มุกดาหาร 4 มิ.ย. – “ลุงพล” เปิดใจน้ำตาคลอ หลังศาลจังหวัดมุกดาหารให้ประกันตัว วงเงิน 180,000 บาท พร้อมตั้งเงื่อนไขห้ามหลบหนี ข่มขู่พยาน ห้ามยุ่งกับพยานหลักฐาน ขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม ดีใจที่ได้มีโอกาสออกมาสู้คดี นับแต่วินาทีนี้ก็จะสู้ทุกอย่างตามกระบวนการ คงต้องพึ่งทนายตั้มต่อไป ยืนยันไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ไม่มีอะไรต้องหลบหนี เป็นคนหากินธรรมดา ยังคิดถึงน้องชมพู่อยู่เสมอ ให้น้องไปอยู่ในภพที่ดีกว่า
ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กล่าวว่า ขอขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหารให้ความเป็นธรรมกับลุงพล ตั้งแต่เช้าที่มายื่นเรื่องขอประกันตัว เจ้าพนักงานตำรวจกับแม่น้องชมพู่มาคัดค้าน และศาลมีการไต่สวนทางฝ่ายผู้คัดค้านมีพยานทั้งหมด 3 ปาก แม่น้องชมพู่ยอมรับว่าตั้งแต่แรกไม่สงสัยลุงพล และที่เขียนคำร้องได้รับการแนะนำตัวจากตำรวจ เขายอมรับในศาลแบบนี้ และไม่มีการข่มขู่กันมาก่อน ส่วนเจ้าพนักงานตำรวจ เขายอมรับว่าในวันที่ 2 ที่เราไปมอบตัวที่ สตช. เป็นการมอบตัว และก่อนหน้าที่ลุงพลจะออกหมายจับลุงพล ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนีมาก่อน แสดงว่าเจ้าพนักงานตำรวจไปขอออกหมายจับ โดยอ้างว่าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และหลบหนี ซึ่งเป็นความเท็จ ตรงจุดนี้น่าจะมีการดำเนินการต่อไป เพราะว่าการไปยื่นคำร้องต่อศาล ถ้าเกิดไปยื่นที่มันไม่เป็นความจริง จริง ๆ แล้วลุงพลไม่มีพฤติการณ์หลบหนี คำให้ศาลหลงผิดในการออกหมายจับได้ คราวหน้าจะมาดำเนินคดีกับตำรวจที่มาขอหมายจับในเรื่องของการละเมิดอำนาจศาล และดำเนินคดีอาญาต่อ และในวันอังคารจะชวนลุงพล-ป้าแต๋น ไปพบกรรมาธิการ ไม่ใช่มีแค่ประเด็นออกหมายจับและการควบคุมตัวลุงพลที่ สตช. วันนั้น เรายืนยันมันคือการมอบตัว ตำรวจเอากุญแจมาล็อก ตาม ป.วิอาญา การจับกุมทำเท่าที่จับเป็น เรายินดีเข้าไปมอบตัวอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องดำเนินการต่อไป
ทนายตั้ม กล่าวต่ออีกว่า ถ้าออกไปแล้วต้องไปรายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้านทุก 12 วัน ปกติแล้วต้องมารายงานตัวที่ศาล เพราะตำรวจต้องฝากขังทุก 12 วัน ตอนนี้มีวิกฤติเรื่องโควิด ให้ใช้โทรศัพท์ให้เห็นหน้าโปรมแกรมไลน์ ให้อยู่กับผู้ใหญ่บ้านด้วยทุก 12 วัน จนกว่าพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนไปอัยการ หลังจากวันนี้ถ้าไปยุ่งกับพยานคนไหน ให้ถอนประกันได้เลย ทางเราเป็นผู้เสนอไปเอง.