เปิดเทอม On site วันแรก คึกคัก

1 พ.ย.-การเปิดเทอม On site วันแรกหลายโรงเรียน คึกคัก แต่เข้มมาตรการ sandbox safety zone in school ศธ. คาดทยอยเปิดได้เพิ่มขึ้น ตามความพร้อมแต่ละพื้นที่


บรรยากาศการเปิดภาคเรียนที่ 2 แบบ on site วันแรกของ รร.สมุทรสาครวิทยาลัย อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งจัดเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ของจังหวัด มีนักเรียนทยอยเดินทางเข้ามาที่โรงเรียนกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อนักเรียนก็มาถึงต้องผ่านจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ในวันแรกนี้มีนักเรียนมาเรียนที่โรงเรียน 1,500 คน จากนักเรียนทั้งหมด 3,000 คน การจัดการเรียนการสอน นักเรียน ทั้งม.1-ม.6 จะมาเรียนครบทุกระดับ แต่จะสลับกันมาเรียน กับเพื่อนร่วมห้องอีกครึ่งหนึ่ง เป็นรายสัปดาห์ เว้น สัปดาห์ และจัดห้องเรียนต่อห้องไม่เกิน 25 คน ในรูปแบบ small bubble หรือการจัดกลุ่มย่อยให้ทั้งครูและนักเรียนไม่ทำกิจกรรมข้ามกลุ่มกัน

ก่อนเริ่มคาบเรียน นักเรียนทุกคนจะต้องตรวจเอทีเคด้วยตนเอง โดยหลังจากนี้จะมีการสุ่มตรวจประมาณ 10% ของนักเรียน ที่มาเรียน เป็นรายสัปดาห์รวมทั้งครูและบุคลากรด้วย หากพบเชื้อก็จะเข้าแผนเผชิญเหตุ คือ แยกนักเรียนไปที่ห้องกักตัวที่โรงเรียนเตรียมไว้ ก่อนจะประสานโรงพยาบาลที่มีการจับคู่ให้ดำเนินการต่อไป รวมทั้งการปิดเรียนเฉพาะห้องเรียนที่พบผู้ติดเชื้อแยกผู้เสี่ยงสูงกักตัว จะไม่มีมีการปิดทั้งหมดอีกต่อไป


นางสาว ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ลงพื้นที่มาตรวจสอบความเรียบร้อย โดย รมว.ศึกมาธิการ มั่นใจว่า มาตรการเปิดเรียน sandbox safety zone in school เป็นตามแผน จากนี้ก็จะมีอีกหลายโรงเรียน ทยอยเปิดได้ตามความพร้อม โดยเป็นไปตามการเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัด ซึ่งกำชับว่าไม่ใช่การบังคับให้เรียนที่โรงเรียน โดยแต่ละโรงเรียนสามารถเลือกได้ตามความพร้อมทั้ง on site ,on line ,on demand , on air ซึ่งภาพรวมวันนี้ รร.สังกัด สพฐ. 12,000 แห่ง ที่เปิดเทอมแบบ on-site จากทั้งหมดทั่วประเทศที่มีกว่า 30,000 แห่ง ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะทยอยเปิดได้มากขึ้นตามลำดับ ขณะที่การพิจารณาการเปิด-ปิด รวมทั้งมาตรการเข้มในระหว่างการเปิดภาคเรียน การสุ่มตรวจ ความถี่และจำนวน ให้เป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

ส่วนการเปิดโรงเรียนพื้นที่กทม. หลัง กทม. ออกมาประกาศว่ามี 63 โรงเรียนที่สามารถเปิดแบบ on site ได้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงเรียนเอกชนโรงเรียนนานาชาติ ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่สังกัด กทม. และสังกัดสพฐ. จากการสอบถามส่วนหนึ่งพบว่าจะเป็นการเรียนแบบผสมผสานทั้งออนไซด์และออนไลน์ก่อน ขณะที่บางโรงเรียนก็จัดให้นักเรียนสลับกันมาเรียนทีละหนึ่งชั้นเรียน เพื่อลดความอัด เว้นระยะห่างในโรงเรียนได้

เปิดเทอมวันแรกคุมเข้ม สลับวันเรียน ลดแออัด


ที่โรงเรียนอนุบาลสกลนคร เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่ได้เปิดการสอน ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีการตั้งจุดคัดกรองที่บริเวณทางเข้าโรงเรียน ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัย ตรวจวัดไข้ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ขณะที่นักเรียนที่เข้ามาเรียนวันนี้ ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ดีใจที่ได้มาโรงเรียน ได้พบเจอคุณครู และเพื่อน ๆ อีกครั้ง โดยทางโรงเรียนมีการแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม สลับกันมาเรียนเพื่อไม่ให้แออัด ส่วนนักเรียนที่อยู่บ้านก็จะได้เรียนในรูปแบบอื่นๆ แบบผสมผสาน

สลับเลขประจำตัวคู่กับคี่เข้าเรียนคนละวัน

ที่จังหวัดภูเก็ต บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในกว่า 40 โรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดภูเก็ต ที่เปิดทำการเรียนการสอนเป็นวันแรกของปีการศึกษาที่ 2/2564 โดยผู้ปกครองได้ทยอยนำบุตรหลานมาส่งที่บริเวณหน้าโรงเรียน ซึ่งได้มีการตรวจวัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ นักเรียนทุกคนก่อนที่จะเข้าโรงเรียน โดยทางโรงเรียน มีการสลับวันเรียนระหว่างนักเรียนที่มีเลขประจำตัวเป็นเลขคู่กับเลขคี่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนภาพรวมโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาภูเก็ต มี 49 โรงเรียน ที่ผ่านการประเมินตามมาตรฐานที่กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขกำหนดแล้ว และจะมีการเปิดเรียนแบบออนไซต์ก่อนจำนวน 48 แห่ง เหลือเพียง 1 โรงเรียน ที่เปิดการสอนในระบบออนไลน์ และจะเปิดออนไซต์ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้

แบ่งกลุ่มเด็กเข้าเรียนห้องไม่เกิน 25 คน เด็กดีใจได้เรียนในห้อง

ที่โรงเรียนอนุบาลพังงา อ.เมืองพังงา บรรยากาศการเปิดเรียนวันแรกคึกคัก เด็กๆ ที่ได้กลับเข้ามาเรียนในชั้นเรียนต่างรู้สึกดีใจที่ได้พบเพื่อนและคุณครู พร้อมบอกว่าเรียนในห้องเรียนจะเข้าใจกว่าเรียนแบบออนไลน์ สำหรับมาตรการการป้องกัน ทางโรงเรียนได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ช่วงปิดเทอม โดยได้ร่วมกับผู้ปกครองคัดกรองเด็กนักเรียนว่ามีการเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง หรืออยู่ในชุมชนที่ยังมีการแพร่ระบาดอยู่หรือไม่ หากมีความเสี่ยงก็ให้เรียนออนไลน์ไปก่อน 14 วัน ในส่วนการเปิดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ได้แบ่งนักเรียนในแต่ละห้องเรียนเป็น2 กลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 20 คน สลับกันเรียนคนละวัน ในส่วนของผู้ปกครองที่ยังไม่พร้อมก็จะให้มีการเรียนการสอนแบบออนไลน์ควบคู่ไปด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]