพื่อนชั้น ม.2 ด้วยกัน หลังเลิกแถวเคารพธงชาติจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่ รพ. โดยเหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 29 ม.ค.67 ที่ผ่านมา

โดยนายธนกร ไชยศรี ผู้อำนวยการสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร ร่วมกับนายบัญชา สืบกระพัน ผู้อำนวยการเขตสวนหลวง ลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยโดยรอบโรงเรียน และเปิดเผยว่าในช่วงนี้จะต้องเข้มมาตรการความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจ โดยได้ตั้งจุดได้ตรวจค้นกระเป๋า นักเรียนชาย หญิง และผู้ที่เข้า-ออก รร.ทุกคน ผ่านเครื่องแสกนโลหะ ป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำ และมีเทศกิจ 4 คน เข้ามาร่วมตรวจสอบความปลอดภัยด้วย


นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่าจากการพบปัญหาว่าพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ไม่ใช่ที่สาธารณะ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ได้ ส่วนเรื่องการจำหน่ายน้ำกระท่อมโดยรอบโรงเรียนนั้น ทางสำนักการศึกษา กทม.ได้ออกหนังสือเวียนแจ้งให้ทุกโรงเรียนตรวจเข้มต้องไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งภายในโรงเรียนสามารถควบคุมได้ แต่หากเป็นพื้นที่ภายนอกก็เกินที่จะควบคุม จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะคอยช่วยดูแล ซึ่ง รร.นี้ก็มี มาตรการความปลอดภัยอื่น มีกล้องวงจรปิดคลอบคลุมจำนวน 33 ตัว

ด้านผู้ว่าฯ กทม. ได้กำชับมาตรการความปลอดภัยของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะโรงเรียนมัธยมที่มีอยู่ 109 โรงเรียน ให้ดูว่าในจำนวนนี้มีโรงเรียนกลุ่มเสี่ยงเท่าไหร่ และจะแบ่งเป็นประเภทกลุ่มเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย เพื่อกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัย

ขณะที่วันนี้กรมสุขภาพจิตลงพื้นที่ร่วมกับอีก 7 หน่วยงาน ส่งเจ้าหน้าที่ 37 คน เพื่อทดสอบสภาพจิตใจ วันนี้จะตรวจนักเรียนที่เป็นกลุ่มสีแดง คือเพื่อนร่วมชั้นนักเรียนที่เสียชีวิต และเพื่อนร่วมชั้นนักเรียนผู้ก่อเหตุ รวมถึงนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ด้านล่าง รวมประมาณ 100 กว่าคน เพื่อเร่งเยียวยาสภาพจิตใจตามขั้นตอน ทั้งนี้ โรงเรียนนี้มีครู 54 คน นักเรียนจำนวนกว่า 900 คน โดยพบว่าหลังเกิดเหตุการณ์และมีการปิดเรียนไป 3 วัน วันนี้เปิดเรียนตามปกติวันแรก แต่พบว่ายังมีนักเรียนมาเรียนบางตา ซึ่งในช่วงเช้ากิจกรรมหน้าเสาธงไม่ได้ให้นักเรียนลงมาเข้าแถวด้านล่าง แต่ให้เข้าแถวที่หน้าชั้นเรียนแทน.-417-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก