กระบี่ 18 ธ.ค. – อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เตรียมเอาผิดนักโทษหัวโจก 31 คน ที่ร่วมก่อเหตุจลาจลเรือนจำกระบี่ พุ่ง 2 ประเด็นกลัวการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือเป็นการวางแผนหลบหนีโดยสร้างสถานการณ์
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจสอบความเสียหายของเรือนจำ จากเหตนักโทษก่อจลาจลเผาเรือนนอน ห้องสมุด และความเสียหายอื่นๆ เหตุเกิดตั้งแต่คืนวันที่ 16 ธ.ค. ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 17 ธ.ค. เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่และจับกุมแกนนำหัวโจก 31 คน ทั้งนักโทษคดียาเสพติดและคดีอุกฉกรรจ์ ไว้ที่ สภ.เมืองกระบี่
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายนักโทษ 2,159 คน ออกจากเรือนจำจังหวัดกระบี่ และเรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย ส่งไปยังเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และเรือนจำจังหวัดสงขลา ส่วนนักโทษแกนนำหรือหัวโจ๊กก่อเหตุจลาจล 31 คน ส่งไปยังเรือนจำเขาบิน จังหวัดราชบุรี ท่ามกลางพ่อแม่ พี่ น้อง และญาตินักโทษ ที่มาเฝ้าสังเกตการณ์และหวิดเกิดจลาจลอีกรอบ ขณะรถขนนักโทษรอเข้าขบวน เหล่าบรรดาญาตินักโทษได้กรูห้อมล้อมรถเพื่อเรียกนักโทษที่เป็นญาติ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้มาห้ามปราม แต่ญาติไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม การขนย้ายสำเร็จลงด้วยดี ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง (ตั้งแต่ 22.00-03.45 น.)
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/12/5-12-1024x544.jpg)
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การย้ายนักโทษออกจากเรือนจำจังหวัดกระบี่ ไปไว้ยังเรือนจำจังหวัดใกล้เคียง ขณะนี้ยังเหลือนักโทษอีกประมาณ 400 คน ซึ่งจะทยอยเคลื่อนย้ายให้หมดโดยเร็ว เพื่อจะได้เข้าเคลียร์พื้นที่ภายในเรือนจำได้ ส่วนแกนนำ 31 คน ยังไม่ได้ทำการสอบสวน เนื่องจากอยู่ระหว่างขนย้ายไปยังเรือนจำเขาบิน จังหวัดราชบุรี ซึ่งหลังจากนี้จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไป คู่ขนานไปกับการตั้งกรรมการจากส่วนกลาง เพื่อลงมาสอบสวนถึงสาเหตุการก่อจลาจลว่าเป็นเพราะหวาดกลัวการระบาดของโควิด หรืออ้างเพื่อต้องการที่จะหลบหนีออกจากเรือนจำ
สำหรับเรือนจำกระบี่ สร้างมาร่วม 80 ปี ซึ่งกรมราชทัณฑ์มีแผนจะย้ายไปก่อสร้างใหม่ที่เรือนจำกระบี่น้อย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะตั้งงบประมาณในการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายก่อนวางแผนย้ายเรือนจำไปอยู่ที่แห่งใหม่ ซึ่งจะมีการทำทะเบียนประวัติ เพื่อแจ้งให้ญาติได้ทราบว่าผู้ต้องขังย้ายไปอยู่ที่เรือนจำไหน
ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้ดูแลผู้ต้องขังที่ติดโควิด-19 ตามหลักกระทรวงสาธารณสุข ฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังแล้วมากกว่า 90% โดยฉีดครบ 2 เข็มไปแล้วกว่า 500,000 คน สำหรับกรณีที่นักโทษอ้างว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแยกระหว่างผู้ป่วยกับผู้ที่ไม่ป่วยให้อยู่ปะปนกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามกระทรวงกำหนดหรือไม่
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/12/6-9-1024x508.jpg)
ด้าน พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้บูรณาการกำลังทีมสอบสวนภาค 8 เข้ามาคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้นโดยเร็วว่ามูลเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนสอบสวน และสรุปประเด็นไว้เรียบร้อยแล้วเป็นไปตามตัวบทกฎหมายตายังไม่สามารถเปิดเผยได้. – สำนักข่าวไทย