สถาบันมะเร็งฯ ชี้นโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้สะดวกขึ้น

7 มิ.ย. – รองผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ชี้หลังเกิดนโยบาย Cancer Anywhere ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งสะดวกและเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น ผลประเมินความพึงพอใจทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการอยู่ในระดับดี ปี 2567 เดินหน้าลงพื้นที่เขตสุขภาพทั่วประเทศเพื่อสื่อสารนโยบายให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น


นพ.ศุภกร พิทักษ์การกุล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษด้านเวชกรรม สาขามะเร็งวิทยานรีเวช และรองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวถึงนโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ หรือ Cancer Anywhere ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองว่า นโยบายนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 ตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบอร์ด สปสช. เพื่อเพิ่มความสะดวกและเพิ่มการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยมะเร็ง จากเดิมที่ต้องให้โรงพยาบาลต้นทางทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลที่รักษาได้ เปลี่ยนเป็นให้ผู้ป่วยมะเร็งไปรักษาที่โรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองที่ไหนก็ได้ ทำให้มีทางเลือกในการรักษามากขึ้น และเมื่อไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นทาง ก็ช่วยอำนวยความสะดวก ลดการเดินทางของผู้ป่วยมากขึ้น เช่น คนไข้ที่อยู่ต่างจังหวัดแต่มาทำงานใน กทม. เมื่อป่วยเป็นมะเร็ง ก็ต้องกลับไปเริ่มที่โรงพยาบาลต้นสิทธิและทำการรักษาในเขตสุขภาพนั้น ๆ แต่ปัจจุบันเมื่อรู้ว่าป่วยก็เข้ารักษาที่โรงพยาบาลใน กทม.ได้เลย ไม่ต้องกลับไปขอหนังสือส่งตัว

นพ.ศุภกร กล่าวต่อไปว่าในช่วง 2-3 ปีมานี้ ตัวเลขผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่อยู่ที่ประมาณ 140,000 ราย/ปี จำนวน visit ที่โรงพยาบาลทั้งรายเก่ารายใหม่ประมาณ 2 ล้านครั้ง/ปี และตั้งแต่มีนโยบาย Cancer Anywhere เกิดขึ้น จำนวนผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทองก็เพิ่มขึ้นด้วยเล็กน้อย แต่ไม่เพิ่มแบบก้าวกระโดด คาดว่าเป็นคนไข้ที่ไม่เคยใช้สิทธิบัตรทอง เช่น จ่ายเงินเอง พอมีนโยบายนี้ทำให้คนไข้บางส่วนกลับมาใช้สิทธิในระบบบัตรทอง


อย่างไรก็ดี ในแง่ความสะดวกในการรับบริการจะเห็นภาพชัดเจน ผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็วขึ้น ผลประเมินความพึงพอใจ ทั้งจากผู้ให้บริการและผู้ระบบริการก็อยู่ในระดับดี ขณะเดียวกันสถาบันมะเร็งฯ ได้เก็บข้อมูลการเข้าถึงบริการเปรียบเทียบก่อนและหลังมีนโยบายนี้ พบว่าอัตราการเข้าถึงการรักษา ทั้งการผ่าตัด รังสีรักษา และเคมีบำบัด เพิ่มขึ้นทีละนิดๆ โดย 5 อันดับโรคมะเร็งที่พบมากที่สุด คือมะเร็งตับ/ท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่/ลำไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก

สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายของสถาบันมะเร็งฯ นั้น นพ.ศุภกร กล่าวว่า สถาบันมะเร็งฯ รับผิดชอบการจัดรูปแบบบริการใน 2 ส่วน คือ 1.การออกแบบระบบข้อมูลรองรับนโยบาย เพราะเมื่อไม่มีหนังสือส่งตัว การที่โรงพยาบาลจะสื่อสารกันก็ต้องพัฒนาโปรแกรมสำหรับส่งต่อข้อมูลการรักษาระหว่างโรงพยาบาลด้วยกัน เช่น คนไข้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งอะไร ได้รับการรักษาอะไรไปแล้วบ้าง การพัฒนาแอปฯ ตรวจสอบคิวของแต่ละโรงพยาบาลว่ามีผู้รอคิวมากน้อยเพียงใด โรงพยาบาลอะไรที่สามารถไปรับบริการได้เร็ว และพัฒนาแอปฯ ในมือถือ เพื่อคืนประวัติการรักษาให้คนไข้ และ 2.การจัดเครือข่ายผู้ประสานงานด้านโรคมะเร็ง (Cancer coordinator) ของแต่ละโรงพยาบาลในทุกเขตสุขภาพ ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์นโยบาย ทำความเข้าใจกับผู้ป่วย ติดต่อประสานงานระหว่างโรงพยาบาล

อย่างไรก็ดี จากการดำเนินงานในปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ยังมีอุปสรรคในบางประเด็นคือ 1.การรับรู้นโยบาย เนื่องจากนโยบายมาค่อนข้างเร็ว เวลากระชั้น และติดปัญหาโควิด-19 รวมทั้งมีการเปลี่ยนตำแหน่งคนทำงานด้วย ทำให้การสื่อสารนโยบายอาจจะยังไม่ทั่วถึง 100% 2.การประสานงาน ถ้าจะให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด การประสานงานระหว่างโรงพยาบาลต้องไหลลื่น แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เคยชินกับระบบการใช้หนังสือส่งตัว ดังนั้นจึงต้องพยายามสร้างการประสานงานล่วงหน้าเพื่อให้คนไข้สะดวกที่สุด และ 3.ระบบข้อมูล แม้ Cancer Anywhere จะมีระบบโปรแกรมแยกต่างหาก แต่มาตรฐานข้อมูล โปรแกรมที่แต่ละโรงพยาบาลใช้มีความหลากหลาย ทำให้ต้องบันทึกข้อมูลหลายครั้ง ไม่สะดวกกับผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็อยากให้ระบบข้อมูลมีมาตรฐานและเชื่อมโยงกัน จะช่วยลดภาระหน้างานได้


“การดำเนินงานต่อเนื่องในปี 2566 เราจะเน้นการลงพื้นที่เขตสุขภาพทั่วประเทศเพื่อสื่อสารนโยบายให้ทั่วถึง คนที่ย้ายมารับตำแหน่งใหม่ๆก็จะได้รับรู้นโยบาย นอกจากนี้เราพยายามผลักดันสิทธิประโยชน์การรักษามะเร็งให้มากขึ้นตามข้อมูลวิชาการใหม่ๆที่ออกมา เช่นเดียวกับระบบข้อมูล ก็จะพัฒนาล้อไปกับของกระทรวงสาธารณสุขในการพัฒนาชุดข้อมูลมาตรฐานโรคมะเร็งเพื่อรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลร่วมกันในอนาคต และและอีกส่วนคือพยายามผลักดันเรื่องนี้เข้าไปในกองทุนประกันสังคม เพราะขณะนี้บัตรทองเป็น Cancer Anywhere แล้ว สิทธิข้าราชการก็เหมือนเป็น Cancer Anywhere อยู่กลายๆ หากประกันสังคมมีเรื่องนี้ด้วยก็จะเกิดประโยชน์กับทุกคนในประเทศจริง ๆ” นพ.ศุภกร กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

“วันหงส์แดงแห่งชาติ” ลิเวอร์พูลฉลองแชมป์สมัยที่ 20

25 พ.ค. – แฟนบอลลิเวอร์พูลในเมืองไทย จัดงาน “วันหงส์แดงแห่งชาติ” เฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สมัยที่ 20 โดยมี ยอห์น อาร์เน่ รีเซ ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล ร่วมขึ้นรถแห่ฉลอง.-สำนักข่าวไทย

งานวิ่งทิพย์ไร้ผู้จัด นักวิ่งกว่าพันคนโดนเท

กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – นักวิ่งนับพันคนโดนเทในงานวิ่งทิพย์ “Run for destination” แห่แจ้งความวุ่น ขณะที่สาวชุดดำ หนึ่งในสตาฟฟ์ โผล่มาคนเดียว ประกาศคืนเงินคนละ 10 บาท เรื่องวุ่นๆ ของคนรักวิ่ง เช้านี้ (25 พ.ค.) นักวิ่งถึงกับมึนเมื่อโดนผู้จัดงานเท กลายเป็นงานวิ่งทิพย์ มีแค่ซุ้มประตู เต็นท์กิจกรรม และรถห้องน้ำ แต่ไม่มีผู้จัด หนึ่งในสตาฟฟ์โผล่มาคนเดียว บอกไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม จึงไม่ทราบผู้จัดและทีมงานถอนตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว กลายเป็นวุ่นวายกันตั้งแต่ช่วงเช้า (25 พ.ค. 68) เมื่อนักวิ่งต่างแห่แชร์ในโลกโซเชียล งานวิ่ง Run For Destination 2025 เป็นงานวิ่งทิพย์ ตามกำหนดจัดขึ้นที่สวนหลวง ร.9 กรุงเทพฯ และทุกอย่างพร้อม นักวิ่งพร้อม แต่ไม่มีผู้จัดงาน โดนเทกันครั้งใหญ่ สำหรับงานวิ่ง Run For Destination 2025 มีกำหนดวิ่งในวันนี้ ที่สวนหลวง ร.9 […]

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจ ฮ.ตก

25 พ.ค. – พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้าน ผบ.ตร. สั่งเร่งสอบสวนหาสาเหตุ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาและให้กำลังใจครอบครัว ความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ 3 นายตำรวจ ประกอบด้วย พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี, ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 พ.ค.) ขณะเฮลิคอปเตอร์กำลังบินจาก […]

นายกฯ จ่อถกนอกรอบเมียนมา แก้น้ำท่วมเชียงราย

บน.6 25 พ.ค. – นายกฯ เตรียมถกนอกรอบเมียนมา แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงราย บอกสถานการณ์คลี่คลายเร็ว เพราะเตรียมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก ว่า เรื่องสารปนเปื้อนได้สั่งการแล้ว แต่ต้องดูรายละเอียดต่อ ซึ่งได้มีการคุยกันนอกรอบแล้ว และมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้คลี่คลายลงแล้ว มีการจัดตั้งโรงครัวดูแลพี่น้องประชาชน และจากที่พื้นที่แจ้งมา ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต น้ำท่วมครั้งนี้คลี่คลายได้เร็ว เพราะเรามีบทเรียนจากปีที่แล้ว ซึ่งตนได้สั่งการตั้งแต่ปีที่แล้วว่า เป้าหมายของเราจะทำอย่างไรไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม ไม่ให้น้ำท่วมหนักเหมือนเดิม อะไรที่เคยเกิดขึ้นแล้วต้องเบาลงทุกอย่าง นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไรก็ตาม จะต้องเบาลง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ฤดูฝนนี้เรามีการขุดลอกคูคลอง ซึ่งได้ทำไว้ตั้งแต่น้ำท่วมปีที่แล้ว จึงทำให้น้ำท่วมครั้งนี้ไม่หนัก ซึ่งถือว่าช่วยได้เยอะมาก ส่วนเส้นทางของน้ำที่เราตกลงกับเมียนมา ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ในส่วนของเราเริ่มแล้ว แต่บังเอิญทางเมียนมามีปัญหาเรื่องแผ่นดินไหว เขาจึงเริ่มช้ากว่าเรา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพคุยหมดแล้ว และเขาเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มแล้ว การที่ตนไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน […]