กาญจนบุรี 8 เม.ย. – “ครูปรีชา” ขอบคุณผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่ให้โอกาสได้นำความจริงไปสู่ศาลสูงอีกครั้ง หลังรับรองฎีกาคดีหวยอลเวง 30 ล้าน คาดศาลอาจนัดฟังคำสั่งช่วงปลายปี ย้ำคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”
เรื่องหวยอลเวง 30 ล้าน ที่กาญจนบุรี (สลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 หมายเลข 533726) ระหว่างครูปรีชาใคร่ครวญกับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ ยังไม่จบ ล่าสุดครูปรีชาได้ยื่นฎีกาในคดีที่ฟ้องร้องหมวดจรูญข้อหายักยอกทรัพย์-รับของโจรแล้ว หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้องหมวดจรูญ เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนั้นศาลอุทธรณ์จึงเห็นด้วยกับศาลชั้นต้น เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบครูปรีชาที่ร้านอาหารครูบ้านสวน กำลังรดน้ำพืชผักสวนครัว เล่าว่าตนเอง และนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพื่อยื่นฎีกาสู้ในคดีนี้ ซึ่งเป็นคดีอาญาและถือว่าเป็นคดีหลัก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ทราบข่าวจากศาลว่า ศาลอุทรธณ์ภาค 7 ได้รับรองให้ฎีกา ซึ่งต้องขอขอบคุณทางผู้พิพากษาศาลอุทรธณ์ภาค 7 ที่ให้โอกาสได้นำความจริงไปสู่ศาลสูงอีกครั้งหนึ่ง สำหรับการร้องขอฎีกาครั้งนี้ได้มีทนายความคนใหม่อีกคนเข้ามาช่วยดูแลร่วมกับทนายวรยุทธ ส่วนตนเองก็ได้ร่วมดูข้อบกพร่องต่างๆ ในการนำสืบ คาดว่าศาลอาจจะนัดฟังคำสั่งช่วงปลายปี พร้อมย้ำคำพูดเดิม “ความจริงก็คือความจริง”
ครูปรีชายังฝากถึงประชาชนที่ติดตามข่าวหวย 30 ล้าน แล้วมีการแสดงความคิดเห็นต่อว่าครูปรีชาทางสื่อโซเชียส ต่างๆ บอกว่า อโหสิกรรมให้ทุกท่านขอให้รออีกสักนิดขอให้ความจริงปรากฎก่อนแล้วค่อยมาต่อว่าตนเองจะดีกว่า และยังฝากบอกว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เก็บให้ดี เขียนชื่อด้านหลังสลากหรือบันทึกภาพก่อนเพื่อเป็นหลักฐาน หากเกิดปัญหาในภายหลัง เพราะมันเป็นสิ่งที่มีมูลค่า และทุกวันตนเองก็ยังซื้ออยู่เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนรัฐบาลรวมถึงผู้ค้า.-สำนักข่าวไทย