หลายจังหวัดพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม เชื่อมโยงสมุทรสาคร

22 ธ.ค.-สุพรรณบุรี ปทุมธานี กรุงเทพฯ อุตรดิตถ์ นครปฐม พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม เชื่อมโยงกับการเดินทางไป จ.สมุทรสาคร


จ.สุพรรณบุรี พบแม่ค้ากุ้งติดเชื้อโควิด เป็นชาว อ.สองพี่น้อง ที่รับกุ้งจาก 4 บ่อไปขายที่สมุทรสาคร นอกจากนี้ จ.สุพรรณุบรี ยังพบกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไป จ.สมุทรสาคร กว่า 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งสอบสวนโรค และสั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับรพ.สต. ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร ทั้งหมด

เบื้องต้นพบหญิงไทย 1 ราย อายุ 35 ปี อาชีพแม่ค้ากุ้ง ชาวอ.สองพี่น้อง มีผลเป็นบวกจากห้องปฏิบัติการที่ 1 และ 2 เป็นบวก ขณะนี้เข้ารับการรักษาที่รพ.เอกชน แห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี สำหรับไทม์ไลน์ของหญิงรายดังกล่าว ดังนี้
วันที่ 4 ธ.ค.และ 6 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 1 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ จ.สมุทรสาคร
วันที่ 8-9 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 2 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร
วันที่ 15 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 3 ต.บางตาเถร เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร
วันที่ 17 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 4 ต.บางตาเถร เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร
วันที่ 18 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 3 ต.บางตาเถร เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร
วันที่ 19 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 4 ต.บางตาเถร เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร เวลา 17.00 น. รักษา ณ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง


ส่วนที่ จ.ปทุมธานี พบติดโควิด-19 จำนวน 3 ราย ช่วงค่ำเมื่อวานฝ่ายปกครองอำเภอธัญบุรี และพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศววิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี พร้อมด้วยนายธนกรณ์ พูนภิญโญศักดิ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบริเวณตลาดนัดวัดสระบัว บริเวณหน้าหมู่บ้านในพื้นที่ คลอง 11 ม.1 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังพบผู้ป่วยโควิด 19 ยืนยัน จำนวน 2 ราย เป็นสามีภรรยาขายอาหารทะเลสด โดยเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดตลาดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ

นายธนกรณ์ พูนภิญโญศักดิ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ กล่าวว่า หลังจากทราบพบผู้ติดเชื้อจำนวน 2 ราย จึงประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิค-19 ซึ่งทางเทศบาลเคลียร์พื้นที่และทำความสะอาดในพื้นที่ตลาดนัดทันที และทำป้ายประกาศแจ้งเตือนประชาชนพร้อมแจกเอกสารรณรงค์ โดย ผู้ป่วย 2 ราย เป็นสามี ภรรยาที่ขายอาหารทะเลในพื้นที่ โดยได้ไปซื้อกุ้งและอาหารทะเลสดจากแพกุ้งใน จ.สมุทรสาคร เพื่อนำมาขายในบริเวณตลาดนัดวัดสระบัว ทั้งคู่พักอาศัยในหมู่บ้านมัฆวานรังสรรค์ คลอง 10 ธัญบุรี และขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่ รพ.ธัญบุรี เบื้องต้นเทศบาลได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับสามีภรรยาที่ติดเชื้อ ให้ไปรับการตรวจโรคที่ รพ.ธัญบุรี เพื่อตระหนักถึงภัยและลดการแพร่เชื้อโควิด-19

ส่วนอีกรายเป็นบุคลากรของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเพจ Thammasat TODAY รายงานว่า มีบุคลากรของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ติดเชื้อโควิด-19 โดยได้รับผลการตรวจยืนยันในวันที่ 21 ธันวาคม โดยระบุว่า เนื่องด้วยในวันนี้ (21 ธันวาคม 2563) คณะกรรมการอำนวยการ COVID-19 สวทช. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ว่ามีผู้ที่ปฏิบัติงานที่สวทช. 1 ท่าน ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นผู้ช่วยปฏิบัติงานวิจัย นาโนเทค โดยบุคลากรท่านนี้ไม่ได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ อวท. ระหว่างวันที่ 10-15 ธันวาคม 2563 และกลับเข้ามาทำงานที่สำนักงานฯ ในวันที่ 16-17 ธันวาคม 2563 เริ่มมีอาการป่วยในตอนเย็นของวันที่ 17 ธันวาคม จึงลางานตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 พักรักษาตัว ณ ที่พักส่วนตัวภายนอกอุทยานฯ และไปพบแพทย์ในวันที่ 19 ธันวาคม 2563 โดยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมาในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 และได้รับการยืนยันผลการติดเชื้อ COVID-19 ในวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ช่วงบ่าย
จากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข พบผู้สัมผัสที่ใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์กับบุคลากรคนดังกล่าวที่เข้าข่ายเสี่ยงสูง ซึ่งมีจำนวน 8 คน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ และทางนาโนเทค ได้ให้ปฏิบัติงาน Work from Home และเฝ้าสังเกตอาการตนเอง


ส่วนที่ กทม. พบเพิ่มอีก 1 ราย เป็นเจ้าของร้านสมศักดิ์ปูอบสาขา 2 โดยเพจเฟซบุ๊ก สมศักดิ์ปูอบสาขา 2 บีทีเองกรุงธนบุรี ได้โพสต์ข้อความ แจ้งว่า เจ้าของร้าน คือ คุณรัตน์ ติดโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ พร้อมประกาศ ให้ลูกค้าที่เคยเข้ามารับบริการตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม หากมีอาการที่เข้าข่าย ให้ไปตรวจ ส่วนร้านประกาศปิด 14 วัน

ในโพสต์ระบุว่า #ประกาศการตรวจพบเชื้อ COVID-19 จากคุณรัตน์เจ้าของร้านสมศักดิ์ปูอบ สาขาบีทีเอสกรุงธนบุรี แอดมินต้องขออภัยจริงๆที่ต้องรอผลตรวจออกก่อน ซึ่งเพิ่งออกมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ธันวาคม ว่า คุณรัตน์ เจ้าของร้าน สาขาบีทีเอสกรุงธนบุรี ได้รับเชื้อ COVID-19 หลังจากมีการเข้ารับการตรวจในวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา (หลังจากข่าวออกในวันที่ 19 ธันวาคม)

ทั้งนี้ทางเราต้องขอโทษทุกท่านจริงๆที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากจากการตามข่าวอย่างใกล้ชิด พบว่าไม่มีการสั่งกักตัว และยังอนุญาตให้คนไทยเข้าออกพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร (ยกเว้นตลาดกุ้งกลางที่เป็นพื้นที่ต้นเหตุ) และยังอนุญาตให้มีการเปิดร้านอาหารภายในพื้นที่ตามปกติในบริเวณของกรุงเทพมหานคร ตัวคุณแม่ (คุณรัตน์) จนถึงนาทีปัจจุบัน ไม่มีอาการใดใดที่บ่งชี้ถึงการได้รับเชื้อ COVID-19 เลย แต่ที่ไปตรวจเพราะว่าเห็นข่าวออกแล้วรู้สึกไม่สบายใจ และตัวเองนั้นไม่ได้ไปที่ตลาดมหาชัยด้วยตัวเอง ตั้งแต่ช่วงวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา และในจุดที่ไป ก็ไม่ใช่ตลาดกุ้งกลาง แต่เป็นแพกุ้งขนาดเล็กบริเวณใกล้หอนาฬิกา

อย่างไรก็ตาม ในวันที่เราไปขอเข้ารับการตรวจ ได้แจ้งทาง รพ.พญาไท 3 ไปแล้วว่าเราไปแพกุ้งที่มหาชัยมา แต่ก็ไม่ได้รับการตรวจฟรี (สันนิษฐานว่า เพราะรัฐออกมาตรการมาให้ตรวจฟรีแค่จากคนที่ไปตลาดกุ้งกลางมาหรือไม่ อันนี้จริงๆ เราก็ต้องการสอบถามไปยังรัฐเหมือนกัน ว่าทำไมการรับการตรวจถึงต้องมีค่าใช้จ่าย ทั้งๆที่เราก็มาจากสมุทรสาคร) ตอนนี้ทางร้านมีความจำเป็นจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในทุกส่วนของพนักงาน เนื่องจากมีความจำเป็นต้องปิดร้านชั่วคราว อย่างน้อย 14 วัน เพื่อที่คุณแม่จะต้องไปรับการกักตัว ดูอาการและรักษาตามขั้นตอนต่อไป

และอีกความรับผิดชอบหนึ่งที่ใหญ่มาก ที่ทำให้แอดมินต้องมาโพสต์ตอนนี้ คือ ครอบครัวเราคุยกันแล้วว่าจะต้องแจ้งเรื่องนี้กับลูกค้าของเราจริงๆ เพราะทุกคนอาจอยู่ในภาวะเสี่ยง ทางร้านขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวต่อการกระทำใดใดที่เกิดขึ้น แม้อาจจะต้องเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าไปเลยนับจากวันนี้
การรับผิดชอบวันนี้ คือ การต้องมาแจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทราบ ทางร้านต้องกราบขออภัยด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์นี้ ที่เปิดให้บริการในวันที่ 20 ธันวาคม จนถึงวันที่ (21 ธ.ค.) จึงอยากประกาศให้ลูกค้าที่เคยเข้ามารับบริการที่ร้านตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม (คำนวณจากการนับถอยหลังไปแล้ว 14 วัน) หากมีอาการที่เข้าข่าย ให้ลองติดต่อขอเข้ารับการตรวจจากภาครัฐ ตามข่าวที่ออกมา

ส่วนไทม์ไลน์ที่คุณรัตน์เจ้าของร้านไปมาย้อนไปตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2563 มีดังนี้
8 ธ.ค.-15 ธ.ค. แพกุ้ง ตลาดยายพ่วง มหาชัย
14 ธ.ค. สยามสแควร์วัน ตั้งแต่ 18.00-21.00 น. ไปร้านดอกไม้ขาว ชีวิตชีวิต และอีฟแอนด์บอย เดินทางโดยรถส่วนตัว
8 ธ.ค.-20 ธ.ค. ยกเว้นวันจันทร์ เข้าทำงานที่ร้านทุกวัน

หมายเหตุ ทางร้านขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้แจ้งให้ทราบว่าที่ผ่านมา ทุกสาขาของเรา แยกกันซื้อของมาก่อนหน้านี้เป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ดังนั้นในสาขาอื่นๆ จึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

ส่วนที่ จ.อุตรดิตถ์ พบแม่ค้าขายอาหารทะเลในตลาดป่าขนุน ที่ไปรับซื้ออาหารทะเลสดจากมหาชัย ติดโควิด-19

นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุตรดิตถ์ และ นพ.อายุส ภมะราภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ แถลงยืนยันผลการตรวจจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.พิษณุโลก ว่าแม่ค้าอาหารทะเลตลาดป่าขนุน ต.คุ่งตะเภา อ.เมืองอุตรดิตถ์ จำนวน 1 รายอายุ 48 ปี ซึ่งเดินทางรับซื้ออาหารทะเลจากตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด 19 นอกจากนี้ยังได้นำคนใกล้ชิด ทั้งสามี และเพื่อนบ้าน รวม 8 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงนำสารคัดหลั่งไปทำการตรวจแล้ว แต่ผลยังไม่ออกมา

ทั้งนี้แม่ค้าอาหารทะเล จ.อุตรดิตถ์ รายดังกล่าว มีประวัติเดินทางไปซื้ออาหารทะเลที่ตลาดมหาชัย ตลาดค้ากุ้ง จ.สมุทรสาคร เป็นประจำ เพื่อนำอาหารทะเลมาจำหน่ายที่ตลาดป่าขนุน ทุกวันศุกร์ ทั้งนี้หลังได้รับการติดต่อจากเจ้โอ๋ หนึ่งในแม่ค้าตลาดมหาชัยว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ วันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา และผลการตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงจึงเป็นสามี กลุ่มเพื่อน และ แม่ค้าพ่อค้า รวมไปถึงลูกค้า ที่เข้าใช้บริการตลาดดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา เฉพาะแม่ค้ากว่า 100 ราย

นายไพฑูรย์ พรหมน้อย กำนันตำบลคุ้งตะเภา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ได้ใช้ที่ทำการกลุ่มเกษตรกรทำนาคุ้งตะภา หมู่ 4 ต.คุ้งตะเภา เป็นสถานที่คัดกรอง คัดแยก และสอบสวนโรคให้กับกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัส ใกล้ชิด กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดป่าขนุนกว่า 100 ราย จะแยกกลุ่มเสี่ยงสูงส่งต่อโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ กลุ่มเสี่ยงน้อยให้กักตัวเฝ้าระวัง 14 วัน ขณะเดียวกันสั่งปิดตลาดป่าขนุนเป็นเวลา 7 วัน

แม่ค้าอาหารทะเลซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.อุตรดิตถ์ เป็นคนต่างถิ่นที่เช่าห้องพักอยู่กับสามี ใกล้ตลาดเพื่อเปิดแผงขายอาหารทะเล ช่วงเย็นจะมีเพื่อนบ้านที่สนิท ไปช่วยล้างและจัดอาหารทะเล จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ขณะนี้ได้ค้นหาบุคคลกลุ่มเสี่ยง นำเข้าสู่ขบวนการคัดกรองและตรวจหาเชื้อแล้วกว่า 400 ราย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด–19 แล้ว 3 ราย รายล่าสุดเป็นเพศหญิง อายุ 57 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม และเลี้ยงกุ้งอยู่ในพื้นที่ ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยจะต้องนำกุ้งไปจำหน่ายที่ตลาดกลางค้ากุ้งมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์

ขณะที่โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดนครปฐม ประกาศงดให้ญาติเยี่ยมผู้ป่วยชั่วคราว พร้อมจัดระบบคัดกรองเบื้องต้นและเฝ้าระวังผู้ที่มาจากสมุทรสาคร ในขณะที่ กอ.รมน. ลงพื้นที่แหล่งพักอาศัยแรงงานต่างด้าว ค้นหาผู้ที่อาจหลบหนีมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 พร้อมติดตั้งระบบคัดกรองเบื้องต้น และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อไม่ให้เข้าไปปะปนกับผู้ป่วยรายอื่นๆ ป้องกันการนำเชื้อโรคระบาดเข้าไปแพร่กระจายในพื้นที่ ส่วนผู้ต้องสงสัยตัวเองจะเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือเดินทางกลับมาจากสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่จะสอบสวนโรคเบื้องต้น ก่อนจะส่งไปแยกตรวจด้านหลัง

ส่วนที่ตลาดสดศรีสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตลาดที่แรงงานต่างด้าว มาจับจ่ายซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. สาธารณสุขอำเภอ อสม.และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ค้นหาบุคคลกลุ่มเสี่ยง โดยเรียกแรงงานต่างด้าวที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า แรงงานต่างด้าวที่เช่าอาศัยอยู่ด้านบน หรือเช่าอาศัยอยู่ในพื้นที่ เรียกมาตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกาย สอบประวัติ มีการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง จังหวัดสมุทรสาครหรือไม่ หรือมีญาติ มีเพื่อนจากพื้นที่เสียง เดินทางมาหาหรือไม่ ซึ่งก็ไม่พบมีใครเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่มี 2 คน ไม่มีเอกสารการเดินทางเข้าประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามาจากไหน หรือไปไหนมาบ้าง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]