โผล่หลายจังหวัด เร่งตรวจสอบเสาไฟประติมากรรม

ภูมิภาค 18 มิ.ย. – หน่วยงานเข้าตรวจสอบการจัดสร้างเสาไฟประติมากรรมหลายพื้นที่ ที่ระยองพบอีก เสาไฟกินรี ใช้งบเกือบ 35 ล้านบาท ที่กาญจนบุรี ป.ป.ช เก็บข้อมูลจัดซื้อจัดจ้าง 13 อำเภอ พบเสาไฟรูปช้างและกามเทพ ส่วนที่ประจวบฯ เสาไฟสับปะรดกว่า 300 ต้น ถูกทิ้งร้าง ด้าน สตง.สมุทรปราการ ลงพื้นที่สอบเสาไฟกินรี อบต.ราชาเทวะ เผยจุดไหนประชาชนสงสัย ทยอยสอบทั้งหมด


โผล่อีก ร้องสอบเสาไฟกินรี เทศบาลตำบลเชิงเนิน จ.ระยอง
ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลเชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ออกมาร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเสาไฟฟ้าแสงสว่างประติมากรรมกินรี ที่ติดตั้งเรียงรายริมถนนพัฒนาประเสริฐ ในหมู่ 3, 4, 6 และหมู่ 7 ต.เชิงเนิน กว่า 300 ต้น พบว่าใช้งบประมาณจัดสร้างเกือบ 35 ล้านบาท ในช่วงแรกก่อสร้างเมื่อปีงบประมาณ 2557 ในพื้นที่หมู่ 3 และ 4 ใช้งบประมาณ 22.9 ล้านบาท ระยะทาง 1 กิโลเมตรครึ่ง มีเสาไฟฟ้าส่องสว่าง จำนวน 150 ต้น เฉลี่ยต้นละ 1.5 แสนบาท ส่วนการสร้างในระยะที่ 2 ระยะทาง 2 กิโลเมตรเศษ ในหมู่ 4 และหมู่ 6, 7 ใช้งบประมาณ 11.8 ล้านบาท ใช้เสาไฟฟ้าแสงสว่าง จำนวน 180 ต้น ราคาเฉลี่ยต้นละ 66,000 บาท

ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดการก่อสร้างทั้ง 2 ระยะ ที่ระยะเวลาห่างกัน 3 ปี จึงมีราคาถูกลงต่างกันครึ่งต่อครึ่ง ทั้งที่ขนาดเสามีความสูงเท่ากัน คือเป็นเสาสแตนเลส สูงประมาณ 7 เมตร บนยอดเสามีรูปกินรี และติดโคมไฟฟ้าส่องสว่างเหมือนกัน


ชาวบ้านยังให้ข้อมูลด้วยว่า ไฟส่องสว่างบางช่วงไม่ได้เปิดใช้งาน บางช่วงมีแสงสว่างไม่เพียงพอ จึงอยากเรียกร้องขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องได้ตรวจสอบการใช้งบประมาณในการสร้างเสาไฟฟ้าส่องสว่างประติมากรรมกินรีของเทศบาลตำบลเชิงเนิน ว่าได้จัดซื้อจัดจ้างในราคาที่เหมาะสมหรือไม่ และสร้างแล้วเกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นจริงหรือไม่

ป.ป.ช.กาญจนบุรี ลงพื้นที่สอบเสาไฟประติมากรรม

ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี ป.ป.ช.กาญจนบุรี ลงพื้นที่สังเกตการณ์โครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดกาญจนบุรี ตามโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ โดยตั้งแต่ 15-17 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดกาญจนบุรี แล้ว 13 อำเภอ เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกตการณ์จัดทำรายงานข้อเสนอแนะให้ส่วนราชการในจังหวัดกาญจนบุรี ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโครงการอย่างระมัดระวังและถูกต้องตามระเบียบ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้าส่องสว่างประติมากรรมรูปต่างๆ ซึ่งพบว่ามีหลายพื้นที่ เช่นที่ เทศบาลท่าม่วง ตรวจสอบพบว่ามีการจัดทำโครงการเสาไฟประติมากรรมรูปช้าง โครงการมูลค่าถึง 10 ล้านบาท ซึ่งทางเทศบาลชี้แจงว่าเป็นโครงการถนนเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นถนน 1 อำเภอ 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ


น.ส.สุนันทา จำปาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ระบุว่า แม้ทางเทศบาลจะอ้างว่าการก่อสร้างเสาไฟส่องสว่าง เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ แต่ก็ต้องดูให้เหมาะสม จากการตรวจสอบโครงการนี้ใช้งบประมาณไป 10 ล้านบาท

ขณะที่พื้นที่ อ.ท่ามะกา พบโครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมรูปกามเทพ ของเทศบาลตำบลหวายเหนียว ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการเมื่อปี 2549 เพื่อก่อสร้างถนน คสล. พร้อมลดระดับบ่อพักฝาตะแกรงเหล็ก และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง งบประมาณทั้งสิ้น 9,076,000 บาท โดยมีเนื้องานทั้งหมด 3 งาน ได้แก่ งานก่อสร้างถนน คสล. ยาว 470 เมตร งานลดระดับบ่อพักฝา คสล. พร้อมทำฝาตระแกรงเหล็ก 47 บ่อ และงานก่อสร้างไฟฟ้าแสงสว่างรูปกามเทพ จำนวน 62 ชุด ประกอบด้วย มูลค่าเสาไฟพร้อมกามเทพ สายไฟ ท่อ PE รวมเฉลี่ยชุดละ 65,139.13 บาท รวมเงินค่าสร้างเสาไฟทั้งสิ้น 4,038,626 บาท จากการตรวจสอบสภาพเสาไฟชำรุดทรุดโทรม โคมไฟเสียหายบางส่วน เนื่องจากใช้งานมานาน 15 ปีแล้ว

นายช่างเทศบาลตำบลหวายเหนียว ชี้แจงว่า ปัจจุบันจะใช้ไฟส่องสว่างอีกฝั่งหนึ่งของถนนเป็นหลัก ส่วนเสาไฟประติมากรรมจะมีการซ่อมแซมและเปลี่ยนหลอดไฟ เพราะวัสดุบางอย่างปัจจุบันหาซื้อได้ยาก จึงทำให้ไม่สามารถซ่อมแซมได้เหมือนของเดิมทั้งหมด เบื้องต้น ป.ป.ช. จังหวัดกาญจนบุรี และสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 7 อยู่ระหว่างเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอผู้บังคับดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ฝากถึงประชาชนที่พบเห็นเสาไฟฟ้าประติกรรมในพื้นที่ของตนเอง สามารถแจ้งข้อมูลเบื้องต้นมาได้ทางเพจเฟซบุ๊กสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี หรือโทรศัพท์หมายเลข 034 -511300 -2

ชาวประจวบฯ ร้องสอบเสาไฟสับปะรดถูกทิ้งร้าง

นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนการใช้งบพัฒนาจังหวัดของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบฯ มากกว่า 50 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์บนเขาช่องกระจก และด้านหน้าศาลากลางจังหวัด หลังจากประชาชนและนักท่องเที่ยวร้องเรียนปัญหาการใช้งบประมาณจากงบดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีงบประมาณบำรุงรักษาและซ่อมแซม โดยเฉพาะโคมไฟรูปสับปะรดในสวนสาธารณะหน้าศาลากลางหลังใหม่ ไม่สามารถใช้การได้ทั้งหมด ไม่มีหน่วยราชการใดจัดงบซ่อมแซม เนื่องจากพื้นที่รอบเขาช่องกระจกยังไม่มีหน่วยงานใดรับเป็นเจ้าของพื้นที่ นอกจากนี้ พบว่าโคมไฟรูปสับปะรดที่ติดตั้งริมถนนเสียบชายหาด รอบอ่าวประจวบฯ ความยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งมีมากกว่า 300 ต้น ชำรุดเสียหาย บางช่วงใช้งานไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีเสาไฟส่องสว่างขนาดใหญ่ หรือเสาไฟไฮเมส ชำรุดเสียหายไม่สามารถใช้การได้นานกว่า 5 ปี

ด้านนายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบ เปิดเผยว่า ตนเองยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด เนื่องจากเพิ่งได้รับคัดเลือกให้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเป็นปีแรก แต่ในเบื้องต้นโครงการดังกล่าวเป็นของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบฯ ซึ่งมีหลายโครงการ และบางโครงการเทศบาลก็ได้มีการรับมาดูแล แต่ไม่มีงบประมาณในการดูแลซ่อมบำรุง แต่ก็พยายามเข้าไปดูแลซ่อมแซม เพื่อให้สามารถใช้งานได้ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการประสานพูดคุยกับโยธาธิการและผังเมืองประจวบฯ รวมถึงคณะผู้บริหารเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาและซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

สตง.ลงพื้นที่สอบเสาไฟกินรี อบต.ราชาเทวะ

เจ้าหน้าที่ สตง.สมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจสอบเสาไฟกินรี ระบบโซลาร์เซลล์ ที่ อบต.ราชาเทวะ ซึ่งเป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างปี 2562-2564 ใช้งบประมาณรวมกว่า 642 ล้านบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ อบต.ราชาเทวะ พาลงพื้นที่ด้วย

จุดแรกที่เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบ คือ บริเวณถนนปูนเลียบคลองหนองงูเห่า ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีลักษณะการติดตั้งเสาใช้แผ่นเหล็กยึดกับสะพานปูน เช่นเดียวกับการติดตั้งเสาในซอยกิ่งแก้ว 1 โดยเจ้าหน้าที่สำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดสมุทรปราการมีการนับจำนวนเสาที่ติดตั้ง วัดระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้น รวมถึงความกว้างความหนาของฐานเสา และระยะเส้นรอบวงเสากินนารี

นายบุญแท้ วงศ์กรนาวิน ผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดิน จังหวัดสมุทรปราการ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่าผู้ที่จะให้ข้อมูลได้คือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินส่วนกลาง ซึ่ง สตง.สมุทรปราการ จะต้องสรุปข้อมูลส่งให้ และหลังจากนี้จะมีการสุ่มลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่าเสาไฟที่ติดตั้งได้มาตรฐานหรือไม่ โดยจุดที่ประชาชนและสื่อมวลชนมีการตั้งข้อสงสัย สตง.จะทยอยตรวจสอบทั้งหมด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]