สำนักข่าวไทย 12 ม.ค. – “พิพัฒน์” เผยเคาะแล้วค่าเหยียบแผ่นดินเก็บนักท่องเที่ยวต่างชาติ รายละ 300 บาท คาดว่าจะเริ่มได้ 1 มิ.ย. 66
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าการเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดินสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว โดยจะจัดเก็บอัตรา 300 บาทต่อคน ทั้งผู้ที่มาจากทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ ในอัตราที่เท่ากัน โดยจะเก็บเฉพาะผู้ที่ถือพาสปอร์ตเข้ามา ไม่ว่าจะมาท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจก็ตาม
ทั้งนี้ จะมีข้อยกเว้นคือกรณีคนที่ถือหนังสือผ่านแดน (Border Pass) สำหรับใช้เป็นเอกสารในการเดินทางเข้าออก ในกลุ่มผู้ที่มาใช้แรงงาน ไปเช้า-เย็นกลับ, ข้าราชการในท้องถิ่นชายแดน จะได้รับการยกเว้น และอีกกรณีที่จะยกเว้นคือ แม้ผู้ที่เข้ามาจะถือพาสปอร์ต แต่มีใบอนุญาตทำงาน หรือ work permit สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อประกอบธุรกิจ กิจการ หรือลูกจ้าง ทุกอาชีพ จะได้รับการยกเว้นเช่นกัน แต่ในกรณีนี้ทางการไทยจะเก็บ 300 บาทก่อน และเมื่อแสดงตนและตรวจเอกสารเรียบร้อยจะโอนคืนในภายหลัง
นอกจากนี้ทางคณะทำงานกำลังพิจารณาในกลุ่มของผู้ที่เดินทางเข้าไทยผ่านเรือสำราญ มาในลักษณะแวะพัก เช้ามา เย็นกลับ กำลังพิจารณาว่าจะยกเว้นค่าธรรมเนียมหรือไม่ เพื่อจะได้เป็นการจูงใจนักท่องเที่ยวได้อีกทาง เหมือนได้แวะมาทำความรู้จักประเทศไทย หากสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักกลุ่มนี้ได้ แน่นอนว่าจะต้องกลับมาเยือนไทยอีกครั้งแน่นอน
ทั้งนี้ ตามกำหนดการจะนำเข้าขอพิจารณาเห็นชอบในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เดือนกุมภาพันธ์ เมื่อ ครม. เห็นชอบก็จะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่มติผ่าน ถ้าเป็นไปตามกำหนดก็น่าจะเริ่มใช้งาน และเก็บค่าธรรมเนียมได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป สำหรับการเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งจากการเก็บข้อมูลในปี 2560-2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปใช้บริการในสถานพยาบาลของรัฐ ซึ่งรัฐต้องใช้งบดูแลมากถึงปีละ 300-400 ล้านบาท โดยเงินที่เก็บค่าธรรมเนียมนั้นจะต้องเอามาซื้อประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิตด้วย ดังนั้น ยังไงก็ต้องเก็บ เพราะไม่มีกองทุน จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการดูแลส่วนนี้.-สำนักข่าวไทย