พื้นที่ใต้เขื่อนเจ้าพระยาเผชิญวิกฤติน้ำท่วม

ภูมิภาค 20 ต.ค. – สถานการณ์น้ำ จ.ชัยนาท เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำใกล้แตะ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ท้ายเขื่อนน้ำล้นตลิ่งท่วมอีก 3 ตำบล ชาวบ้านร้องปล่อยน้ำเร็วกว่ารอบแรก ขนของหนีน้ำไม่ทัน


เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 2,766 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท สูงขึ้น 22 เซนติเมตร และล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนฝั่งตะวันตก เพิ่มขึ้นอีก 3 ตำบล ได้แก่ ต.บางหลวง ต.สรรพยา ต.โพนางดำตก เป็นรอบที่ 2 โดยกระแสน้ำไหลข้ามแนวกระสอบทราย ผุดตามท่อระบายน้ำ ตามรั้วบ้าน เข้าท่วมในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต้องเร่งขนของขึ้นที่สูง และนำรถยนต์ รวมทั้งสัตว์เลี้ยง หนีน้ำท่วมออกไปไว้ริมถนนชัยนาท-สิงห์บุรี แต่มีไก่ชนบางส่วนขนย้ายไม่ทัน ต้องนำขึ้นไปไว้บนแคร่ไม้ที่ทำยกพื้นให้สูงพ้นจากน้ำ

ชาวบ้าน ต.โพนางดำตก บอกว่าน้ำท่วมครั้งนี้มาเร็วและท่วมสูงขึ้นเร็วกว่าครั้งก่อน ทำให้บางคนขนของหนีน้ำไม่ทัน จึงไม่เชื่อว่าตัวเลขระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาแสดงในแต่ละวันจะเป็นจริงตามที่แสดง


สำหรับวันนี้แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 2,691 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลง 13 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แม่น้ำสะแกกรัง ไหลผ่าน จ.อุทัยธานี มีปริมาณ 306 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 34 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 3,155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำผันเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเจ้าพระยา มีปริมาณรวมกัน 402 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำระบายท้ายเขื่อน 2,766 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 93 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้น 14 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 17.29 เมตร(รทก) น้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา เพิ่มขึ้น 22 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.17 เมตร

เจ้าพระยาน้ำท่วมเพิ่มต่อเนื่อง 3 อำเภออ่วม
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากการที่เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำและคลองธรรมชาตินอกคันกั้นน้ำชลประทาน ได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากแม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล ท่วมบริเวณบ้านเรือนและที่อยู่อาศัย โดยที่ ต.บ้านแป้ง อ.บางปะอิน น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมในหมู่บ้านรอบที่ 2 ทำให้การสัญจรไปมายากลำบาก ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ


ส่วนพื้นที่ อ.บางซ้าย ชลประทานได้ผันน้ำลงทุ่งเจ้าเจ็ดสุพรรณ ทำให้ปริมาณน้ำในทุ่งเต็มสองฝั่ง และท่วมถนนเส้นทางจากบางซ้าย ปลายกลัด ไปถึง ต.รางจระเข้ จ.เสนา ต.ลำตะเคียน อ.ผักไห่ บางช่วงน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร

ด้านนายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา บอกว่า กรมชลประทานเพิ่มการรับน้ำเข้าฝั่งตะวันตกลงแม่น้ำน้อยและฝั่งตะวันออก ปรับเพิ่มการรับน้ำเข้าคลองชัยนาท- ป่าสัก พร้อมหน่วงน้ำไว้เหนือเขื่อนจ้าพระยา ควบคู่กับการควบคุมระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา มีผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูง 0.20-0.40 เมตร ในช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคมนี้ บริเวณแม่น้ำน้อย พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบมากสุด ได้แก่ อ.ผักไห่ เสนา และบางบาล พร้อมกันนี้กรมชลประทานจะระบายน้ำเข้าทุ่งต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยผันน้ำเข้าทุ่งผักไห่ บางบาล-บ้านแพน เพื่อบรรเทาน้ำท่วมสูงของชุมชนริมฝั่ง ซึ่งทุ่งแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่รอยต่อ 4 อำเภอ 2 จังหวัด ได้แก่ อ.เสนา ผักไห่ บางบาล และ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง

แม่น้ำท่าจีนล้นตลิ่งท่วมวัด-ตลาด
ที่ จ.นครปฐม เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำท่าจีน น้ำทะลักเอ่อล้นเข้าท่วมวัดและสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ

โดยที่วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี ถูกน้ำจากแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ พระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้านในชุมชน ต้องช่วยกันทำกระสอบทรายวางเป็นคันกั้นน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่

จากการสอบถามชาวบ้านที่มาช่วยวัดทำกระสอบทรายกั้นน้ำ เล่าว่าน้ำท่วมมาหลายวันแล้ว แต่สามารถป้องกันได้ โดยวางกระสอบทราย 3 ชั้น และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง สูบระบายน้ำต่อเนื่องตลอดทั้งวัน สามารถป้องกันน้ำได้ แต่เมื่อคืนนี้น้ำมามาก เอ่อเข้าท่วมวัดเต็มพื้นที่ จึงต้องมาตั้งกระสอบทรายเพิ่ม

ส่วนที่ตลาดห้วยพลู อ.นครชัยศรี ชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำท่าจีน มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ ชาวบ้านในชุมชนต้องมาช่วยกันทำกระสอบทรายกั้นน้ำ

นายเอกพล ไหลวัฒนชัย กำนันตำบลห้วยพลู อ.นครชัยศรี เล่าให้ฟังว่า หลังน้ำท่วมปี 2554 เทศบาลตำบลห้วยพลูได้สร้างเขื่อนริมน้ำ ป้องกันน้ำท่วมให้กับชุมชน โดยยึดระดับน้ำปี 2554 เป็นเกณฑ์ แต่วันนี้ระดับน้ำเหลืออีกประมาณ 50 เซนติเมตร จะเท่ากับปี 2554 ขอให้ผู้เกี่ยวข้องค่อยๆ ระบายออกมา วันละไม่เกิน 10 เซนติเมตร ยังสามารถป้องกันได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]