ซิ่งระห่ำชนดะ หวังชนเจ้าของร้านอาหารกลางเมืองหาดใหญ่ เจอยิงสวน

สงขลา 2 ก.พ. – ระทึกกลางเมืองหาดใหญ่ ชายอายุ 52 ปี ขับฟอร์จูนเนอร์พุ่งชนเจ้าของร้านอาหาร แต่หลบทัน ขับต่อชนดะทั้งรถกระบะ และ จยย.เสียหายนับสิบคัน พนักงานร้านใช้ปืนยิงสกัด สุดท้ายหนีไม่รอด ถูกจับได้สภาพสะบักสะบอม


เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (1 ก.พ.) เวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่ร้านอาหารพื้นบ้านชื่อดังของเมืองหาดใหญ่ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี หาดใหญ่ เร่งปฐมพยาบาลนายภาณุ อายุ 52 ปี สภาพแขนหัก บาดเจ็บร่างกายสะบักสะบอมนอนอยู่กลางถนน หน้าร้าน ก่อนรีบนำตัวขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่

ก่อนเกิดเหตุ ชายคนดังกล่าวขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ไปชนกับรถยนต์กระบะอีซูซุ สี่ประตูสีขาว และรถกระบะไปกระแทกกับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค แล้วยังขับรถไล่ชนคน รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในซอยข้างร้าน ล้มระเนระนาดนับสิบคัน ส่วนกระจกหน้ารถฟอร์จูนเนอร์ด้านซ้าย มีรอยกระสุน 1 รู และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 7 ปลอก


สอบถามพนักงานร้านไก่ใต้น้ำเล่าว่า ตอนเกิดเหตุรถฟอร์จูนเนอร์ขับเข้ามาในซอยข้างร้าน จากนั้นคนขับได้เรียกหานายประดิษฐ์ อายุ 52 ปี หรือพี่ลูกหมี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านไก่ใต้น้ำ ให้ออกมาพบ เมื่อพี่ลูกหมีออกมาจากร้าน คนขับก็ขับรถพุ่งชนทันที แต่พี่ลูกหมีหลบทัน จนรถเสียหลักพุ่งไปชน จยย. ที่จอดอยู่หน้าร้านกาแฟล้มระเนระนาด

จากนั้นรถฟอร์จูนเนอร์คันเดิม ก็ขับเข้าไปในซอยเพื่อไปกลับรถ และขับย้อนมาทางเดิมเพื่อหนีออกไปทางหน้าร้าน พนักงานของร้านจึงช่วยกันสกัดจับ และมีพนักงานชายคนหนึ่งชักปืนยิงใส่รถไปหลายนัด ทำให้รถเสียหลักพุ่งไปชนกับรถกระบะที่จอดอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามร้าน จนช่วยกันจับตัวเอาไว้ แต่กว่าจะจับได้ก็ชุลมุนและลงไม้ลงมือกันเล็กน้อย สุดท้ายก็ยอมและนอนบาดเจ็บอยู่บนถนน

หลังเกิดเหตุตำรวจเข้าไปตรวจภายในร้าน เจ้าของร้านเล่าเหตุการณ์เบื้องต้นว่า รถฟอร์จูนเนอร์พยายามขับพุ่งชน แต่ตัวเขาหลบทัน จึงวิ่งเข้าบ้านไปหยิบปืนออกมา ส่งให้ลูกน้องยิงสกัดรถคันนี้ จนเสียหลักพุ่งไปชนรถที่จอดอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามร้าน ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะไม่เคยรู้จักกับชายคนนี้มาก่อน


ตำรวจเชิญตัวพี่ลูกหมีพร้อมลูกน้องอีกคนที่ใช้อาวุธปืนยิงรถไปสอบสวนรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนปืนตรวจสอบแล้วมีทะเบียนถูกต้องและเป็นปืนของพี่ลูกหมี ล่าสุด ตำรวจได้ดำเนินคดีกับทั้งสองฝ่าย โดยได้ควบคุมตัวเจ้าของร้าน และลูกน้องอีก 3 คน ดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ร่วมกันพยายามฆ่า, ร่วมกันทำร้ายร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ, และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ขณะนี้ทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวอยู่ที่ห้องขัง สภ.หาดใหญ่ และอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน

ส่วนนายภาณุ คนขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเน่อร์ ถูกแจ้ง 1 ข้อหาคือ พยายามฆ่า ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และพนักงานสอบสวนจะเรียกมาสอบปากคำและแจ้งข้อหาให้ทราบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม พี่ลูกหมียอมรับว่า เคยเห็นหน้านายภาณุ คนขับรถฟอร์จูนเนอร์เมื่อราว 10 ปีก่อน ซึ่งนายภาณุเปิดกิจการขายศาลพระภูมิอยู่ในพื้นที่ แต่ยืนยันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”