กทม.แจงงบจัดสร้าง “ศาลารอรถเมล์” ย้ำจัดซื้อจัดจ้างตามหลักเกณฑ์

กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – กทม.ชี้แจงงบจัดสร้าง “ศาลารอรถเมล์” รวมรื้อของเก่า เดินไฟฟ้า รางระบายน้ำ ปูพื้นใหม่ ย้ำจัดซื้อจัดจ้างตามหลักเกณฑ์และราคาต่ำลงหลัง e-bidding


นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง เปิดเผยถึงกรณีการติดตั้งศาลาที่พักผู้โดยสารรูปแบบใหม่ว่า ปัจจุบัน กทม. ได้ดำเนินการ 2 รูปแบบ คือ Type M ขนาด 2.30 ม. x 3.00 ม. มีจำนวน 3 ที่นั่ง ราคาประมาณหลังละ 230,000 บาท และ Type L ขนาด 2.30 ม. x 6.00 ม. มีจำนวน 6 ที่นั่ง ราคาประมาณหลังละ 320,000 บาท ทั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ดำเนินการก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคา Metal sheet งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น โดยในปีงบประมาณ 2566 ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร

นายสิทธิพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาค่าก่อสร้างศาลารถโดยสารรูปแบบใหม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่มทั้งผู้รอรถโดยสาธารณะและผู้ใช้งานทางเท้า ด้วยแนวคิด “ศาลารอรถเมล์ใหม่สำหรับทุกคน” จึงออกแบบใหม่รองรับการใช้งานของผู้พิการ (Universal Design) มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และที่สำคัญคือออกแบบโดยคำนึงถึงการประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดิน กระทบผู้ใช้งานทางเท้า การก่อสร้างแต่ละจุดจึงจำเป็นต้องรัดกุมเกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคใต้ดินและแนวหน้าร้านของเอกชน ซึ่งล้วนมีรายละเอียดและข้อจำกัดที่แตกต่างกันและต้องใส่ใจอย่างมาก


“รถโดยสารสาธารณะเป็นรูปแบบการเดินทางหลักของคนกรุงเทพมหานคร รวมถึงผู้มีรายได้น้อยและนักเรียน-นักศึกษา ปัจจุบันมีการใช้งานมากกว่า 7-9 แสนเที่ยวต่อวัน การพัฒนาศาลารอรถเมล์เป็นหนึ่งในหัวใจในการดึงดูดให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ ควบคู่การเพิ่มป้ายหยุดรถโดยสารในจุดที่ขาด และการบอกข้อมูลการเดินทางและระยะเวลารอรถโดยสาร ซึ่งอยู่ระหว่างการขอข้อมูล GPS รถโดยสารสาธารณะจากกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย” นายสิทธิพร กล่าว

นายสิทธิพร กล่าวด้วยว่า กทม.พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ใช้งานรถโดยสารสาธารณะและผู้ใช้งานทางเท้า โดยหวังว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นการส่งเสริมและเพิ่มโอกาสให้ประชาชนมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากท่านพบปัญหาจากการใช้งานศาลารอรถเมล์ สามารถแจ้ง Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์) หรือสายด่วน กทม. โทร. 1555 เพื่อให้หน่วยงานรับผิดชอบเร่งดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป. -417-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

งานบอล “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 ล้อการเมืองจัดเต็ม

ฟุตบอลประเพณี “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 เริ่มแล้ว ล้อการเมืองจัดเต็ม หลังอัดอั้นมา 5 ปี เหน็บ “รักวัวให้ผูก รักลูกให้เป็นรัฐมนตรี” หุ่น “พิธา-ทักษิณ” วิวาห์ล่ม ปล่อยประชาชนลอยแพ จำลอง “แก้รัฐธรรมนูญ” ถามแก้ชาติไหน บอกกูที

ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง ภรรยาวัย 69 ดับสลด

ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้บ้านอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ภรรยาวัย 69 ปี หนีไม่ทัน ดับสลด คาดต้นเพลิงเกิดจากแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าระเบิด

ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ขณะ “ซาบีดา” เปิดงานที่ยโสธร

ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ขณะ “ซาบีดา” เปิดงานที่ จ.ยโสธร เจ้าตัวบาดเจ็บเล็กน้อย โชว์สปิริตเปิดงานต่อ ด้าน สส.ยโสธร ภท. เจ็บหนัก กระดูกสันหลังแตก

ข่าวแนะนำ

หุ้นAOT

AOT แจ้ง ตลท.ข้อมูล คิงเพาเวอร์ แต่หุ้นยังดิ่งแรง

AOT ชี้แจงข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องคิงเพาเวอร์ แต่หุ้นยังดิ่งแรง ยืนยันไม่ได้ทำการแก้ไขสัญญาสัมปทาน โดยราคาหุ้น AOT ร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุด 41.50 บาทในช่วงเช้าวันนี้

ครม.สัญจรสงขลา

“แพทองธาร” นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สงขลา ก่อนประชุม ครม.สัญจร

“แพทองธาร” นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สงขลา ติดตามการบริหารจัดการน้ำ รับฟังปัญหาการผลิตและส่งออกอาหารทะเล พร้อมผลักดันการท่องเที่ยวเมืองเก่า ก่อนประชุม ครม.สัญจร พรุ่งนี้

รมต.จีนเข้าเมียวดี

“ภูมิธรรม” แจง “หลิว จงอี” เข้าเมียวดี เป็นข้อตกลงร่วม 3 ประเทศ

“ภูมิธรรม” เผย “หลิว จงอี” เข้าเมียวดีจัดการแก๊งคอลฯ ประสานผ่านรัฐบาลไทยแล้ว ย้ำเป็นข้อตกลงร่วม 3 ประเทศแบ่งหน้าที่กันทำ ระบุการส่งตัวหลังจากนี้ให้เมียนมารับผิดชอบ ไทยพร้อมสนับสนุนหากร้องขอ ยันหมายจับ “หม่อง ชิตตู” ดีเอสไอยังไปต่อ แม้จะช่วยปราบคอลเซ็นเตอร์