กทม.เดินหน้าแคมเปญ “รถคันนี้ลดฝุ่น” สู้ PM 2.5

กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – กทม. ทำงานเชิงรุกสู้ PM 2.5 เดินหน้าแคมเปญ “รถคันนี้ลดฝุ่น” ตั้งเป้าลดฝุ่น 15% ภายใน ก.พ. 67


นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 11-17 ม.ค.67 มีการคาดการณ์ว่าค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเหลืองและสีส้ม คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพมหานครพร้อมดำเนินในทุกด้านเพื่อให้ลดปริมาณฝุ่นที่เกิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ได้มากที่สุด และขอแจ้งเตือนประชาชนให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากอนามัยป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์


โฆษก กทม. ยังกล่าวอีกว่า จากงานวิจัยพบว่าฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ส่งผลกระทบกับกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นฝุ่นที่มีต้นกำเนิดจากทั้งภายในและภายนอกพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ ฝุ่นที่เกิดจากภานนอกกรุงเทพฯ และปริมณฑล 42% ฝุ่นที่เกิดจากการจราจร 22% ฝุ่นที่เกิดจากการเผาในที่โล่ง 16% ฝุ่นที่เกิดจากการโรงงานอุตสาหกรรม 15% ฝุ่นถนน 4% อื่น ๆ 1% ส่วนงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งได้เปิดเผยถึงที่มาของฝุ่นที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนี้ รถยนต์ดีเซล 57% ฝุ่นทุติยภูมิ 16% เผาในที่โล่ง 15% รถยนต์เบนซิน 8% และอื่น ๆ 4%

สำหรับการเผาในที่โล่งแจ้ง กรุงเทพมหานครได้ติดตามจุด Hotspot โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และ NASA ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง และ 7 วัน ย้อนหลังอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่น่าเป็นห่วงในช่วงนี้คือ ช่วงต้นปีจะมีการเผาชีวมวลจากการเกษตรมากขึ้นทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล โดยกรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบจุลินทรีย์พิเศษให้กับเกษตรกรซึ่งเป็นสูตรพิเศษที่สามารถหมักชีวมวลได้รวดเร็วขึ้นจาก 30 วัน เหลือเพียง 7 วัน เพื่อให้ประชาชนลดจำนวนฟางข้าวที่ต้องเผาลงได้

ส่วนโครงการ “รถคันนี้ลดฝุ่น” หรือโครงการรณรงค์ให้ประชาชนเปลี่ยนไส้กรองอากาศและน้ำมันเครื่องยนต์ ปัจจุบันมีภาคีเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจาก 15 บริษัทรถยนต์และค่ายน้ำมันที่เข้าร่วมในช่วงแรก ปัจจุบันมีศูนย์ให้บริการรถยนต์เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น รวมถึงห้างสรรพสินค้ามีการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้กับรถ ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ และร่วมโครงการ เช่น ลดค่าบริการจอดรถในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมผลการดำเนินการและจำนวนรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในเบื้องต้นจากการรายงานข้อมูลจำนวนรถที่เข้าร่วมโครงการจาก 1 บริษัท พบว่ามีรถยนต์เข้าร่วมโครงการถึง 20,000 คัน ซึ่งถือว่าประชาชนให้ความร่วมมือเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก โดยกรุงเทพมหานครจะเร่งรวบรวมผลการดำเนินการและรายงานผลให้ทราบทุกสัปดาห์ต่อไป ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2566 ถึง 9 มกราคม 2567 มีรถเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนไส้กรองแล้ว 41,488 คัน ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้ 2% ซึ่งมีการตั้งเป้าเปลี่ยนไส้กรองรถจำนวน 300,000 คัน เพื่อช่วยลดฝุ่น PM2.5 จากภาคการจราจรได้ 15%


นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ตรวจแหล่งกำหนดฝุ่น ยอดสะสมรวมตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 -9 มกราคม 2567 ดังนี้ สถานประกอบการ/โรงงาน 348 แห่ง ตรวจสอบ 12,212 ครั้ง ไม่ผ่าน (สั่งให้ปรับปรุงแก้ไข) 8 แห่ง แพลนท์ปูน 120 แห่ง ตรวจสอบ 1,642 ครั้ง ไม่ผ่าน (สั่งให้ปรัมปรุงแก้ไข) 17 แห่ง สถานที่ก่อสร้าง 525 แห่ง ตรวจสอบ 4806 ครั้ง ไม่ผ่าน (สั่งให้ปรับปรุงแก้ไข) 34 แห่ง ถมดิน/ท่าทราย 23 แห่ง ตรวจสอบ 286 ครั้ง ตรวจควันดำในสถานที่ต้นทาง 3,090 คัน เกินค่ามาตรฐาน (สั่งให้ปรับปรุงแก้ไข) 19 คัน ตรวจจับรถยนต์ปล่อยควันดำ 147,021 คัน ห้ามใช้ 2,282 คัน ตรวจรถโดยสารประจำทาง/ไม่ประจำทาง 38,028 คัน ห้ามใช้ 120 คัน และตรวจรถบรรทุก 97,429 คัน ห้ามใช้ 544 คัน

ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน AirBKK เว็บไซต์ ww.airbkk.com, www.pr-bangkok.com, เฟซบุ๊กเพจ : สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เฟซบุ๊กเพจ : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม และเฟซบุ๊กเพจ : กรุงเทพมหานคร รวมถึง LINE ALERT และ LINE OA @airbangkok กรณีประชาชนพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue ได้. -411-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ