กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน


นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน

นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง และยังคงดำเนินอยู่จนถึงตอนนี้ สะท้อนเห็นแล้วว่าฝ่ายกัมพูชาขาดความจริงใจในการยุติการใช้กำลัง ไม่มีความสอดคล้องระหว่างคำพูดกับการกระทำ


“พูดอีกอย่าง ทำอีกอย่าง และยังคงละเลยหลักการพื้นฐานทางมนุษยธรรม ด้วยการโจมตียังไม่เลือกเป้าหมาย ความหมายคือโจมตีไปที่เป้าหมายที่เป็นพลเรือน สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับประเทศไทย และในฐานะประเทศที่มีความรับผิดชอบอย่างแท้จริงต่อประชาคมโลก ประเทศประเทศไทยเองก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรมของกัมพูชา” นายนิกรเดช กล่าว

นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมายนี้ สะท้อนถึงการเพิกเฉยต่อคุณค่าความเป็นมนุษย์ เช่น การที่ตั้งฐานยิงอยู่ในบริเวณโรงเรียน วัด บ้านเรือนของประชาชนตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบโต้จากฝ่ายไทย ถือเป็นการใช้โล่มนุษย์อย่างชัดเจน การโจมตีใส่โรงพยาบาลสนามของไทยและโรงพยาบาลอื่น การกระทำของกองทัพกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ไม่เป็นเพียงการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยเท่านั้นแต่ยังถือการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายสหประชาชาติหรือกฎหมายมนุษยธรรม ซึ่งฝ่ายความมั่นคงไทยมีหลักฐานชัดเจนต่อเหตุการณ์ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาใช้อาวุธร้ายแรงยิงเข้าใส่บ้านเรือนประชาชนที่จังหวัดสุรินทร์ อีกทั้งยังมีการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนและข้อมูลเท็จโดยกล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน

นายนิกรเดช ยังอ่านแถลงการณ์ประณามกัมพูชาอีกรอบ พร้อมกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งหนังสือถึงหน่วยงานสหประชาชาติ 2 หน่วยงาน ได้แก่ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) และศูนย์ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เพื่อแจ้งว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งทำให้ประชาชนต้องออกจากบ้าน ไม่สามารถรักษาพยาบาลได้ การปิดโรงเรียนสร้างความเสียหายต่อโรงเรียนระยะยาว ซึ่งขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของกัมพูชา ด้านสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะตัวสตรี เด็ก และผู้พิการ ขอให้ใช้อำนาจตามอาณัติให้กัมพูชายุติการกระทำดังกล่าว


นายนิกรเดช ย้ำว่า การบิดเบือนข่าวอย่างเป็นทางการของกัมพูชา ขณะที่ตนแถลงอยู่นี้ ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธโจมตีไทยในหลายพื้นที่ในจังหวัดชายแดน ในขณะที่นำเสนอว่าตนเองเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก แต่กลับแพร่ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างไม่หยุดหย่อน และยังมุ่งหวังทำลายเสถียรภาพ ความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ของประเทศไทยในวิธีโลก

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ข้อกล่าวหาว่ากองทัพไทยได้รุกรานและสร้างความเสียหายให้ตัวปราสาทพระวิหาร ตั้งแต่ 24 ก.ค. ล่าสุดวันนี้ก็มีแถลงการณ์อีกหนึ่งฉบับ ตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้งว่า เป็นการกล่าวหาซึ่งไร้หลักฐาน และเป็นข้อมูลต่างๆ ที่สร้างขึ้นเอง ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง นอกจากที่เคยแถลงไปแล้วว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อน และอยู่ห่างจากปราสาทเขาพระวิหารถึง 2 กิโลเมตร เป็นไปไม่ได้ที่จะตกถึง ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้เผยแพร่ภาพประกอบที่ไม่สามารถระบุวันเวลาที่เกิดขึ้นได้ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าเป็นการนำรูปภาพเก่าที่ปรากฏรอยกระสุนที่มีมานานแล้วมานำเสนอ

“ความไม่สุจริตของกัมพูชาสามารถเห็นได้จากการปล่อยข่าวที่เป็นเท็จ การปลอมแปลงข้อมูล มากไปกว่านั้น นอกจากยุทธวิธี การใช้ส่วนที่พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังตั้งใจใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบังเพื่อโจมตีที่ฝ่ายไทยด้วย หลายทศวรรษ ประเทศไทยได้พิสูจน์ให้ประชาคมโลกเห็นมาโดยตลอดว่า ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ล้วนยึดมั่นในหลักสากล กรณีนี้ก็เช่นกัน การที่ไทยจำเป็นต้องทำมาตรการตอบโต้กับกัมพูชา ถือเป็นสิทธิที่ชอบธรรมของประเทศไทย ภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ โดยเฉพาะสิทธิในการป้องกันตัวเองจากการรุกรานของกัมพูชา การตอบโต้ของไทยเป็นไปอย่างมีสัดส่วน และอยู่จำกัดเฉพาะการโจมตีทางทหารที่จำเป็นเท่านั้น ทุกก้าวของไทยในการรับมือสถานการณ์ชายแดนไทยยังตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และความรับผิดชอบในฐานะประเทศสมาชิก

นายนิกรเดช ย้ำว่า ช่วงเวลาที่มีความละเอียดอ่อน ขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังในการสื่อสารและรับข้อมูล โดยเฉพาะในช่องทางสื่อสารของออนไลน์ ที่อาจจะนำไปสู่หรือสร้างความแตกแยกได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ขอให้ประชาชนเชื่อว่าในการดำเนินการของรัฐบาล โดยการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ได้ทำการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประเทศและองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี จะมีการพูดคุยกับฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายนิกรเดช เปิดเผยว่า การพูดคุยได้เริ่มต้นขึ้น โดยฝ่ายไทยได้มีการประสานการหารือหลังจากที่ได้พูดคุยกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตนสามารถให้ข้อมูลตามที่ปรากฏเป็นข่าวได้เท่านั้น หากมากกว่านั้นก็จะไปเกี่ยวข้องกับความละเอียดอ่อนของการหารือ

เมื่อถามย้ำว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับทราบรายงานที่มีการหารือแล้วหรือยัง นายนิกรเดช กล่าวว่า ได้มีการรับทราบแล้ว ตนให้ข้อมูลได้ประมาณนี้

ส่วนที่มีข่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและกัมพูชามีการพูดคุยกัน เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายนิกรเดช กล่าวว่า มีการหารือผ่านทางสหรัฐอเมริกา เป็นสิ่งที่ตนยืนยันได้ ซึ่งมีความพยายามโดยสหรัฐ และมีหลายประเทศที่พยายามช่วยในเรื่องนี้ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาที่นายโดนัล ทรัมป์ ได้พยายามให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกัน กระทรวงการต่างประเทศก็ได้พยายามประสาน หาช่องทางที่จะพูดคุย แต่รัฐมนตรียังไม่ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อถามย้ำว่านายภูมิธรรมพยายามให้รัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศพูดคุยกันมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้เกิดการหยุดยิง นายนิกรเดช ย้ำท่าทีว่าทุกอย่างเป็นไปได้แต่มีข้อแม้อยู่ 1 ข้อ คือความจริงใจของกัมพูชา ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขแรก ที่สร้างความไว้ใจให้กับฝ่ายไทยได้ การพูดคุยเกิดขึ้นได้ ซึ่งไทยพูดมาโดยตลอดว่าต้องการหาข้อยุติโดยสันติวิธีผ่านการพูดคุย แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงความจริงใจ ความสุจริตใจ และการกระทำที่ทำให้ฝ่ายไทยไว้ใจได้

เมื่อถามถึงบรรยากาศการพูดคุยกันระหว่างนายภูมิธรรมและนายโดนัล ทรัมป์ นายนิกรเดช กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เท่าที่ได้รับทราบมาก็เป็นการพูดคุยที่ประธานาธิบดีทรัมป์พูดคุยด้วยความหวังดี ที่อยู่ในการเจรจาภาษีระหว่าง 2 ประเทศ และได้พูดตรงๆ ว่าจะไม่สามารถเจรจาภาษีได้ หากยังมีความไม่สงบเกิดขึ้นทั้ง 2 ประเทศอยู่ เรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรกประเทศจีนก็เคยเสนอที่จะช่วย มาเลเซียก็เช่นกัน แต่กรณีนี้ก็มีเรื่องภาษีตอบโต้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องต้องใช้ความพยายามในการพูดคุยกัน พร้อมย้ำว่าฝ่ายไทยมีความพร้อมมานานแล้ว แต่มีข้อแม้อยู่ เราไว้ใจกัมพูชาได้แค่ไหน ความสุจริตใจจากฝ่ายกัมพูชาแค่ไหน ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยระหว่างนายภูมิธรรมและนายโดนัล ทรัมป์ ก็เป็นการคุยที่มิตรประเทศ ประเทศหนึ่งหวังดี. -312 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย