บุรีรัมย์ 29 มิ.ย. – ตำรวจรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองโควิด-19 ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมพ่อแท้ๆ ก่อน จึงจะเข้าสอบปากคำได้ ขณะที่ลูกสาวผู้ตายให้อภัยน้อง แต่โกรธกลุ่มคนที่อ้างว่าพ่อขโมยบัตรคนจนไปจำนำจนเป็นต้นเหตุของคดี
กรณีนายวิเชียร หรือ “ตูบ” ฆ่าพ่อแท้ๆ และอำพรางศพฝังดิน บริเวณหลังบ้านพัก บ้านโศกนาก ต.แดงใหญ่ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ และหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อเย็นวานนี้ (28 มิ.ย.)
เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีที่ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ตั้งแต่เมื่อคืน เดินทางถึงเมื่อเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังถูกคุมตัวในห้องขังของ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เพื่อรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพราะผู้ต้องหาเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และหลังตรวจคัดกรองเสร็จจะถูกสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนคดี
เบื้องต้นในบันทึกการจับกุม ผู้ต้องหารับสารภาพว่าฆ่าพ่อฝังดินจริง เนื่องจากเก็บกดที่ถูกด่าเป็นประจำ ส่วนเรื่องที่ญาติให้ข้อมูลว่าแรงจูงใจมาจากผู้ตายนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปจำนำจนเกิดการทะเลาะกันนั้น จากการสอบพยานแวดล้อมยังไม่มีใครให้ข้อมูล เบื้องต้นนายวิเชียร จะถูกดำเนินคดีฐานฆ่าบุพการีและอำพรางศพ
ด้านนางชลธิชา อายุ 46 ปี พี่สาวของผู้ก่อเหตุและเป็นลูกสาวของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า จากการพูดคุยพบว่าน้องชายมีอาการเก็บกด ประกอบกับมีอาการทางจิตประสาท ในฐานะพี่สาวก็อภัยน้องที่ก่อเหตุ แต่คดีความต้องเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวกับมูลเหตุจูงใจมาจากพ่อเอาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของน้องไปจำนำนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะพ่อไม่เคยแตะต้องบัตรของน้องชาย และยอมรับว่าโกรธผู้ที่ออกมากล่าวอ้าง เพราะเป็นการให้ร้ายพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วไปแล้ว. – สำนักข่าวไทย