กทม.แถลงขออภัยพยาบาลทำงานเกินเวลา เร่งบรรจุเพิ่ม-ปรับปรุงระบบ

กรุงเทพฯ 2 มิ.ย. – ผู้บริหาร กทม. แถลงขออภัยพยาบาลเหตุทำงานเกินเวลา เตรียมเร่งบรรจุพยาบาลใหม่ พร้อมปรับปรุงระบบเตือนทำงานเกินเวลา โดยนำเทคโนโลยีมาใช้


(2 มิ.ย.66) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงปัญหาการขาดแคลนบุคลากร จากกรณีทางสื่อออนไลน์ได้กล่าวถึงบุคลากรทางการแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครทำงานเกินเวลา กรุงเทพมหานครจึงได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นจากระบบ Traffy Fondue พบว่ามีผู้ร้องเรียนเข้ามาจริง

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวว่า การให้พยาบาลทำงานเกินกว่าชั่วโมงที่ควรจะต้องทำ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะจริงๆ แล้วทางสำนักการแพทย์มีมาตรฐานการทำงานที่เข้มงวด โดยปกติพยาบาลจะอยู่กะได้ติดต่อกันแค่เพียง 2 กะเท่านั้น คือไม่เกิน 16 ชั่วโมง ซึ่งทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กำชับเรื่องนี้ไว้ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าพยาบาลทำงานนานจนเกินไปอาจจะเป็นไปได้ที่จะกระทบต่อความเหนื่อย กระทบต่อสมาธิ หรืออาจจะกระทบต่อการรักษาพยาบาลประชาชน ทั้งในแง่ของสมรรถนะ ความสามารถ หรืออารมณ์ จึงได้สั่งการให้หาข้อเท็จจริงและทำการแก้ไข โดยไม่ให้มีการทำงานเกินกว่าชั่วโมงมาตรฐานอีก


จากระบบ Traffy Fondue ทำให้พอจะทราบตำแหน่งโดยสังเขปของปัญหาว่าน่าจะอยู่ในโซนตะวันออก ซึ่งสามารถเข้าใจต้นสายปลายเหตุได้บางส่วนว่า ประชากรในพื้นที่กรุงเทพมหานครในโซนดังกล่าวมีจำนวนมากจริงๆ เมื่อนำรายชื่อพยาบาลที่เข้ากะครั้งละ 8 ชั่วโมง มาตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีมูลแห่งความจริง ยอมรับว่าอาจจะเป็นระบบของเราที่ไม่มีการเตือนว่าพยาบาลทำงานเกินกว่าชั่วโมงที่เรากำหนดไว้แล้ว ซึ่งระบบดังกล่าวมีในโรงพยาบาลวชิรพยาบาล คือ สามารถสแกนใบหน้าบันทึกข้อมูลการเข้าเวร ในส่วนของโรงพยาบาลกลางก็จะมีระบบการตรวจสอบข้อมูลนี้จากฐานข้อมูลเวรกลางของโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กรุงเทพมหานครต้องไปจัดการทำการแก้ไขให้ระบบแบบนี้เกิดขึ้นในทุกโรงพยาบาล

อีกมุมหนึ่งปัญหาอาจจะเป็นที่การบริหารจัดการของเราในบางช่วงเวลา เช่น กรณีที่การบริหารจัดการเวรพยาบาลมีอยู่แล้วในจำนวนที่ค่อนข้างพอดี แล้วเกิดเหตุพยาบาลมีการติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นโดยพร้อมกัน จำเป็นต้องให้พยาบาลหยุด 3-5 คน ในเวลาเดียวกัน ก็อาจจะทำให้คนที่เหลืออยู่ต้องทำงานยาวนานเกินไป ในเรื่องนี้กรุงเทพมหานครมีการจ้างพยาบาลห้วงเวลาเสริมอยู่ทุกโรงพยาบาล และเรื่องอัตรากำลังที่ตึงตัว เราก็พยายามจะเรียกบรรจุเพิ่มเติมอยู่ในทุกโรงพยาบาล ซึ่งจะทยอยเข้าในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม กรุงเทพมหานครไม่ปฏิเสธเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น โดยจะมีการปรับระบบบริหารจัดการบุคลากรใหม่ทั้งหมดในทุกโรงพยาบาล เพื่อให้เห็นหน้าตักทรัพยากรของทั้งโรงพยาบาลและสามารถบริหารจัดการได้ดียิ่งขึ้น ต้องมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น เมื่อพยาบาลเข้าเวรให้มีระบบนับจำนวนชั่วโมง หากครบ 16 ชั่วโมง จะต้องมีการเตือน ซึ่งการปรับระบบนี้จะต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำอีก และเพื่อไม่ให้บุคลากรของเราต้องทำงานหนักเกินไป เพราะอาจจะกระทบไปถึงภาคประชาชนที่มารับบริการ เราต้องบริหารจัดการจำนวนพยาบาลให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้เกิดการหยุดชะงัก ต้องคุยกับบุคลากรถึงขั้นตอนการทำงาน การอยู่เวร ส่วนสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยบังคับ หรือการบังคับให้อยู่ต่อ ไม่ควรเกิดขึ้น

สำหรับตำแหน่งว่างพยาบาลวิชาชีพและตำแหน่งอื่นๆ อยู่ในระหว่างดำเนินการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานคร ในหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิตจากพยาบาลเกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทร์ 138 ราย อยู่ระหว่างรอประกาศผลสอบเพื่ออนุญาตใบวิชาชีพการพยาบาล ซึ่งเราน่าจะสามารถดึงบุคลากรบางส่วนจากตรงนี้ไปได้ ในขณะเดียวกันของสังกัดสำนักการแพทย์โดยตรง ซึ่งได้ดำเนินการสัมภาษณ์แล้วจะบรรจุแต่งตั้งภายใน 1 สิงหาคมนี้ จะเร่งประสานว่าสามารถที่จะบรรจุแต่งตั้งเร็วกว่านั้นได้หรือไม่ อีกทั้งยังต้องดูเรื่องแผนการเกลี่ยอัตรากำลัง เนื่องจากครั้งหนึ่งมีการเปิดโรงพยาบาลใหม่ จึงมีการเกลี่ยอัตรากำลังไป และหลังจากการเกลี่ยอัตรากำลังครั้งนั้นยังไม่ได้ทบทวนในจำนวนที่เพียงพอและรวดเร็ว นอกจากนี้ แม้ว่าเราจะถูกควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น แต่โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการความยืดหยุ่นของเงินทุนของตัวเองในการจ้างพยาบาลห้วงเวลาเสริมได้ ฉะนั้นต้องยอมรับว่าเราบริหารจัดการได้ไม่รอบคอบพอ


“ต้องขออภัยน้องพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ที่ทำให้เกิดความเครียด หลังจากนี้จะมีการเร่งจัดการเรื่องอัตรากำลัง โดยประสานไปยังสำนักงาน ก.ก. ในการเรียกบรรจุสำหรับบุคคลที่สอบแข่งขันได้ และขึ้นบัญชีไว้ให้เร็วขึ้น หากสามารถทำได้” รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวทิ้งท้าย

ในส่วนของผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นประเด็นที่น่าเห็นใจ เนื่องจากระบบงานของโรงพยาบาลมีภาระงานจำนวนมาก มีจำนวนพยาบาลของสำนักการแพทย์อยู่ที่ 2,300 คน อย่างไรก็ตาม สำนักการแพทย์ให้ความสำคัญกับเรื่องของมาตรฐานในการดูแลประชาชน และการทำงานต้องเป็นไปตามมาตรฐานของสภาการพยาบาล ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลก็มีการประกันคุณภาพมาตรฐานโรงพยาบาลด้วย ในวันนี้จึงได้มีการคุยกับผู้บริหารของแต่ละโรงพยาบาลว่าจะต้องให้ความสำคัญในการดูแลทุกข์สุขของน้องๆ พยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่บุคลากรอื่นๆ โดยดูว่าติดขัดตรงไหน และขอให้พี่ๆ ช่วยกันแก้ปัญหาอุปสรรคให้กับน้องๆ ด้วย ส่วนในเรื่องของระบบตามที่ท่านรองผู้ว่าฯ ทวิดา ได้ให้คำแนะนำ เราคงต้องไปพัฒนาระบบให้มีการตรวจสอบติดตามอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก อีกมาตรการหนึ่งตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่จะสร้างความเข้มแข็งของโรงพยาบาล คือ สถานพยาบาลในระดับปฐมภูมิ ซึ่งเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่จะช่วยลดความแออัดของคนไข้จากโรงพยาบาลได้ ทั้งนี้ สำนักการแพทย์จะทำอย่างเต็มที่ เรายินดีที่จะดูแลประชาชนให้มีคุณภาพ

ด้านหัวหน้าพยาบาล รพ.กลาง กล่าวว่า รูปแบบของการบริหารอัตรากำลังของฝ่ายการพยาบาลทั้ง 11 โรงพยาบาลมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน โดยปกติรูปแบบที่จัดจะไม่เกิน 16 ชั่วโมง ใน 1 เวร แต่ถ้าเกินขึ้นมา เราจะเกลี่ยอัตรากำลัง เช่น ดึงอัตรากำลังบางตึกที่เพียงพอมาช่วยในสถานการณ์ที่คับขัน ยืนยันว่าฝ่ายพยาบาลทราบกฎระเบียบเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ฝ่ายการพยาบาล 11 โรงพยาบาลได้รับคำสั่งจากผู้บริหารให้กลับไปทบทวนแก้ไขเรื่องดังกล่าว โดยเน้นแก้ปัญหาที่ระบบมากกว่าการหาตัวผู้ร้องเรียน

หัวหน้าพยาบาล รพ.ลาดกระบังกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า โรงพยาบาลทั้ง 11 แห่ง มีการดูแลกันทั้งในเรื่องการจัดเวรและความทุกข์สุขของพยาบาล รวมถึงมีการช่วยเหลือกันและกันระหว่างโรงพยาบาลด้วย ซึ่งเป็นการทำตามความสมัครใจ ไม่ได้มีการบังคับน้องๆ แต่อย่างใด

“ยืนยันว่าเรามีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยายามหาทางแก้ไข ทั้งในส่วนของอัตรากำลังของพยาบาลที่มีจำนวนน้อย โดยการจ้างพยาบาลห้วงเวลาเสริมและการเร่งบรรจุแต่งตั้ง รวมถึงการตรวจสอบจำนวนชั่วโมงการเข้าเวรให้เคร่งครัดขึ้น ขอให้มั่นใจว่ากรุงเทพมหานครจะทำให้ดีที่สุด เพื่อดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด” โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก