สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2568

1 ส.ค. – สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดงาน “วันสตรีไทย ประจำปี 2568”

วันนี้ (1 สิงหาคม 2568) เวลา 16.17 น. สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ในงานวันสตรีไทย ประจำปี 2568 ซึ่งสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาคีเครือข่าย ร่วมจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “สตรีไทยพร้อมใจ สืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานอย่างยั่งยืน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา, เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 93 พรรษา, เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมพรรษา 47 พรรษา และเพื่อส่งเสริมบทบาทของสตรีไทยให้พร้อมใจกัน สืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานอย่างยั่งยืน เป็นพลังในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติสืบไป

ในการนี้ พระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ จำนวน 96 คน และพระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติแก่สตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2568 จำนวน 154 คน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้วันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีไทย ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ในทุกปี สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ จึงได้คัดเลือกสตรีดีเด่นที่มีความพร้อมตามคุณสมบัติที่คณะกรรมการกำหนดเข้ารับรางวัลสตรีไทยดีเด่น เพื่อเชิดชูเกียรติสตรีไทย

จากนั้น ทรงจุดเทียนเปิดงาน “วันสตรีไทย ประจำปี 2568” ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ

โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัส เปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2568 ความว่า “สตรีไทย มีบทบาทสำคัญในทุกระดับของสังคม ทั้งในฐานะหลักแห่งครอบครัว ซึ่งเป็นรากฐานของประเทศชาติ และในฐานะผู้ร่วมขับเคลื่อนสังคมในหลากหลายด้าน ตลอดปีที่ผ่านมา สตรีไทยหลายท่านได้สร้างผลงานที่น่าภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้นำทีมวิจัยทางการแพทย์ ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ การคว้ารางวัลจากเวทีนางงามระดับโลก หรือความสำเร็จของนักกีฬาสตรี ที่สร้างชื่อเสียงในเวทีสากล เหล่านี้ล้วนสะท้อนศักยภาพและความเข้มแข็งของสตรีไทยในยุคปัจจุบัน

โลกในปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารมีบทบาทอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน การรู้เท่าทันสื่อ รู้กฎหมาย และใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ จึงเป็นทักษะสำคัญที่สตรีไทยควรเรียนรู้ เพื่อพัฒนาตน พัฒนาครอบครัว และร่วมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ การส่งเสริมบทบาทและสถานภาพของสตรีไทยอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน สตรีไทยทุกคนควรเริ่มต้นจากการพัฒนาตนเอง ด้วยความเพียรพยายาม เสียสละ และมีจิตสำนึกในหน้าที่ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม เพื่อเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติ”

ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ นิทรรศการเครือข่ายสตรีไทย 4 ภาค อาทิ ภาคกลาง นำเสนอนวัตกรรมรักษ์โลก การคัดแยกและจัดการขยะในชุมชน เพื่อพัฒนาเป็นของใช้ในครัวเรือน, ภาคเหนือ นำเสนอการยกระดับสินค้าชุมชนให้มีความทันสมัย โดยนำผ้าทอพื้นเมืองและผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์มาผสมผสานกับเทรนด์แฟชั่น

ภายในงาน มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในฉลองพระองค์ชุดไทยแบบต่างๆ, นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ รวมถึงพระราชกรณียกิจเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, งานหัตถศิลป์ ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อาทิ งานไม้แกะสลัก, การจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเข้าไปสนับสนุน และนิทรรศการการเสริมพลังสตรีและส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ

เวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 56” ซึ่งมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “น้ำพระราชหฤทัย จากฟ้าสู่มหานคร” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์ มูลนิธิโครงการหลวง สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 รวมทั้งเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวง และเผยแพร่ผลการดำเนินงานและผลสำเร็จของมูลนิธิโครงการหลวง ตลอดระยะเวลา 55 ปี

ในการนี้ ทอดพระเนตรการแสดง “ท่วงทำนองแห่งพระมหากรุณาธิคุณ” แล้วทอดพระเนตรวีดิทัศน์ ชุด “The Royal Project Farm to City : น้ำพระราชหฤทัย จากฟ้าสู่มหานคร”

แล้วทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 56” และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ชุด “น้ำพระราชหฤทัย จากฟ้าสู่มหานคร” ประกอบด้วย นิทรรศการ “ธ สืบสานงานพ่อ จากภูผาสู่มหานคร” จัดแสดงจุดเริ่มต้นโครงการหลวง ในปี 2512 โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านโครงการหลวงที่เริ่มต้นจากดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตบนพื้นที่สูง ลดการปลูกฝิ่น และฟื้นฟูผืนป่า แนวพระราชดำริดังกล่าวขยายผลสู่ภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ว่าเป็นต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดงานของโครงการหลวง ก่อเกิดศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ, ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ, สถาบันการเรียนรู้ และสถานีวิจัยการเกษตรและพัฒนาโครงการหลวงโนนดินแดง

นิทรรศการ “เอเดลไวส์…ดอกไม้แห่งพระเมตตา นำพาสู่งานวิจัย” ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานต้นเอเดลไวส์แก่มูลนิธิโครงการหลวง เมื่อปี 2562 เพื่อนำไปศึกษาวิจัย ขยายพันธุ์ ทดลองปลูกที่สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ปัจจุบันขยายพันธุ์และปลูกได้สำเร็จ ออกดอกตลอดปี เกิดเป็น “นวัตวิจัย” ต่อยอดสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างอาชีพแก่เกษตรกรบนพื้นที่สูง

และนิทรรศการ “ศิลปาชีพพื้นที่สูง สืบสานใต้ร่มพระบารมี” แสดงพระราชดำรัสและเหตุการณ์สำคัญของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานผ้าทอ ภูมิปัญญาชนเผ่าพื้นถิ่นบนดอยสูง ที่ได้รับการส่งเสริม อนุรักษ์ และพัฒนาต่อยอดอย่างยั่งยืน

ทอดพระเนตร ร้านจำหน่ายสินค้าในพระราชดำริ อาทิ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานคำแนะนำในการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย ใช้สีย้อมจากธรรมชาติ เช่น ผ้าไหมพิมพ์ลายพระราชทาน ปี 2568 “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” งานเซรามิก และงานจักสาน / เสื้อคอกลม “พึ่งพา” ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ที่ผลิตจากเส้นใยขวดพลาสติกผสมผ้าฝ้าย / กาแฟพันธุ์โรบัสต้า ผลผลิตชุมชนบ้านสาละวะและบ้านไล่โว่ จังหวัดกาญจนบุรี ในโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ร่วมกับ มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างรายได้ให้กับชุมชน / ผลิตภัณฑ์ภาพวาดฝีพระหัตถ์และสินค้าชุมชน จากร้านภูฟ้า / ผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัท ดอยคำ จำกัด / มูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผู้ต้องขัง  

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการ “กาแฟโครงการหลวง ต้นน้ำแห่งความยั่งยืน” ทอดพระเนตรต้นกาแฟในพื้นที่โครงการหลวง ก่อเกิดแรงบันดาลใจในการศึกษาวิจัย และพัฒนากาแฟโครงการหลวง จนนำมาสู่ผลสำเร็จของการส่งเสริมกาแฟอะราบิกาในพื้นที่โครงการหลวงและทั่วพื้นที่ภาคเหนือ การจำหน่ายสินค้าของมูลนิธิโครงการหลวง กว่า 3 พันรายการ รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทำอาหาร การแสดงดนตรี และเสวนา ซึ่งงานโครงการหลวง 56 จะจัดจนถึงวันที่ 12 สิงหาคมนี้.-211-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

RBC ไทย-กัมพูชา (ทภ.1) เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง ตอบรับเพิ่ม 3 ประเด็น

สระแก้ว 22 ส.ค.- ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC ฝ่ายกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ตั้งชุดประสานงานร่วม แต่ไม่ตอบรับแก้ปัญหา MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนถกวง JBC แทน พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ […]

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1

สระแก้ว 22 ส.ค.-เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 รอผล “กัมพูชา” ตอบรับ 3 ข้อ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เริ่มแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงต้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออกเพื่อเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า ในวงประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลง คือ 13 ข้อจากเดิม GBC เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ ของฝ่ายไทย 3 […]

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย