เชียงใหม่ 19 ก.ค. – เข่าแทบทรุด! เจ้าของธุรกิจศูนย์อาหารและลานเบียร์ในห้างฯ จ.เชียงใหม่ ทุกข์ซ้ำหลังห้างปิดกิจการ ถูกยกเค้าทรัพย์สินเกลี้ยง ทั้งเตาแก๊ส โต๊ะ เก้าอี้ แม้แต่จานกว่า 1,000 ใบ ช้อนส้อม ตะเกียบ ไม่เหลือ สูญรวมกว่า 500,000 บาท
นายฐิติพงศ์ วัย 44 ปี และนางสาวปิยาพัชร วัย 41 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของธุรกิจศูนย์อาหารและลานเบียร์ ภายในห้างพรอมเมนาดา จ.เชียงใหม่ พาไปดูความเสียหายของพื้นที่เช่าทำธุรกิจ บนพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ถูกคนร้ายยกเค้า ขนข้าวของเครื่องใช้ภายในร้านหายเกือบเกลี้ยง ทั้งเครื่องเสียง ลำโพงชุดใหญ่ เตาแก๊ส 2 หัว รวมทั้งหมด 16 หัว ซิงค์ล้างจาน โต๊ะสแตนเลสกว่า 30 ตัว จานกว่า 1,000 ใบ แก้วเบียร์กว่า 300 ใบ แม้แต่ช้อนส้อมและตะเกียบก็ไม่เหลือ
ทั้งสองคนบอกว่าหลังเข้ามาสำรวจทรัพย์สินเมื่อวานนี้ เข่าแทบทรุด เพราะเป็นอุปกรณ์ทำมาหากินที่เตรียมจะเปิดร้านแห่งใหม่ หลังจากทำธุรกิจนี้มาเกือบ 20 ปี จนย้ายมาทำศูนย์อาหารในห้างแห่งนี้เมื่อ 2 ปีก่อน จ่ายค่าเช่าเดือนละ 300,000 บาท และลงทุนตกแต่งไปกว่า 1 ล้านบาท มีร้านอาหารเข้าร่วม 18 แห่ง แต่มาเจอกับโควิด-19 ซึ่งขาดทุนสะสมกว่า 700,000 บาท จนต้องปิดชั่วคราว แต่ทางห้างฯ ขอให้อยู่ไปก่อน และกลับมาเปิดเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น
จนกระทั่งห้างฯ แห่งนี้ปิดกิจการกะทันหัน เพราะทนการขาดทุนไม่ไหว เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ยังไม่ได้ขนย้ายข้าวของ เพราะไม่มีไฟฟ้า เนื่องจากเป็นของชิ้นใหญ่ ต้องใช้ลิฟต์ และวางใจ เพราะวางมัดจำกับทางห้างฯ ไว้ 400,000 บาท แต่เมื่อมาดูสภาพร้านอีกครั้งแทบไม่เหลืออะไรแล้ว เหมือนร้านเจ๊งแล้วยังถูกปล้นซ้ำอีก
ที่น่าเจ็บใจเจ้าของร้านบอกว่าคนร้ายใช้ล้อเข็นของร้านในการขโมยขนข้าวของจนล้อรถเข็นแทบหลุด และทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า โชคดีอยู่บ้างที่เข้ามาดูร้าน ทำให้ยังเหลือทีวีและโต๊ะบางส่วนที่เตรียมขนออกไปอีก เชื่อว่ามีการขนของออกไปเป็นขบวนการ เนื่องจากเป็นของชิ้นใหญ่ ต้องใช้คนจำนวนมาก คาดว่ามีการขนของออกไปทางบันไดหนีไฟ
ขณะที่ รปภ.ของห้างฯ อ้างว่าไม่ทราบว่ามีการขนของ เพราะดูแลไม่ทั่วถึง ขณะที่ทางห้างปฏิเสธความรับผิดชอบ ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.แม่ปิง ล่าสุดเริ่มพบข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกโขมยไปจากร้านไปโผล่ตามเพจร้านขายของมือสองบ้างแล้ว จึงวิงวอนตำรวจให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นการก่อเหตุที่ซ้ำเติมคนทำมาค้าขาย นอกจากต้องดิ้นรนในการประคองธุรกิจแล้ว ยังต้องมาเจอกับมิจฉาชีพที่ซ้ำเติมกันในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้.-สำนักข่าวไทย