สมุทรปราการ 21 พ.ย. – อบต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ จ่อทำประชาคม เตรียมจัดซื้อเสาไฟกินรีลอตใหม่อีก 727 ต้น วงเงิน 69 ล้านบาท ในปี 2566
ที่ห้องประชุมชั้น 4 ที่ทำการ อบต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จัดประชุมประชาคมเพื่อเตรียมจัดซื้อกล้องวงจรปิด กล้องฉุกเฉิน และเสาไฟส่องสว่างกินรีแบบโซลาร์เซลล์ การประชุมดังกล่าวมีชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมประชุมจำนวนหนึ่ง แต่ในที่ประชุมยังไม่สามารถหาข้อสรุปการทำประชาคมได้ ชาวบ้านบอกว่านายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ ติดภารกิจ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ และไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมสังเกตการณ์และบันทึกภาพในห้องประชุม โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการประชุมภายใน
การจัดประชาคมมีแผนจะจัดซื้อเสาไฟกินรีลอตใหม่ลอีก 727 ต้น วงเงิน 69 ล้านบาท ในปี 2566 หลังเพิ่งจัดซื้อลอตใหญ่ 720 ต้น วงเงินงบประมาณ 67,967,000 บาท เมื่อกลางปีนี้ รวมทั้งยังมีแผนจัดซื้อกล้องวงจรปิด 360 ตัว วงเงินรวม 54 ล้านบาท
นางสาวแพรวมาศ พรหมดวง สมาชิก ม.4 อบต.ราชาเทวะ เปิดเผยว่า ในวันนี้ที่ประชุมมีการแจ้งที่ประชาคม 3 เรื่อง คือ กล้องวงจรปิด กล้องฉุกเฉิน และเสาไฟกินรี นอกจากนี้ให้ประชาชนเสนอเรื่องสาธารณูปโภคที่ต้องการเข้าที่ประชุม โดยไม่ทราบสาเหตุการไม่ลงมติที่แน่ชัด แต่วันนี้นายธงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ให้รองนายก อบต.ราชาเทวะ เป็นประธานที่ประชุมแทน
สำหรับการประชุมที่เตรียมทำประชาคมนี้ ตนอยากให้ทาง อบต. นำงบประมาณไปใช้ในส่วนที่จำเป็นกว่า โดยเฉพาะพื้นที่ของหมู่ 4 ที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ ยังขาดเรื่องคุณภาพชีวิตของชาวบ้านอีกจำนวนมาก เรื่องเสาไฟกินรีที่ให้แสงสว่างนั้นเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว แต่อยากให้ดูเรื่องพื้นที่ติดตั้งว่าทับซ้อนเกินความจำเป็นหรือไม่ อยากให้มองเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้ ป.ป.ช.ภาค 1 เพิ่งแถลงความคืบหน้าการไต่สวนกรณีเสาไฟกินรีของ อบต.ราชาเทวะ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า มีการไต่สวนแยกตามปีงบประมาณที่จัดซื้อออกเป็น 5 สำนวน แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 2 สำนวน กับผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย 40 คน ส่วนอีก 3 สำนวน อยู่ระหว่างแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะเร่งสรุปสำนวนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ โดยเร็วต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน
สำหรับโครงการจัดซื้อเสาไฟกินรีของ อบต.ราชาเทวะ ถูกร้องเรียนกล่าวหามาตั้งแต่กลางปี 2564 จน ป.ป.ช. ต้องเข้ามาตรวจสอบ โดยดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อระหว่างปีงบประมาณ 2556-2564 รวมวงเงินกว่า 871 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 2556 วงเงิน 64.7 ล้านบาท, ปี 2557 วงเงิน 2.5 ล้านบาท, ปี 2561 วงเงิน 27.6 ล้านบาท, ปี 2562 วงเงิน 171.8 ล้านบาท, ปี 2563 วงเงินรวม 215.7 ล้านบาท และปี 2564 วงเงิน 388.5 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย