สตูล 9 ก.พ.- คุณตาวัย 75 ที่ จ.สตูล โชว์เทคนิคขึ้นต้นสะเดาเทียม อาหารยอดฮิตช่วงหน้าแล้ง โดยจะได้ค่าจ้างฤดูละ 5,000 – 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสูง แต่หากเป็นญาติพี่น้องหรือผู้จะเอาไปทำบุญก็จะขึ้นให้ฟรี
ต้นเทียมหรือสะเดาเทียม หรือสะเดาช้าง ถือเป็นพืชสมุนไพรที่ขายดีในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งชาว จ.สตูล โดยเฉพาะพื้นที่ ต.เขาขาว อ.ละงู จะหารายได้เสริมจากการเก็บยอดสะเดาเทียมขาย ซึ่งยอดสะเดาเทียม หนึ่งในพืชสมุนไพรของภาคใต้ มีรสชาติขมเล็กน้อย ปนฝาด และอมหวาน ชาวบ้านต้องใช้เทคนิคของแต่ละคนในการนำยอดลงมา ก่อนนำมาลวก และทำเป็นมัดๆ ส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดต่างๆ จะขายมัดละ 20 บาท หากรวมน้ำพริกก็จะขายชุดละ 30-40 บาท
กว่าจะยอดสะเดาหรือยอดเทียม ต้องใช้เทคนิคเฉพาะตัว เพราะยอดสะเดาจะอยู่ช่วงปลายลำต้น ประกอบกับต้นสะเดาทางภาคใต้ เป็นต้นไม้ใหญ่ที่สุดสูงตั้งแต่ 25-45 เมตร จึงต้องมีผู้รับจ้างที่มีความชำนาญสูง ขึ้นต้นเทียมเพื่อตัดกิ่งหรือยอด ซึ่งปัจจุบันหายาก โดย 1 ในนั้นคือ นายเพิ่ม ตรีสุข อายุ 75 ปี ชาว ต.ละงู อ.ละงู บอกว่าตนรับจ้างขึ้นต้นเทียมหรือสะเดาเทียมตั้งแต่อายุ 16 ปี ในฤดูที่สะเดาออกยอดอ่อน ประมาณเดือน ม.ค.-มี.ค.จะได้ค่าจ้างฤดูละ 5,000 – 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสูง แต่หากเป็นญาติพี่น้องหรือผู้จะเอาไปทำบุญก็จะขึ้นให้ฟรี
วิธีการขึ้นต้นไม้จะใช้แบบโบราณคือ ใช้ผ้าขาวม้าพันเกลียว จากนั้นนำเท้าทั้ง 2 ข้างใส่ในผ้าขาวม้าแล้วปีนขึ้น แต่เด็กๆ ไม่ควรลอกเลียนแบบ เพราะตนมีความชำนาญเฉพาะตัวและต้องอาศัยความกล้า ที่ผ่านมาไม่เคยมีอุบัติเหตุเพราะตนตั้งอยู่บนความไม่ประมาทเวลาทำงาน ใจพร้อมร่างกายพร้อมเท่านั้นถึงจะรับงานแต่ละครั้ง
ทั้งนี้ ยอดเทียมมีสรรพคุณเป็นยาขับเสมหะ บำรุงสุขภาพ ช่วยระบบขับถ่าย 1 ปีมีให้เก็บเกี่ยวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ยอดเทียมหรือสะเดาเทียมนั้นกินเหมือนกับสะเดาภาคกลางทุกอย่าง สะเดากินคู่น้ำปลาหวาน แต่ยอดเทียมภาคใต้จะนิยมกินคู่กับน้ำพริก ที่คล้ายน้ำพริกกะปิ แต่ใส่ถั่วและมีความหวานนำ กินคู่กับปลาย่างหรือแกงกะทิไข่เป็ด ซึ่งเป็นแกงโบราณของคนสตูลจะเข้ากัน.-สำนักข่าวไทย