สาวถูกหลอกโอนเงิน 120,000 บาท

พิษณุโลก 24 ต.ค.- สาวพิษณุโลกหวังนำเงินเก็บมารักษาโรคประจำตัว กลับถูกแก๊งมิจฉาชีพสวมรอยเป็นพนักงานบริษัทขนส่ง และตำรวจยศผู้กำกับการ พูดจาข่มขู่อ้างส่งของผิดกฎหมายและฐานฟอกเงิน หลอกโอนเงินสูญไปกว่า 120,000 บาท 


นางสาวส้ม (สงวนนามสกุล) ชาวจังหวัดพิษณุโลก ร้องต่อสื่อมวลชนหลังเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก แต่ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี หลังมีโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งชื่อดัง โทรมาแจ้งว่าพัสดุที่นำส่งไปกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน นำส่งไม่สำเร็จ เนื่องจากเป็นของผิดกฎหมาย ซึ่งระบุชื่อผู้ส่งคือ นางสาวส้ม โดยตอนนี้พัสดุติดอยู่ที่ศุลกากรเชียงใหม่ ซึ่งนางสาวส้มก็ยืนยันว่ามีความผิดพลาดแน่ เพราะตนเองไม่เคยส่งพัสดุไปกรุงปักกิ่งแต่อย่างใด จึงเข้าทีชายที่โทรศัพท์มาที่บอกว่าเป็นไปได้ว่าคุณถูกโจรกรรมข้อมูลไปสวมชื่อส่งของผิดกฎหมาย โดยให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีผู้โดนลักษณะดังกล่าวนี้เยอะมาก พร้อมอาสาประสานงานให้

จากนั้นชายที่อ้างตัวเป็นบริษัทขนส่ง จึงโอนสายให้คุยกับตำรวจคนที่ 1 เป็นผู้หญิงอ้างชื่อ “สุญาดา (สงวนนามสกุล)” ซักประวัตินางสาวส้มเกือบ 1 ชั่วโมง โดยมีคำสั่งให้ผู้เสียหายเดินทางไปที่ สภ.ช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุภายใน 2 วัน เพื่อจัดการเรื่องคดี ซึ่งผู้เสียหายก็แจ้งกับมิจฉาชีพดังกล่าวไม่สามารถไปได้ เพราะพักอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด มิจจาชีพจึงแจ้งต่อว่าสามารถบันทึกให้ปากคำทางออนไลน์ได้ โดยจะต้องอยู่ในพื้นที่เงียบๆ และไม่มีบุคคลที่สาม ซึ่งผู้เสียหายก็เริ่มเอะใจแล้ว แต่ก็คิดว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 นี้ วิธีการดังกล่าวอาจจะทำได้จริง จากนั้นก็เริ่มซักประวัติผู้เสียหายว่า มีเส้นทางการเงินมาจากที่ใด ครอบครัวประกอบอาชีพอะไร มีบัญชีธนาคารกี่บัญชี ซึ่งตลอดเวลาที่ซักข้อมูล ผู้เสียหายก็รู้สึกว่ามิจฉาชีพมีการใช้วิธีการทางจิตวิทยา ข่มขู่ตลอดเวลาให้รู้สึกกลัวและกังวล เช่น “บอกหมดแน่นะ มีอะไรปกปิดอีกไหม จะมีผลต่อรูปคดีนะ”


เมื่อสอบปากคำเสร็จมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจหญิง ก็แจ้งว่าจะโอนสายต่อไปยังเบื้องบน จากนั้นผู้เสียหายก็ได้พูดคุยกับชายที่อ้างตัวเป็นผู้กำกับ สภ.ช้างเผือก พร้อมหลอกลวงผู้เสียหายว่าได้ตรวจสอบข้อมูลสอบปากคำแล้ว พบว่าเกี่ยวพันกับคดีฟอกเงินครั้งใหญ่ และถ้าบริสุทธิ์ใจจริงต้องยอมให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เข้าไปตรวจเส้นทางการเงิน โดยจะมีจดหมายจาก ปปง. นำส่งไปให้ที่บ้าน พร้อมให้โอนเงินในบัญชีทั้งหมด เข้าสู่บัญชีกลางของ ปปง. โดยจะใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 ชั่วโมง และข่มขู่อีกว่า คดีนี้เป็นคดีใหญ่ ที่ตำรวจตามสืบกันอยู่โดยห้ามผู้เสียหาย เล่าให้ใครฟัง 7 วัน แม้แต่คนในครอบครัว จากนั้นมิจฉาชีพก็ส่งหมายเลขบัญชีมาให้ผู้เสียหาย จึงโอนเงินเก็บที่มีทั้งหมดไปให้ 120,000 บาท

ผู้เสียหาย ก็เล่าว่าเริ่มรู้สึกผิดสังเกตแล้ว เพราะบัญชีปลายทางที่ให้โอนชื่อเป็นบุคคลธรรมดา แต่ก็ไม่รู้ว่าถูกจิตวิทยาอะไรให้ยอมชะล่าใจโอนไป ก่อนที่ชายที่อ้างตัวเป็นผู้กำกับ จะแจ้งว่าระหว่างที่ตรวจสอบข้อมูลไม่ต้องวางสาย จะได้รู้ว่าแอบไปคุยกับบุคคลที่สามหรือไม่ เพื่อความโปร่งใส จนกระบวนการเสร็จสิ้น กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้เสียหายเริ่มได้สติและรู้สึกตัวแล้วว่าโดนหลอก จึงรีบโทรไปที่ สภ.ช้างเผือก ซึ่งเป็นสถานีตำรวจ ที่มิจฉาชีพใช้อ้างตัว พร้อมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ฟัง ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จึงได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.พิษณุโลก ก็พบว่ามีผู้เสียหายที่โดนลักษณะเดียวกันอีก 1 คน เป็นเคส สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เหมือนกันเลย พนักงานสอบสวน สภ.พิษณุโลก จึงออกใบอายัดบัญชีของมิจฉาชีพ และให้รีบไปยื่นที่ธนาคารของผู้เสียหาย

ขณะที่ผู้เสียหายก็กังวลว่ากว่าที่จะไปยื่นเรื่องต่อธนาคาร มิจฉาชีพก็น่าจะถอนเงินของกลางออกไปแล้ว จึงอยากร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรีบติดตามนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ พร้อมเชิญชวนใครที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวมารวบกลุ่มกันเพื่อแจ้งความ เนื่องจากคดีการฉ้อโกงหลอกลวงดังกล่าว มีอายุความสั้น แต่หากมีผู้เสียหายรวมตัวกันจำนวนมาก  มีมูลค่าความเสียหายเยอะ ก็จะกลายเป็นอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ หรือเพื่อหวังให้คดีในลักษณะดังกล่าว เป็นคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอต่อไป


ทั้งนี้ ผู้เสียหายรายนี้เพิ่งลาออกจากงานประจำที่รายได้ดีที่กรุงเทพฯ เนื่องจากมีอาการป่วยที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา จึงลาออกเพื่อกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านเกิด เงินที่โอนไปให้แก๊งมิจฉาชีพทั้งหมดก็เป็นเงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง หวังจะเอาไว้ใช้รักษาโรคประจำตัว และทางครอบครัวเองก็ยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และในสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังไม่สามารถหางานประจำใดๆ ได้ จนมาถูกหลอกลวงในครั้งนี้ จึงต้องการฝากเตือนเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ จะได้ช่วยกันระวังตัวไม่ให้มีใครตกเป็นเหยื่ออีก.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย