เปิดจราจรถนนสุขุมวิทแล้ว หลังซ่อมฝาบ่อทรุดแล้วเสร็จ

กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – เหตุฝาบ่อร้อยสายไฟกลางถนนสุขุมวิททรุดตัว กลืนรถ 10 ล้อบรรทุกดินครึ่งคัน ล่าสุดเช้าวันนี้ (9 พ.ย.) เปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว ขณะที่ ผบช.น. สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจพื้นที่ปล่อยให้บรรทุกน้ำหนักเกิน-รับส่วยสติกเกอร์จริงหรือไม่


ความคืบหน้าเหตุฝาบ่อโครงการนำสายไฟลงดินของการไฟฟ้านครหลวง เกิดทรุดตัวกลางถนน บริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 ทำให้รถ 10 ล้อบรรทุกดิน จมเกือบทั้งคัน เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงเที่ยงวานนี้ (8 พ.ย.) เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากรถบรรทุกมีน้ำหนักเกิน ทำให้คานเหล็กด้านล่างแผ่นคอนกรีตหัก ส่งผลให้การจราจรบริเวณถนนสุขุมวิทและใกล้เคียงเป็นอัมพาตนานกว่า 7 ชั่วโมง

เมื่อคืนนี้ ตอน 5 ทุ่ม ตำรวจจราจร สน.พระโขนง เปิดการจราจรบริเวณที่เกิดเหตุ หลังผู้รับเหมาร้อยสายไฟใต้ดินของ กฟน. มาดำเนินการวางโครงเหล็กรับน้ำหนักที่หักงอ จนมั่นใจในความปลอดภัย จึงเปิดการจราจรตามปกติ สำหรับจุดเกิดเหตุจะมีรถหนาแน่นเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้า เพราะเป็นเส้นทางเข้าเมืองที่รับรถมาจากทางถนนบูรพาวิถี และถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นรถที่มาจากฝั่ง จ.สมุทรปราการ


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของถนนสุขุมวิท มีหลุมบ่อที่ดำเนินการในลักษณะนี้หลายจุด โดยจุดที่เกิดเหตุ ผู้รับเหมาเพิ่งเปิดปากหลุม และลงไปทำงานเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นจึงปิดปากหลุมไว้ กระทั่งเกิดอุบัติเหตุ ส่วนรถคันเกิดเหตุล่าสุดตำรวจยึดเป็นของกลางไปไว้ที่ สน. และตักดินที่ตกลงไปในหลุมกลับคืนบนรถแล้ว เพื่อรอเวลานำไปชั่งน้ำหนัก เพื่อดูว่าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่

ผู้ว่าฯ กทม. สั่งสำรวจไซต์งานก่อสร้าง บรรทุกเกินหรือไม่
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งการทุกสำนักงานเขตกวดขันสำรวจไซต์งานก่อสร้างว่ามีแนวโน้มรถบรรทุกเกินหรือไม่ พร้อมกำชับผู้รับเหมาทุกโครงการดูแลโครงสร้างชั่วคราวที่รับผิดชอบให้ดี ยอมรับว่า กทม. ไม่มีตาชั่งวัดน้ำหนักรถบรรทุกในเมือง แต่อนาคตจะต้องมี เผยกำลังเร่งศึกษาเทคโนโลยีมาใช้ตรวจจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ติดตั้งบนสะพาน ให้เป็นหลักฐานเอาผิดได้

ส่วนเรื่องส่วยสติกเกอร์ กทม. ไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้ดูเรื่องน้ำหนักรถ การจับกุมเป็นของตำรวจเป็นหลัก ขณะที่เทศกิจมีอำนาจตาม พ.ร.บ.ความสะอาด คลุมผ้า มีดินร่วง ดินหล่น สกปรกหรือไม่ แต่หลังจากนี้คงจะต้องมี 3 ฝ่าย คือ กทม. ตำรวจ และทางหลวง ในการกวดขันร่วมกัน พร้อมย้ำว่าหลังจากนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่น เพราะเกิดเหตุคล้ายคลึงติดกัน ทั้งบริเวณซอยสุขุมวิท 64/1 และบริเวณนราชปรารถขาออก บริเวณแยกมักกะสัน-จตุรทิศ


ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ขนส่งแห่งประเทศไทย ออกมาระบุว่า เหตุถนนทรุดที่สุขุมวิท มั่นใจว่ามีการจ่ายส่วยแน่ เพราะสี่แยกในกรุงเทพฯ มีจำนวนมาก และมีเจ้าหน้าที่อยู่ หากไม่ติดสติกเกอร์เช่นนี้จะต้องถูกเรียกตรวจและจอดตลอดเวลา จึงต้องมีการเคลียร์เพื่ออำนวยความสะดวก และเชื่อว่าต้องเคลียร์หลายจุด หลายหน่วยงาน แต่ตนพูดไม่ได้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบกันเอาเอง เห็นว่าไม่ใช่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ที่เกิดเหตุที่ราชปรารภและเข้าใจว่าเป็นเจ้าของเดียวกันกับกรณีที่เกิดเหตุที่สุขุมวิท 64 และสิ่งที่เป็นห่วงคือ สะพานข้ามแม่น้ำต่างๆ ไม่มีด่านชั่งตรวจสอบเลย หากชำรุดหรือหากขึ้นมาเหมือนที่เกิดในต่างประเทศ อันตรายมาก ฝากวิงวอนไปยังประชาชนที่ต้องใช้รถใช้ถนนร่วมกับรถบรรทุกว่าจะต้องระมัดระวัง เพราะรถบรรทุกมีทักษะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

สั่งสอบ ตร.พื้นที่ปล่อยบรรทุกน้ำหนักเกิน-รับส่วยจริงหรือไม่
ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 ตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุที่เกิดขึ้น หลังปรากฏข้อมูลว่ารถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุมีสติกเกอร์หน้ารถเป็นรูปดาว มีอักษรตัว B สีเขียว ทำให้สงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์หรือไม่ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ จึงลงนามคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ที่ 348/ 2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภพธร จิตติ์หมั่น รอง ผบก.น.5 เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้ดำเนินการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จใน 3 วัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารญาณเลือกตั้ง

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” นักแสดงตลกดัง เสียชีวิตในวัย 57

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เสียชีวิตในวัย 57 ปี ญาติและทีมงานทำใจไม่ได้ เผยเตรียมกลับมาในแพลตฟอร์มต่างๆ อีกครั้ง แต่มาเสียชีวิตก่อน

ศาลให้ประกัน “เอกราช ช่างเหลา” คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 1,200 ล้านบาท ก่อนได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์

สอบปากคำแล้ว 117 ปาก เร่งสางคดีตึก สตง.ถล่ม

รองผบช.น. เผย สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง คดีอาคาร สตง.ถล่มแล้ว 117 ปาก ยังรอสอบบริษัทควบคุมงาน-ออกแบบก่อสร้าง พร้อมนัดสอบ ‘ปฏิวัติ’ CEO กิจการร่วมค้า PKW 21 เม.ย. เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง