โผล่หลายจังหวัด เร่งตรวจสอบเสาไฟประติมากรรม

ภูมิภาค 18 มิ.ย. – หน่วยงานเข้าตรวจสอบการจัดสร้างเสาไฟประติมากรรมหลายพื้นที่ ที่ระยองพบอีก เสาไฟกินรี ใช้งบเกือบ 35 ล้านบาท ที่กาญจนบุรี ป.ป.ช เก็บข้อมูลจัดซื้อจัดจ้าง 13 อำเภอ พบเสาไฟรูปช้างและกามเทพ ส่วนที่ประจวบฯ เสาไฟสับปะรดกว่า 300 ต้น ถูกทิ้งร้าง ด้าน สตง.สมุทรปราการ ลงพื้นที่สอบเสาไฟกินรี อบต.ราชาเทวะ เผยจุดไหนประชาชนสงสัย ทยอยสอบทั้งหมด


โผล่อีก ร้องสอบเสาไฟกินรี เทศบาลตำบลเชิงเนิน จ.ระยอง
ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลเชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ออกมาร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเสาไฟฟ้าแสงสว่างประติมากรรมกินรี ที่ติดตั้งเรียงรายริมถนนพัฒนาประเสริฐ ในหมู่ 3, 4, 6 และหมู่ 7 ต.เชิงเนิน กว่า 300 ต้น พบว่าใช้งบประมาณจัดสร้างเกือบ 35 ล้านบาท ในช่วงแรกก่อสร้างเมื่อปีงบประมาณ 2557 ในพื้นที่หมู่ 3 และ 4 ใช้งบประมาณ 22.9 ล้านบาท ระยะทาง 1 กิโลเมตรครึ่ง มีเสาไฟฟ้าส่องสว่าง จำนวน 150 ต้น เฉลี่ยต้นละ 1.5 แสนบาท ส่วนการสร้างในระยะที่ 2 ระยะทาง 2 กิโลเมตรเศษ ในหมู่ 4 และหมู่ 6, 7 ใช้งบประมาณ 11.8 ล้านบาท ใช้เสาไฟฟ้าแสงสว่าง จำนวน 180 ต้น ราคาเฉลี่ยต้นละ 66,000 บาท

ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดการก่อสร้างทั้ง 2 ระยะ ที่ระยะเวลาห่างกัน 3 ปี จึงมีราคาถูกลงต่างกันครึ่งต่อครึ่ง ทั้งที่ขนาดเสามีความสูงเท่ากัน คือเป็นเสาสแตนเลส สูงประมาณ 7 เมตร บนยอดเสามีรูปกินรี และติดโคมไฟฟ้าส่องสว่างเหมือนกัน


ชาวบ้านยังให้ข้อมูลด้วยว่า ไฟส่องสว่างบางช่วงไม่ได้เปิดใช้งาน บางช่วงมีแสงสว่างไม่เพียงพอ จึงอยากเรียกร้องขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องได้ตรวจสอบการใช้งบประมาณในการสร้างเสาไฟฟ้าส่องสว่างประติมากรรมกินรีของเทศบาลตำบลเชิงเนิน ว่าได้จัดซื้อจัดจ้างในราคาที่เหมาะสมหรือไม่ และสร้างแล้วเกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นจริงหรือไม่

ป.ป.ช.กาญจนบุรี ลงพื้นที่สอบเสาไฟประติมากรรม

ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี ป.ป.ช.กาญจนบุรี ลงพื้นที่สังเกตการณ์โครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดกาญจนบุรี ตามโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ โดยตั้งแต่ 15-17 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดกาญจนบุรี แล้ว 13 อำเภอ เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกตการณ์จัดทำรายงานข้อเสนอแนะให้ส่วนราชการในจังหวัดกาญจนบุรี ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโครงการอย่างระมัดระวังและถูกต้องตามระเบียบ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้าส่องสว่างประติมากรรมรูปต่างๆ ซึ่งพบว่ามีหลายพื้นที่ เช่นที่ เทศบาลท่าม่วง ตรวจสอบพบว่ามีการจัดทำโครงการเสาไฟประติมากรรมรูปช้าง โครงการมูลค่าถึง 10 ล้านบาท ซึ่งทางเทศบาลชี้แจงว่าเป็นโครงการถนนเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นถนน 1 อำเภอ 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ


น.ส.สุนันทา จำปาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ระบุว่า แม้ทางเทศบาลจะอ้างว่าการก่อสร้างเสาไฟส่องสว่าง เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ แต่ก็ต้องดูให้เหมาะสม จากการตรวจสอบโครงการนี้ใช้งบประมาณไป 10 ล้านบาท

ขณะที่พื้นที่ อ.ท่ามะกา พบโครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมรูปกามเทพ ของเทศบาลตำบลหวายเหนียว ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการเมื่อปี 2549 เพื่อก่อสร้างถนน คสล. พร้อมลดระดับบ่อพักฝาตะแกรงเหล็ก และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง งบประมาณทั้งสิ้น 9,076,000 บาท โดยมีเนื้องานทั้งหมด 3 งาน ได้แก่ งานก่อสร้างถนน คสล. ยาว 470 เมตร งานลดระดับบ่อพักฝา คสล. พร้อมทำฝาตระแกรงเหล็ก 47 บ่อ และงานก่อสร้างไฟฟ้าแสงสว่างรูปกามเทพ จำนวน 62 ชุด ประกอบด้วย มูลค่าเสาไฟพร้อมกามเทพ สายไฟ ท่อ PE รวมเฉลี่ยชุดละ 65,139.13 บาท รวมเงินค่าสร้างเสาไฟทั้งสิ้น 4,038,626 บาท จากการตรวจสอบสภาพเสาไฟชำรุดทรุดโทรม โคมไฟเสียหายบางส่วน เนื่องจากใช้งานมานาน 15 ปีแล้ว

นายช่างเทศบาลตำบลหวายเหนียว ชี้แจงว่า ปัจจุบันจะใช้ไฟส่องสว่างอีกฝั่งหนึ่งของถนนเป็นหลัก ส่วนเสาไฟประติมากรรมจะมีการซ่อมแซมและเปลี่ยนหลอดไฟ เพราะวัสดุบางอย่างปัจจุบันหาซื้อได้ยาก จึงทำให้ไม่สามารถซ่อมแซมได้เหมือนของเดิมทั้งหมด เบื้องต้น ป.ป.ช. จังหวัดกาญจนบุรี และสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 7 อยู่ระหว่างเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอผู้บังคับดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ฝากถึงประชาชนที่พบเห็นเสาไฟฟ้าประติกรรมในพื้นที่ของตนเอง สามารถแจ้งข้อมูลเบื้องต้นมาได้ทางเพจเฟซบุ๊กสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี หรือโทรศัพท์หมายเลข 034 -511300 -2

ชาวประจวบฯ ร้องสอบเสาไฟสับปะรดถูกทิ้งร้าง

นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนการใช้งบพัฒนาจังหวัดของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบฯ มากกว่า 50 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์บนเขาช่องกระจก และด้านหน้าศาลากลางจังหวัด หลังจากประชาชนและนักท่องเที่ยวร้องเรียนปัญหาการใช้งบประมาณจากงบดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีงบประมาณบำรุงรักษาและซ่อมแซม โดยเฉพาะโคมไฟรูปสับปะรดในสวนสาธารณะหน้าศาลากลางหลังใหม่ ไม่สามารถใช้การได้ทั้งหมด ไม่มีหน่วยราชการใดจัดงบซ่อมแซม เนื่องจากพื้นที่รอบเขาช่องกระจกยังไม่มีหน่วยงานใดรับเป็นเจ้าของพื้นที่ นอกจากนี้ พบว่าโคมไฟรูปสับปะรดที่ติดตั้งริมถนนเสียบชายหาด รอบอ่าวประจวบฯ ความยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งมีมากกว่า 300 ต้น ชำรุดเสียหาย บางช่วงใช้งานไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีเสาไฟส่องสว่างขนาดใหญ่ หรือเสาไฟไฮเมส ชำรุดเสียหายไม่สามารถใช้การได้นานกว่า 5 ปี

ด้านนายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบ เปิดเผยว่า ตนเองยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด เนื่องจากเพิ่งได้รับคัดเลือกให้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเป็นปีแรก แต่ในเบื้องต้นโครงการดังกล่าวเป็นของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบฯ ซึ่งมีหลายโครงการ และบางโครงการเทศบาลก็ได้มีการรับมาดูแล แต่ไม่มีงบประมาณในการดูแลซ่อมบำรุง แต่ก็พยายามเข้าไปดูแลซ่อมแซม เพื่อให้สามารถใช้งานได้ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการประสานพูดคุยกับโยธาธิการและผังเมืองประจวบฯ รวมถึงคณะผู้บริหารเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาและซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

สตง.ลงพื้นที่สอบเสาไฟกินรี อบต.ราชาเทวะ

เจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจสอบเสาไฟกินรี ระบบโซลาร์เซลล์ ที่ อบต.ราชาเทวะ ซึ่งเป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างปี 2562-2564 ใช้งบประมาณรวมกว่า 642 ล้านบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ อบต.ราชาเทวะ พาลงพื้นที่ด้วย

จุดแรกที่เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบ คือ บริเวณถนนปูนเลียบคลองหนองงูเห่า ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีลักษณะการติดตั้งเสาใช้แผ่นเหล็กยึดกับสะพานปูน เช่นเดียวกับการติดตั้งเสาในซอยกิ่งแก้ว 1 โดยเจ้าหน้าที่สำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดสมุทรปราการมีการนับจำนวนเสาที่ติดตั้ง วัดระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้น รวมถึงความกว้างความหนาของฐานเสา และระยะเส้นรอบวงเสากินนารี

นายบุญแท้ วงศ์กรนาวิน ผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดิน จังหวัดสมุทรปราการ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่าผู้ที่จะให้ข้อมูลได้คือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินส่วนกลาง ซึ่ง สตง.สมุทรปราการ จะต้องสรุปข้อมูลส่งให้ และหลังจากนี้จะมีการสุ่มลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่าเสาไฟที่ติดตั้งได้มาตรฐานหรือไม่ โดยจุดที่ประชาชนและสื่อมวลชนมีการตั้งข้อสงสัย สตง.จะทยอยตรวจสอบทั้งหมด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน แอร์ อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มียืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าใด เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย […]

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย