เชียงใหม่ 8 ม.ค.-นายกสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ ยอมรับว่าร้านอาหารและผับบาร์ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ถูกสั่งปิดไปแล้ว 23 ร้าน เพราะละเลยมาตรการ Covid Free Setting
หลังจากที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว ทั้ง 14 วัน 7 วัน และ 3 วัน เริ่มระหว่างวันที่ 7-20 มกราคม จำนวน 23 แห่งนั้น ทำให้สถานที่เสี่ยงหลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผับบาร์ ที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะย่านถนนนิมมานฯ ทำให้วันนี้บรรยากาศเงียบเหงา ทุกร้านต้องปิดร้านตามคำสั่งเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้า ภายหลังพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้มาใช้บริการที่ร้าน ทั้ง 23 แห่ง โดยผู้ที่ติดเชื้อได้เข้ารับการรักษาตามระบบแล้วส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงสูงได้ถูกกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน ตามข้อปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข
นายธนิต ชุมแสง นายนกสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ส่วนหนึ่งของการแพร่ระบาดโควิด-19 ในเชียงใหม่ ซึ่งเกิดจากคลัสเตอร์จากร้านอาหารจนต้องปิดถึง 23 ร้าน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของแต่ละร้าน ยอมรับผู้ประกอบการบางส่วนละเลยในการปฎิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting จนเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมา แต่ร้านอาหารส่วนใหญ่ซึ่งปฏิบัตตามมาตรการอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะการจำกัดจำนวนลูกค้าภายในร้าน ทำให้ลูกค้ายังมีความมั่นใจ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการร้านอาหาร โดยพิจารณามาตรการของแต่ละร้านว่ามีความเข้มงวดอย่างไร เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อโควิด-19
อย่างไรก็ตามเมื่อร้านที่ถูกสั่งปิดเมื่อครบระยะเวลาแล้ว หากจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งจะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งการตรวจเอทีเคพนักงาน ลูกจ้างและนักดนตรีทุกคน เป็นประจำทุก 3 วัน สำหรับร้านที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จะต้องเป็นพื้นที่เปิดโล่งและยังไม่อนุญาตให้เปิดส่วนห้องปรับอากาศหรือปิดทึบ โดยนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป้นผู้ควบคุมดูแล หากพบร้านใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้พบว่าการติดเชื้อยังพบเป็นกลุ่มก้อน โดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันนี้ เพิ่มเป็น 283 ราย ขณะที่มีประชากรฉีดวัคซีนไปแล้วกว่าร้อยละ 90.-สำนักข่าวไทย