สมุทรสงคราม 24 พ.ค. – แจ้ง 2 ข้อหาหนักน้องชายคลั่งยาแทงพี่ชายดับ ญาติเผยผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลอันตราย วอนจัดการเด็ดขาด
เย็นวานนี้ นายสมคิด อายุ 40 ปี ชาว ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม คลั่งยาแล้วอาละวาดเตะถังขยะ กระทั่งนายดิเรก อายุ 45 ปี เป็นลูกผู้พี่ของนายสมคิด ซึ่งกำลังตัดต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ตะโกนถาม “ใครเตะถังขยะทำไม” จากนั้นนายสมคิดปรี่เข้าไปล็อกคอนายดิเรก ก่อนจ้วงแทงไม่ยั้ง ญาติๆ พยายามเข้ามาช่วยแต่ไม่ทัน นายดิเรกล้มลงเสียชีวิต ส่วนนายสมคิดวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาตำรวจติดตามตัวได้ แต่นายสมคิดอ้างว่าทะเลาะกับนายดิเรก ซึ่งโวยวายอยู่หน้าบ้าน และตนถูกทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ไม้ตีก่อน
ล่าสุด พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต และจะสอบสวน หากพบพฤติการณ์ที่ผิดกฎหมายจะดำเนินคดีเพิ่ม
นายดำหริ อายุ 41 ปี น้องชายผู้ตาย กล่าวว่า นายสมคิดไม่มีอาชีพ มีพฤติกรรมติดยาเสพติด ถูกจับเข้าออกคุกเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุ นายสมคิดเสพยาเสพติดจนคลั่ง เดินหาเรื่องไปทั่ว กระทั่งมาเตะถังขยะจนนายดิเรกตะโกนถาม เป็นเหตุให้นายสมคิดซึ่งคลุ้มคลั่งปรี่เข้าไปแทงนายดิเรกจนเสียชีวิต
นายดำหริบอกว่า นายสมคิดเป็นบุคคลอันตรายในพื้นที่ ก่อเหตุโวยวายไปทั่ว เดือดร้อนกันทั้งซอย เสพยาจนคลั่ง ทำทีเป็นเพี้ยนๆ แต่แกล้งบ้า ฝากตำรวจดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด อย่าปล่อยออกมาอีก
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เข้าตรวจสอบศพนายดิเรก บริเวณลานหน้าบ้านชั้นเดียว ริมทางรถไฟสายแม่กลอง ถูกแทงตามลำตัว รวม 7 แผล ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้ ห่างไปประมาณ 30 เมตร ริมทางรถไฟ พบรองเท้าผู้ก่อเหตุตกอยู่ และมีดปลายแหลมที่ใช้ในการก่อเหตุตกอยู่ 1 เล่ม ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือ นายสมคิด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องผู้ตาย วิ่งหนีเข้าไปในป่าโกงกาง เจ้าหน้าที่กระจายกำลังปิดล้อมไล่ล่านานกว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เบื้องต้นนายสมคิดรับว่าเสพยาเสพติด และอ้างว่าทะเลาะกับนายดิเรก ซึ่งโวยวายอยู่หน้าบ้าน ถูกทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ไม้ตีก่อน และจะแย่งมีดของตน จึงแทงไปหลายครั้ง ก่อนจะเดินออกมาจากที่เกิดเหตุ ส่วนศพนายดิเรกมอบให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.-สำนักข่าวไทย