11 ก.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร กับทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ดังนี้

วันนี้ (11 ก.ค.68) เวลา 17.06 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อนเป็นเครื่องทรงฤดูฝน ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร

ในการนี้ เสด็จพระราชดำเนินไปด้านหลังฐานชุกชี ขึ้นเกยไปยังบุษบกที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ถวายพวงมาลัยสักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงกราบ แล้วทรงถอดมงกุฎจากพระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร มอบเจ้าพนักงานภูษามาลา ทรงหยิบพระมหาสังข์ประจำพระองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้วทรงวางพระมหาสังข์ไว้ที่เดิม ทรงรับพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏจากเจ้าพนักงานภูษามาลา แล้วทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้วทรงคืนพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏให้เจ้าพนักงานภูษามาลา ทรงรับผ้าขาวจากเจ้าพนักงานภูษามาลาซับตามองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้ว ทรงรับมงกุฎประจำฤดูฝนจากเจ้าพนักงานภูษามาลา ทรงสวมถวายที่พระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร


แล้วเสด็จลงจากเกยไปประทับพระราชอาสน์ที่จัดไว้ข้างฐานชุกชี ทรงหยิบผ้าขาวที่ซับองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแล้วนั้น ชุบพระสุคนธ์ในโถแก้ว แล้วทรงบีบลงในโถแก้วและหม้อน้ำ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปที่ฐานชุกชี ทรงรับกระทงดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางบนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร



แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมมาสน์ศิลา เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระมหาสังข์เพชรน้อย ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับพระมหาสังข์เพชรน้อยแล้วสรงที่พระเศียร จากนั้น พระราชทานน้ำสังข์นครแก่พระราชวงศ์ กับทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์ที่สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก่ข้าราชการที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทภายในพระอุโบสถ

เสร็จแล้ว พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนครบ 3 รอบ และเจิมที่ฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์ที่สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง พระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ จะทรงประกอบพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงในวันเริ่มต้นฤดูเป็นประจำทุกปี โดยพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงฯ มีมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างเครื่องทรงถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร สำหรับฤดูร้อน และฤดูฝนก่อน ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างเครื่องทรงสำหรับฤดูหนาวถวายอีกสำรับหนึ่ง พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จึงทรงเครื่องทรง 3 ฤดู อันเป็นราชประเพณีที่สืบต่อมาจนปัจจุบัน

ต่อมา เวลา 18.13 น. เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา พุทธศักราช 2568 ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพรรษาในตู้ ทรงถวายพุ่มเทียน ธูปเทียนแพ ต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน บูชาพระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ ทรงถวายพุ่มเทียนและธูปเทียนแพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงถวายพุ่มเทียนและธูปเทียนแพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส, ทรงถวายพุ่มเทียนและธูปเทียนแพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์

จากนั้น เสด็จขึ้นไปบนฐานชุกชี ทรงถวายพุ่มเทียนและธูปเทียนแพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษา 50 พรรษา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร, ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะ พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงถวายพุ่มเทียนและธูปเทียนแพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสร็จแล้ว เสด็จลงจากฐานชุกชี


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธชินสีห์ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงกราบ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายพุ่มเทียนและธูปเทียนแพ แด่พระธรรมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปพระเจดีย์หลังพระอุโบสถ ทรงถวายพุ่มเทียนและธูปเทียนแพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา ถือเป็นเทศกาลทางพุทธศาสนาที่สำคัญเทศกาลหนึ่ง มีระยะเวลาประมาณ 3 เดือนในช่วงฤดูฝน พระมหากษัตริย์จะเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล และบางครั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จแทนพระองค์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เพื่อทรงจุดเทียนพรรษา จุดเทียนเครื่องนมัสการ และถวายพุ่มเทียนเครื่องบูชาแก่พระพุทธปฏิมา และพระราชาคณะ เป็นการแสดงถึงพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนาของพระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเป็นเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภกมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน.-211-สำนักข่าวไทย