ชนสนั่น 5 คันรวด ใกล้แยกทางขึ้นเขาค้อ รถพังยับแต่โชคดีไม่มีคนเจ็บหนัก

เพชรบูรณ์ 28 พ.ย.- เกิดอุบัติเหตุรถชนสนั่น 5 คันรวด บริเวณทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสายสระบุรี – หล่มสัก ฝั่งขาขึ้น จุดกลับรถใกล้กับทางแยกขึ้น อ.เขาค้อ หมู่ที่ 3 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์  เด็กชายวัย 2 ขวบบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย 


พ.ต.ท.วิชาญ อาบสุวรรณ พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรเวร สภ.ท่าพล ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน ที่เส้นทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสายสระบุรี – หล่มสัก ฝั่งขาขึ้น บริเวณจุดกลับรถใกล้กับทางแยกขึ้น อ.เขาค้อ หมู่ที่ 3 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ชนกันจำนวนถึง 5 คัน โดยคันแรกเป็นรถยนต์กระบะ ทะเบียนป้ายแดง โดยกระบะท้ายมีรอยถูกชนจนยุบไปเล็กน้อย คันที่สองเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า สีดำ ด้านหน้าและท้ายได้รับความเสียหาย คันที่สามเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ด้านหน้าและด้านท้ายพังเสียหาย โดยที่มีคันที่สี่เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน มุดอยู่ใต้ท้องรถ สภาพพังเสียหายยับเยิน และคันที่ห้าเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ลักษณะเป็นรถส่งสินค้า สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน และพบผู้ได้รับบาดเจ็บเพียง 1 ราย เป็นเด็กชายวัย 2 ขวบ ซึ่งโดยสารมากับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน คันที่มุดอยู่ใต้ท้องรถกระบะ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พบว่าไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้แพทย์ได้ให้กลับบ้านแล้ว


จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่ารถทั้ง 5 คัน ขับมาในช่องทางจราจรด้านขวา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงเนิน ประกอบกับเป็นจุดกลับรถ ปรากฏว่ามีรถรอกลับรถอยู่เป็นจำนวนมาก และเลยมาอยู่ในช่องจราจรด้านขวา จึงทำให้รถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง มีนายธนกร เป็นคนขับแตะเบรก จึงทำให้รถกระบะ ยี่ห้อ มาสด้า สีดำ ซึ่งนายประดิษฐ์ เป็นคนขับ กำลังจะพาครอบครัวไปไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งอาจจะมาด้วยความเร็วหรือกระชั้นชิดเบรกไม่ทัน จึงชนท้ายรถคันหน้า อีกทั้งรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ซึ่งขับโดย น.ส.ศกุนตรา ขับตามมาจึงเหยียบเบรกจนท้ายรถยกขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน ซึ่งขับโดยว่าที่ร้อยตรีอมร ขับตามมาจึงพุ่งเข้าเสียบเข้าด้านท้ายรถยนต์กระบะ ประกอบกับรถยนต์กระบะโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน มีนายชัยวัฒน์ ขับตามมา จึงชนท้ายรถยนต์เก๋งส่งผลให้รถมุดเข้าไปอยู่ใต้รถกระบะ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ด้านนายธนกร ซึ่งเป็นคนขับรถคันแรกเผยว่า ตนเพิ่งออกรถใหม่มาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และยังไม่ได้ขับออกต่างจังหวัดเลย ในวันนี้หลังภรรยาลงคะแนนเลือกตั้ง อบต.ที่ ต.พญาวัง อ.บึงสามพัน เสร็จแล้ว ตนก็จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง อบต.ที่บ้านเกิด จ.อุดรธานี โดยพาภรรยาและลูกๆ ไปด้วย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนขับรถอยู่ช่องทางด้านขวา ซึ่งขณะนั้นมีรถบนท้องถนนค่อนข้างเยอะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงเนิน และเป็นจุดกลับรถ ปรากฏว่ามีรถรอยูเทิร์นจำนวนมาก จนกินเข้ามาในช่องที่ตนขับอยู่ ตนจึงแตะเบรกและรู้สึกว่ารถถูกชนท้าย จึงมองกระจกหลังก็พบว่ามีการชนกันอีกหลายคัน ตอนแรกตนคิดว่ารถกระบะที่อยู่บนรถเก๋งเป็นรถสิบล้อ เพราะอยู่สูงกว่ารถปกติทั่วไปมาก หลังจากนั้นตนจึงรีบพาภรรยาและลูกๆ ออกมาจากรถ พบว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่มาเสียความรู้สึกที่รถเพิ่งออกมาไม่กี่วันก็ถูกชนท้ายจนได้รับความเสียหายเสียแล้ว

ด้าน น.ส.วริษฐา สุขมา อายุ 43 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนกำลังนั่งทำงานอยู่หน้าร้าน ได้ยินเสียงรถเบรกจึงหันไปดู ก็พบว่ารถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ได้เบรก จากนั้นรถคันที่ขับตามมาก็ได้ชนกันจนเสียงดังสนั่น โดยเหตุการณ์เหมือนยังกับในภาพยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์เก๋งที่มุดไปอยู่ใต้รถกระบะนั้น ในตอนแรกตนคิดว่าน่าจะเจ็บหนัก หรือไม่ก็เสียชีวิต แต่ก็ปรากฏว่ามีผู้ชายคนขับมุดออกมาก่อน จากนั้นผู้หญิงก็กอดเด็กและมุดออกมา โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย มีเพียงเด็กชายวัย 2 ขวบเท่านั้น ที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย


น.ส.วริษฐา สุขมา เผยอีกว่าจุดดังกล่าว กิดอุบัติเหตุบ่อยมาก เพราะเป็นจุดลงเนินและเป็นจุดอับ ประกอบกับเป็นทางแยกลงมาจากเขาค้อ รวมทั้งมีทางกลับรถอยู่ใกล้กับบริเวณแยกแห่งนี้ด้วย จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ว่าในช่วงเทศกาลหรือวันหยุด น่าจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวก หรือไม่ก็นำสัญลักษณ์อะไรก็ได้มาติดตั้งไว้ เพื่อให้ลดความเร็ว หรือใช้ความระมัดระวังในจุดนี้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]