22 มิ.ย. – ราชบุรีเป็นหนึ่งในการผลิตเตาอั้งโล่ ปัจจุบันพัฒนาเป็นเตาอั้งโล่ประหยัดพลังงาน จึงได้รับความนิยมขายดีช่วงน้ำมันแพง ส่วนแม่ค้าอาหารตามสั่งที่ยโสธรหันมาใช้เตาควบคู่กับแก๊สหุงต้มเพื่อความประหยัด
น.ส.พิชญดา พุ่มเลิศ เจ้าของโรงงานผลิตเตาประหยัดพลังงาน เล่าว่า เตาอั้งโล่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน และถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันมาช่วยงานของพ่อแม่ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงงาน และเตาอั้งโล่ก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดราชบุรี นอกเหนือจากโอ่งมังกร เพราะที่นี่มีดินเหนียวคุณภาพดีใช้ปั้นโอ่งและเตาอั้งโล่มายาวนาน โรงงานของตนผลิตเตาหลากหลายแบบและรูปทรง อาทิ เตาประหยัดพลังงาน มีทั้งทรงแหลมและทรงตรง เตาอั้งโล่ หรือ เตาดำ เตาปิ้งย่าง เตาหมูกระทะ เตาขนมครก ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง โดยส่งขายทั่วประเทศราคาตั้งแต่ 80-270 บาท และที่โรงงานผลิตเตาประหยัดพลังงานอยู่แล้ว ทั้งรูปทรงตัววีและทรงตั้งตรง
ขณะที่แผนกจัดส่งบอกว่า เตาอั้งโล่ เตาถ่าน หรือเตาประหยัดพลังงาน ได้รับความนิยมสูง ทั้งร้านอาหาร ร้านหมูกระทะ หรือตามบ้านเรือนแถวชนบท โดยเฉพาะในยุคที่เชื้อเพลิงมีราคาสูงคนก็หันมาใช้เตากันมากขึ้น เฉพาะวันนี้ต้องส่งเตาให้กับร้านค้าที่ จ.พิษณุโลก และพิจิตร ปกติจะวิ่งส่งทั่วประเทศเฉลี่ยเดือนละ 5-6 เที่ยว
พ่อค้าแม่ค้าอาหารตามสั่งหันมาใช้เตาแทนแก๊ส
ส่วนที่ จ.ยโสธร พ่อค้าแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง เตรียมเลิกใช้แก๊สหุงต้มหันมาใช้เตาถ่านหรือเตามหาเศรษฐี ประหยัดพลังงานแทน เนื่องจากทนแบกรับภาระราคาแก๊สหุงต้มที่ปรับขึ้นมาไม่ไหว แม้จะทำอาหารไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนใช้แก๊สหุงต้มก็ตาม
แม่ค้าอาหารตามสั่ง บอกว่า ช่วงนี้ราคาแก๊สหุงต้มขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ตกราคาถังละ 440 บาท พ่อค้าแม่ค้าอาหารตามสั่งเดือดร้อนอย่างมาก ทางร้านจึงเริ่มนำเตาถ่านเข้ามาควบคู่กับแก๊สหุงต้มในการทำการกับข้าวขาย ถ่านตกกระสอบละ 100-120 บาทเท่านั้น และอาจต้องเลิกใช้แก๊สหุงต้มไปในที่สุด. – สำนักข่าวไทย