แนะตรุษจีน ‘จ่าย – ไหว้ – เที่ยว’ ยึดหลัก 3 ป.

ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ 27 ม.ค.- กรมอนามัย แนะตรุษจีน ‘จ่าย – ไหว้ – เที่ยว’ ยึดหลัก 3 ป. อาหารปลอดภัย ปลอดฝุ่น ธูปสั้นลดควัน ปลอดโควิด พร้อมเตือนระมัดระวังตัวเองหากเข้าตลาดสดคนแออัด

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานการเสวนา “ตรุษจีน จ่าย ไหว้ เที่ยว ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” ณ ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ เยาวราช เขตสัมพันธ์วงศ์ กทม. อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ยังคงเน้นย้ำความปลอดภัย ทั้งวันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ด้วยการยึดหลัก 3 ป. ปลอดภัย โดย ป.ปลอดภัยแรก คือ อาหารปลอดภัย ขอให้เลือกซื้ออาหารและวัตถุดิบจากแหล่งที่มีเครื่องหมายรับรองของราชการ โดยเฉพาะเป็ด ไก่ ต้องสดใหม่ ไม่มีสีคล้ำ ผิวหนัง หรือเครื่องใน ไม่มีจ้ำเลือด ส่วนเนื้อหมูต้องมีสีแดงธรรมชาติ เมื่อกดดูเนื้อไม่กระด้าง ไข่ไก่ และไข่เป็ด ควรเลือกฟองที่ดูสดใหม่ สะอาด สำหรับผักและผลไม้ ก่อนกินหรือนำมาปรุงอาหาร ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง โดยให้ล้างผ่านน้ำก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือแช่ในน้ำผสมเกลืออัตราส่วน2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชู อัตราส่วนครึ่งถ้วยตวงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต (เบคกิ้งโซดา) อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 10–15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง เพื่อความสะอาด และลดการปนเปื้อน สำหรับสถานประกอบการด้านอาหาร ได้แก่ ร้านอาหาร ตลาด โรงทานศาลเจ้า หรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่ม ควรยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคจากอาหารและน้ำเป็นสื่อ ได้แก่ อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ รวมถึงโรคโควิด-19 ส่วน ป.ปลอดภัยที่สอง คือ ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 เลือกใช้ธูปขนาดสั้น ลดระยะเวลา จุดธูป ดับให้เร็วขึ้น เลือกกระดาษเงิน กระดาษทอง ที่มีคุณภาพ แต่ควรลดปริมาณการเผา ลดควัน และลดฝุ่น หากต้องจุดธูป ภายในบ้าน ควรเปิดประตู หน้าต่าง หรือจุดนอกบ้านในพื้นที่เปิดโล่ง สำหรับวัดหรือศาลเจ้า ควรตั้งกระถางธูปไว้นอกอาคาร หรือในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อเสร็จพิธีกรรม หรือหลังสัมผัสธูปหรือกระดาษเงิน กระดาษทอง ควรล้างมือ ล้างหน้า ล้างตา และเก็บกวาดก้านธูป ขี้เถ้าใส่ถุง และมัดปากถุงให้แน่น ป้องกันการฟุ้งกระจายเข้าสู่ร่างกาย และสิ่งแวดล้อม นำไปกำจัดอย่างถูกต้อง ไม่ทิ้งรวมกับขยะทั่วไป ป.ปลอดภัยที่สาม คือ ปลอดภัยจากโควิด-19 ยึดหลัก UP (Universal Prevention) สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ เว้นระยะห่าง ตรวจ ATK เมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยงสูง รวมทั้งการรับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ เด็กเล็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางควรอยู่บ้าน เลี่ยงการไปเที่ยวในที่แออัด ในส่วนของสถานประกอบการ ร้านอาหาร ห้างร้าน ตลาด ศาลเจ้า หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ สามารถประเมินตนเองได้ผ่านระบบ Thai Stop COVID 2 Plus และให้ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร หรือ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด โดยได้มอบป้ายรับรองมาตรฐานCovid free setting แก่ร้านค้าปลีกย่านเยาวราชที่ผ่านการรับรองจำนวน 2 แห่ง


ด้านประดับ โกมุท อุปนายกสมาคมตลาดสดไทย กล่าวว่า ตลาดสดเป็นแหล่งจับจ่ายสินค้าของประชาชน ซึ่งผู้ประกอบการตลาดต้องคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นสถานที่รวมกลุ่มทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ขนส่งสินค้า และผู้ปฏิบัติงานภายในตลาด โดยจัดให้มีจุดเข้า-ออก ทางเดียว มีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อลดความแออัด จัดระบบการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาดทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณพื้นผิวสัมผัสร่วมให้ทำความสะอาดทุกชั่วโมง จัดให้มีภาชนะรองรับขยะแบบมีฝาปิด และต้องล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง รวมทั้งปรับสภาพแวดล้อมให้มีการระบายอากาศที่ดี ส่วนผู้บริโภคที่เข้ามาเลือกซื้อของในตลาด จะต้องคัดกรองความเสี่ยงด้วยการวัดอุณหภูมิก่อนเข้าตลาด หากพบเสี่ยงสูง ให้งดเข้าใช้บริการ โดยให้ผู้ซื้อต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา มีจุดล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอ

รศ.ดร.วัฒน์สิทธิ์ ศิริวงศ์ รองคณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธูปหรือกระดาษเงินกระดาษทอง มีส่วนประกอบของสารปนเปื้อนที่ต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สารอินทรีย์ระเหยง่าย โลหะหนัก ซึ่งมาจากส่วนผสมหลักในการผลิต เช่น สีและกลิ่น ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้เมื่อเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ จะทำให้เกิดเถ้าลอย อนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 และ PM10) และก๊าซพิษที่มีองค์ประกอบโลหะหนัก เช่นอะลูมิเนียม เหล็ก แมงกานีส ตะกั่ว สังกะสี นิเกิล โครเมียม และแคดเมียม เป็นต้น สารระเหยง่าย เช่น สารกลุ่มไดออกซินและสารกลุ่มโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน เบนซีนและ 1, 3-บิวทาไดอีน เป็นต้น เมื่อสารเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายจากการสัมผัส โดยเฉพาะผ่านทางการหายใจ อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพเฉียบพลัน เช่น ไอ จาม หายใจขัด ระคายเคืองตา และหากสัมผัสเป็นประจำระยะยาว อาจทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ หอบหืด หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ปอดอักเสบ และอาจกลายเป็นมะเร็งได้ อีกทั้งอาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ และ พาร์กินสันในระยะยาวได้อีกด้วย นอกจากนี้ ขี้เถ้าที่เกิดจากการเผา ยังคงมีโลหะหนักข้างต้นปนเปื้อน ซึ่งหากกำจัดไม่ถูกต้อง อาจจะเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร ก่อทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ประชาชน ที่ใช้ธูปหรือกระดาษเงิน กระดาษทอง ควรมีความตระหนักในการดูแลตนเอง ลดความเสี่ยงจากการสัมผัส เช่น สวมหน้ากาก ล้างมือหลังจากจุด หรือเผา ทิ้งเศษผงขี้เถ้าในภาชนะที่จัดเก็บเพื่อการกำจัดทำลายอย่างถูกต้อง ลดการใช้ในอาคารบ้านเรือน หรือบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือเปลี่ยนมาเผากระดาษเงิน กระดาษทองออนไลน์


ทางด้าน ดร.สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษาสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวว่า การเลือกซื้ออาหารในช่วงตรุษจีนจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เลือกแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือหรือมีเครื่องหมายรับรองจากทางราชการ เลือกซื้อวัตถุดิบที่สด สะอาด ล้างผักผลไม้ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา อาหารทุกชนิดต้องปรุงให้สุกที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส การปรุงและกินอาหารต้องไม่หวาน มัน เค็ม มีผักผลไม้ ครบ 5 หมู่ ส่วนอาหารที่ใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษเสร็จแล้ว เมื่อคนในครอบครัวจะนำมาบริโภค ต้องสะอาด ปลอดภัย ได้คุณค่าโภชนาการ และที่สำคัญให้ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ทุกครั้งด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]