สตูล 7 ก.พ.- หนุ่มสตูลขึ้นเขาหาบอนดำ พบก้อนหินประหลาดแวววาวเหมือนอัญมณีแต่แปลกมีกลิ่นหอม เชื่อเป็นของศักดิ์สิทธิ์และมีค่าที่เจ้าป่าเจ้าเขามอบให้
นายพิศาล ชาว ต.ควนโพธิ์ อ.ควนโพธิ์ จ.สตูล นำก้อนประหลาดที่คล้ายก้อนหินสีน้ำตาลแดงแกมเหลือง มีลักษณะแวววาวคล้ายอัญมณี แต่น้ำหนักเบา เมื่อนำมาชั่งได้ 1 กก.พอดี เมื่อกระทบกับแสงแดดจะส่องประกายแวววับเหมือนพลอย และมีกลิ่นหอม และเมื่อนำไปแช่น้ำก้อนดังกล่าวกลับลอยไม่จม และนำเศษเล็กๆ ของก้อนดังกล่าวมาเผาไฟ ก้อนที่แข็งเหมือนก้อนหิน เมื่อถูกไฟจะละลายกลายเป็นยาง และส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณ กลิ่นคล้ายกับน้ำหอมบวกกลิ่นสมุนไพร
นายพิศาล เล่าให้ฟังว่าตนชอบเข้าป่าขึ้นเขาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อหลายเดือนก่อน ตนเข้าป่าเช่นเดิม เพื่อดูต้นบอนดำสตูลซึ่งตอนนี้มีราคาแพง จึงได้ขึ้นไปหาต้นบอนดำบนเขาแห่งหนึ่งเพื่อมาขาย ในวันนั้นเวลาประมาณเที่ยง ขณะที่เดินหาบอนดำอยู่นั้น มีแสงสะท้อนเข้าตาของตน ทำให้สงสัยว่ามันคือแสงอะไร จึงเดินเข้าไปดู และพบก้อนดังกล่าววางอยู่บนใบไม้ ตนจึงเก็บมาพลิกดูเห็นว่ามีแสงแวววาว จึงคิดว่าหินนี้แปลกประหลาด และมีกลิ่นหอมโชยออกมา ที่ผ่านมาขึ้นเขามาตั้งแต่เด็กๆ ก็ไม่เคยพบอะไรแบบนี้ จึงขอเจ้าที่เจ้าทางก่อนนำก้อนหินดังกล่าวกลับบ้าน
เมื่อเพื่อนบ้านเห็นก็วิจารณ์ไปต่างๆ นานาว่าเป็นก้อนพลอยบ้าง บางคนขอแบ่งเศษเล็กๆ ไปเก็บไว้ ตนก็แบ่งให้ บางคนว่าเป็นยางของต้นไม้บางชนิดที่อยู่บนเขา เมื่อมีความหอมอาจเป็นยางของต้นกฤษณา ไม้ที่มีราคาแพงเพราะไม้ที่มียางเป็นก้อนแบบนี้จะต้องอายุมากนับร้อยปี ส่วนตัวแล้วก็อยากทราบเหมือนกันว่าก้อนที่พบนี้เป็นอะไรกันแน่ อยากให้ผู้ที่มีความรู้มาตรวจสอบ หรืออาจจะนำเข้าห้องแล็บเพื่อตรวจให้ชัดว่าเป็นอะไร
แม่ของนายพิศาล กล่าวว่าสมัยก่อนตนและชาวบ้านก็ขึ้นเขาบ่อยๆ เพื่อหาของป่าบ้าง บ้างก็ขึ้นไปเอามูลค้างคาวมาทำปุ๋ย ไม่เคยมีใครพบก้อนแบบนี้ ตนเชื่อว่าก้อนดังกล่าวเป็นวัตถุที่น่าจะมีค่าและศักดิ์สิทธ์ที่ทางเจ้าป่าเจ้าเขาตั้งใจมอบให้เพราะก่อนขึ้นเขาทุกครั้งจะสอนลูกชายว่า ต้องยกมือไหว้และขอเจ้าที่เจ้าทางทุกครั้ง ห้ามทำอะไรที่ลบหลู่เจ้าที่ เราจะได้รับการดูแลและช่วยเหลือจากเจ้าที่เจ้าทาง ลูกชายของตนก็ทำตามตลอด และที่เก็บไว้เพราะเชื่อว่าก้อนดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่ดี ตั้งแต่ได้มาก็ทำมาหากินคล่องขึ้น.-สำนักข่าวไทย