ตรัง 13 ส.ค. – เร่งล่าคนร้ายกระหน่ำยิงพ่อวัย 60 ดับคาวงข้าว ส่วนลูกสาวเจ็บ กระสุนปืนเข้าที่แขน ลูกเขยวิ่งหนีกระสุน หายไปยังไม่พบตัว พบประวัติทั้ง 3 คน เคยถูกจับติดคุกข้อหายาเสพติด เมื่อปี 2564
เหตุการณ์เกิดขึ้นกลางดึกที่ผ่านมา ที่หมู่ 1 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.กระหน่ำยิง 3 ชีวิต ที่กำลังนั่งล้อมวงกินข้าวในบ้านพัก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายคือ นายสมพงษ์ มีวรรณ อายุ 60 ปี และมีผู้บาดเจ็บ 1 คน คือ น.ส.สุภัค อายุ 36 ปี ลูกสาวนายสมพงษ์ ส่วนนายสมปอง อายุ 48 ปี สามีของ น.ส.สุภัค วิ่งหนีกระสุนปืนออกไปนอกบ้านพัก
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านพบศพนายสมพงษ์ นอนหงายเสียชีวิตในสภาพนุ่งผ้าขาวม้าสีแดงผืนเดียว ตรวจสอบเบื้องต้นพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่บริเวณหน้าอกทะลุแผ่นหลัง 1 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บ น.ส.สุภัค ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เช่นเดียวกัน กระสุนเข้าที่แขนขวาทะลุ 1 นัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก ส่วนนายสมปอง ที่วิ่งหนีกระสุนเตลิดออกไปนอกบ้าน ขณะนี้ยังไม่พบตัว
จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านของ น.ส.สุภัค และสามี ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน นายสมพงษ์ ผู้ตาย เดินทางจาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมาเยี่ยม ระหว่างเกิดเหตุทั้ง 3 คน กำลังนั่งล้อมวงกินข้าว เปิดประตูหน้าบ้านทิ้งไว้ จู่ๆ มีรถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ทราบทะเบียน ขับมาจอดหน้าบ้าน มีผู้ชาย 1 คน ลงจากรถเดินเข้ามาในบ้าน ชักปืนกระหน่ำยิงคนในบ้านที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน
พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบถามน้องชายของนายสมปอง ซึ่งบ้านพักอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุเพียง 10 เมตร
อย่างไรก็ตาม จากการพลิกแฟ้มประวัติคดีอาญา พบว่านายสมพงษ์ ผู้ตาย เคยถูกจับกุมข้อหาร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพยาเสพติด ประเภทที่ 1 ในท้องที่ สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2564 และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 2 เดือน ส่วน น.ส.สุภัค ผู้บาดเจ็บ เคยถูกจุบกุมในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 ในท้องที่ สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ในปี 2564 และนายสมปอง สามีของ น.ส.สุภัค ปี 2564 เคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 ในท้องที่ สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
ตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.ตรัง และชุดสืบสวนเฉพาะกิจเร่งตรวจสอบหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามแยกต่างๆ เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย