พิษโควิดทำพระ-ลิงเดือดร้อน

ตรัง 11 พ.ค.- พิษโควิด-19 ระลอก3 ส่งผลกระทบอย่างหนักกับพระในหลายพื้นที่ ที่ต้องหันมาพึ่งพาตัวเอง ขณะเดียวกันก็พยายามช่วยเหลือทั้งชาวบ้าน และสัตว์ที่เดือดร้อนจากวิกฤติครั้งนี้


ที่วัดถ้ำเขาปินะ ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง มีฝูงลิงหางยาวราว 300-400 ตัว อาศัยอยู่บนเขาปินะ ก่อนหน้านี้มักจะลงมารื้อค้นกุฎิพระสงฆ์เพื่อหาอาหารประทังความหิว แต่หลังจากที่พระบุญเลิศ เตชะปัญโญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาปินะ มาจำพรรษาที่วัดดังกล่าวเมื่อ 3 ปีก่อน ก็มีการจัดระเบียบลิงใหม่ ด้วยการกำหนดจุดให้อาหารห่างออกไปจากวัด 100-200 เมตร และพูดคุยกับลิงที่เป็นจ่าฝูงบ่อยๆ ปรากฏว่าได้ผล ลิงไม่มารบกวนพระสงฆ์ที่วัดอีก ยกเว้นเวลาหิวโซเพราะขาดอาหาร เจ้าลิงจ่าฝูงจะมานั่งเกาะรั้วหน้ากุฎิเจ้าอาวาส เพื่อบอกให้รู้ว่ามันมาขออาหารกิน ซึ่งพระสงฆ์ก็นำเศษอาหารไปให้ เพื่อป้องกันการเข้ามารบกวนพระในวัด และช่วงนี้ผู้คนเดินทางมาวัดน้อยลง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19  ทำให้เศษอาหารมีน้อย ลิงจึงพาลูกหลานลงมานั่งรอรถยนต์ที่ผ่านไปมาเพื่อขอเศษอาหารอย่างน่าเวทนา

โดยทางวัดมีนโยบายงดออกรับบิณฑบาตจากชาวบ้านตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อป้องกันโควิด-19 และต้องหุงหาอาหารฉันเองภายในวัด ซึ่งยังมีเพียงพอไปอีก 1-2 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ความผูกพันที่มีระหว่างพระกับลิงนั้น ทำให้รักษาการเจ้าอาวาสลงเฟซบุ๊ก เชิญชวนบริจาคเศษอาหารให้ลิงและขอให้ขับรถผ่านไปอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้รถชนลูกลิงตัวเล็ก ๆ ได้


โดยพระบุญเลิศ เตชะปัญโญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาปินะ เปิดเผย ตอนนี้ลิงที่วัดมี 300-400 ตัว น่าสงสารเวลาหิว จะลงมาเกาะที่รั้วเพื่อขออาหาร ตนจึงบอกบุญไปทางญาติโยมผ่านเฟซบุ๊ก บางทีก็มีคนขับรถยนต์นำอาหารมาให้ ยืนยันลิงไม่เคยทำร้ายใคร เชื่อว่าคนกับลิงสามารถพูดคุยกันได้รู้เรื่อง สัตว์ทุกชนิดรักชีวิตเหมือนเรา 

ส่วนที่วัดลาดเป้ง ต.นางจะเคียน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม  มีการสร้างอุโบสถหลังใหม่ แทนหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม ยากที่จะซ่อมแซม โดยสร้างเป็น “โบสถ์เรือนไทยมหาอุต” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขณะนี้ทางวัดได้ดำเนินการสร้างไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เข้าสู่ช่วงสร้างฐานรากศาลาราย 8 หลัง รอบอุโบสถ แต่มาเจอพิษโควิด-19 ทำให้ญาติโยมได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจมีปัจจัยทำบุญน้อยลง ประกอบกับคณะสงฆ์ก็ไม่มีกิจนิมนต์ ทำให้ว่างงาน 

พระครูปลัดพรเทพปัญญาวโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดลาดเป้ง กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทั้งคณะสงฆ์ และประชาชนทั่วไปได้รับผลกระทบอย่างมาก วัดลาดเป้งได้จัดเรือปันสุขนำเครื่องอุปโภคบริโภคให้แจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ยากไร้ทั้งทางน้ำและทางบก อีกทั้งการระบาดที่รุนแรงในระลอกนี้ส่งผลให้ญาติโยมได้รับผลกระทบหนัก ทำบุญน้อยลง งดนิมนต์พระสงฆ์ ทำให้พระสงฆ์ว่างงานส่งผลโดยตรงต่อการสร้างโบสถ์ เรือนไทยมหาอุดใหญ่ที่สุดในสยามแห่งนี้ ทำให้ไม่มีปัจจัยจ้างช่าง  ดังนั้นคณะสงฆ์เมื่อว่างเว้นจากการปันสุข คณะสงฆ์วัดลาดเป้งทั้ง 21 รูป ก็มาร่วมด้วยช่วยกัน เช่น ผูกเหล็ก เทปูน ต่อเติมบุญที่จะช่วยในการสร้างโบสถ์แห่งนี้ให้เสร็จลุล่วง แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว พระสงฆ์ก็พยายามป้องกัน นำจีวรมาตัดเย็บเป็นกางเกง เสื้อแขนยาว และใช้ผ้าโพกศีรษะที่ไม่มีผม บรรเทาความร้อน 


ทั้งนี้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญใหญ่ สร้างอุโบสถเรือนไทยหลังใหญ่ เพื่อเป็นพุทธบูชาฝากไว้คู่แผ่นดิน ติดต่อร่วมบุญได้ทุกวันที่พระครูพิศาลสมุทรกิจ เจ้าอาวาสวัดลาดเป้ง โทรศัพท์ 08-9229-2256,  06-1354-5453, 095-056-4452  หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสมุทรสงคราม ชื่อบัญชีวัดลาดเป้ง เลขที่บัญชี 709-1-50767-3 ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

สำหรับ “โบสถ์เรือนไทยมหาอุด” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กว้าง 12 เมตร ยาว 24 เมตร สูง 19 เมตร ชั้นล่างประกอบด้วยเสาปูน 45 ต้น ชั้นบนอุโบสถเป็นเสาไม้ตะเคียนทองและไม้แดง จำนวน 34 ต้น สูง 16 เมตร หลังคามุงกระเบื้อง ผนังเป็นไม้สักทั้งหลัง บริเวณโดยรอบมีศาลาราย 8 หลัง เพื่อให้ญาติโยมได้นั่งพักผ่อนและร่วมประกอบพิธี ด้านในประดิษฐานพระประธานปางมหาจักรพรรดิ์ ประทับนั่งขัดสมาธิ ขนานพระนามท่านว่า “พระพุทธโคดมศรีสรรเพชร  หรือ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” หน้าตัก 319 เซนติเมตร สูง 509  เซนติเมตร เนื้อทองเหลือง หนัก 4,500 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ผ่านพิธีเททองหล่อพระประธานในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]