หลายจังหวัดพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม เชื่อมโยงสมุทรสาคร

22 ธ.ค.-สุพรรณบุรี ปทุมธานี กรุงเทพฯ อุตรดิตถ์ นครปฐม พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม เชื่อมโยงกับการเดินทางไป จ.สมุทรสาคร


จ.สุพรรณบุรี พบแม่ค้ากุ้งติดเชื้อโควิด เป็นชาว อ.สองพี่น้อง ที่รับกุ้งจาก 4 บ่อไปขายที่สมุทรสาคร นอกจากนี้ จ.สุพรรณุบรี ยังพบกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไป จ.สมุทรสาคร กว่า 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งสอบสวนโรค และสั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับรพ.สต. ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร ทั้งหมด

เบื้องต้นพบหญิงไทย 1 ราย อายุ 35 ปี อาชีพแม่ค้ากุ้ง ชาวอ.สองพี่น้อง มีผลเป็นบวกจากห้องปฏิบัติการที่ 1 และ 2 เป็นบวก ขณะนี้เข้ารับการรักษาที่รพ.เอกชน แห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี สำหรับไทม์ไลน์ของหญิงรายดังกล่าว ดังนี้
วันที่ 4 ธ.ค.และ 6 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 1 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ จ.สมุทรสาคร
วันที่ 8-9 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 2 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร
วันที่ 15 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 3 ต.บางตาเถร เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร
วันที่ 17 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 4 ต.บางตาเถร เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร
วันที่ 18 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 3 ต.บางตาเถร เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร
วันที่ 19 ธ.ค. เวลา 01.00 น. รับซื้อกุ้งจากบ่อกุ้งแห่งที่ 4 ต.บางตาเถร เวลา 03.00 น. ขายกุ้งแพสมบัติ สมุทรสาคร เวลา 17.00 น. รักษา ณ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง


ส่วนที่ จ.ปทุมธานี พบติดโควิด-19 จำนวน 3 ราย ช่วงค่ำเมื่อวานฝ่ายปกครองอำเภอธัญบุรี และพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศววิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี พร้อมด้วยนายธนกรณ์ พูนภิญโญศักดิ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบริเวณตลาดนัดวัดสระบัว บริเวณหน้าหมู่บ้านในพื้นที่ คลอง 11 ม.1 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังพบผู้ป่วยโควิด 19 ยืนยัน จำนวน 2 ราย เป็นสามีภรรยาขายอาหารทะเลสด โดยเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดตลาดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ

นายธนกรณ์ พูนภิญโญศักดิ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ กล่าวว่า หลังจากทราบพบผู้ติดเชื้อจำนวน 2 ราย จึงประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิค-19 ซึ่งทางเทศบาลเคลียร์พื้นที่และทำความสะอาดในพื้นที่ตลาดนัดทันที และทำป้ายประกาศแจ้งเตือนประชาชนพร้อมแจกเอกสารรณรงค์ โดย ผู้ป่วย 2 ราย เป็นสามี ภรรยาที่ขายอาหารทะเลในพื้นที่ โดยได้ไปซื้อกุ้งและอาหารทะเลสดจากแพกุ้งใน จ.สมุทรสาคร เพื่อนำมาขายในบริเวณตลาดนัดวัดสระบัว ทั้งคู่พักอาศัยในหมู่บ้านมัฆวานรังสรรค์ คลอง 10 ธัญบุรี และขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่ รพ.ธัญบุรี เบื้องต้นเทศบาลได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับสามีภรรยาที่ติดเชื้อ ให้ไปรับการตรวจโรคที่ รพ.ธัญบุรี เพื่อตระหนักถึงภัยและลดการแพร่เชื้อโควิด-19

ส่วนอีกรายเป็นบุคลากรของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเพจ Thammasat TODAY รายงานว่า มีบุคลากรของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ติดเชื้อโควิด-19 โดยได้รับผลการตรวจยืนยันในวันที่ 21 ธันวาคม โดยระบุว่า เนื่องด้วยในวันนี้ (21 ธันวาคม 2563) คณะกรรมการอำนวยการ COVID-19 สวทช. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ว่ามีผู้ที่ปฏิบัติงานที่สวทช. 1 ท่าน ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นผู้ช่วยปฏิบัติงานวิจัย นาโนเทค โดยบุคลากรท่านนี้ไม่ได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ อวท. ระหว่างวันที่ 10-15 ธันวาคม 2563 และกลับเข้ามาทำงานที่สำนักงานฯ ในวันที่ 16-17 ธันวาคม 2563 เริ่มมีอาการป่วยในตอนเย็นของวันที่ 17 ธันวาคม จึงลางานตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 พักรักษาตัว ณ ที่พักส่วนตัวภายนอกอุทยานฯ และไปพบแพทย์ในวันที่ 19 ธันวาคม 2563 โดยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมาในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 และได้รับการยืนยันผลการติดเชื้อ COVID-19 ในวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ช่วงบ่าย
จากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข พบผู้สัมผัสที่ใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์กับบุคลากรคนดังกล่าวที่เข้าข่ายเสี่ยงสูง ซึ่งมีจำนวน 8 คน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ และทางนาโนเทค ได้ให้ปฏิบัติงาน Work from Home และเฝ้าสังเกตอาการตนเอง


ส่วนที่ กทม. พบเพิ่มอีก 1 ราย เป็นเจ้าของร้านสมศักดิ์ปูอบสาขา 2 โดยเพจเฟซบุ๊ก สมศักดิ์ปูอบสาขา 2 บีทีเองกรุงธนบุรี ได้โพสต์ข้อความ แจ้งว่า เจ้าของร้าน คือ คุณรัตน์ ติดโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ พร้อมประกาศ ให้ลูกค้าที่เคยเข้ามารับบริการตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม หากมีอาการที่เข้าข่าย ให้ไปตรวจ ส่วนร้านประกาศปิด 14 วัน

ในโพสต์ระบุว่า #ประกาศการตรวจพบเชื้อ COVID-19 จากคุณรัตน์เจ้าของร้านสมศักดิ์ปูอบ สาขาบีทีเอสกรุงธนบุรี แอดมินต้องขออภัยจริงๆที่ต้องรอผลตรวจออกก่อน ซึ่งเพิ่งออกมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ธันวาคม ว่า คุณรัตน์ เจ้าของร้าน สาขาบีทีเอสกรุงธนบุรี ได้รับเชื้อ COVID-19 หลังจากมีการเข้ารับการตรวจในวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา (หลังจากข่าวออกในวันที่ 19 ธันวาคม)

ทั้งนี้ทางเราต้องขอโทษทุกท่านจริงๆที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากจากการตามข่าวอย่างใกล้ชิด พบว่าไม่มีการสั่งกักตัว และยังอนุญาตให้คนไทยเข้าออกพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร (ยกเว้นตลาดกุ้งกลางที่เป็นพื้นที่ต้นเหตุ) และยังอนุญาตให้มีการเปิดร้านอาหารภายในพื้นที่ตามปกติในบริเวณของกรุงเทพมหานคร ตัวคุณแม่ (คุณรัตน์) จนถึงนาทีปัจจุบัน ไม่มีอาการใดใดที่บ่งชี้ถึงการได้รับเชื้อ COVID-19 เลย แต่ที่ไปตรวจเพราะว่าเห็นข่าวออกแล้วรู้สึกไม่สบายใจ และตัวเองนั้นไม่ได้ไปที่ตลาดมหาชัยด้วยตัวเอง ตั้งแต่ช่วงวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา และในจุดที่ไป ก็ไม่ใช่ตลาดกุ้งกลาง แต่เป็นแพกุ้งขนาดเล็กบริเวณใกล้หอนาฬิกา

อย่างไรก็ตาม ในวันที่เราไปขอเข้ารับการตรวจ ได้แจ้งทาง รพ.พญาไท 3 ไปแล้วว่าเราไปแพกุ้งที่มหาชัยมา แต่ก็ไม่ได้รับการตรวจฟรี (สันนิษฐานว่า เพราะรัฐออกมาตรการมาให้ตรวจฟรีแค่จากคนที่ไปตลาดกุ้งกลางมาหรือไม่ อันนี้จริงๆ เราก็ต้องการสอบถามไปยังรัฐเหมือนกัน ว่าทำไมการรับการตรวจถึงต้องมีค่าใช้จ่าย ทั้งๆที่เราก็มาจากสมุทรสาคร) ตอนนี้ทางร้านมีความจำเป็นจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในทุกส่วนของพนักงาน เนื่องจากมีความจำเป็นต้องปิดร้านชั่วคราว อย่างน้อย 14 วัน เพื่อที่คุณแม่จะต้องไปรับการกักตัว ดูอาการและรักษาตามขั้นตอนต่อไป

และอีกความรับผิดชอบหนึ่งที่ใหญ่มาก ที่ทำให้แอดมินต้องมาโพสต์ตอนนี้ คือ ครอบครัวเราคุยกันแล้วว่าจะต้องแจ้งเรื่องนี้กับลูกค้าของเราจริงๆ เพราะทุกคนอาจอยู่ในภาวะเสี่ยง ทางร้านขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวต่อการกระทำใดใดที่เกิดขึ้น แม้อาจจะต้องเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าไปเลยนับจากวันนี้
การรับผิดชอบวันนี้ คือ การต้องมาแจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทราบ ทางร้านต้องกราบขออภัยด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์นี้ ที่เปิดให้บริการในวันที่ 20 ธันวาคม จนถึงวันที่ (21 ธ.ค.) จึงอยากประกาศให้ลูกค้าที่เคยเข้ามารับบริการที่ร้านตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม (คำนวณจากการนับถอยหลังไปแล้ว 14 วัน) หากมีอาการที่เข้าข่าย ให้ลองติดต่อขอเข้ารับการตรวจจากภาครัฐ ตามข่าวที่ออกมา

ส่วนไทม์ไลน์ที่คุณรัตน์เจ้าของร้านไปมาย้อนไปตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2563 มีดังนี้
8 ธ.ค.-15 ธ.ค. แพกุ้ง ตลาดยายพ่วง มหาชัย
14 ธ.ค. สยามสแควร์วัน ตั้งแต่ 18.00-21.00 น. ไปร้านดอกไม้ขาว ชีวิตชีวิต และอีฟแอนด์บอย เดินทางโดยรถส่วนตัว
8 ธ.ค.-20 ธ.ค. ยกเว้นวันจันทร์ เข้าทำงานที่ร้านทุกวัน

หมายเหตุ ทางร้านขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้แจ้งให้ทราบว่าที่ผ่านมา ทุกสาขาของเรา แยกกันซื้อของมาก่อนหน้านี้เป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ดังนั้นในสาขาอื่นๆ จึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

ส่วนที่ จ.อุตรดิตถ์ พบแม่ค้าขายอาหารทะเลในตลาดป่าขนุน ที่ไปรับซื้ออาหารทะเลสดจากมหาชัย ติดโควิด-19

นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุตรดิตถ์ และ นพ.อายุส ภมะราภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ แถลงยืนยันผลการตรวจจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.พิษณุโลก ว่าแม่ค้าอาหารทะเลตลาดป่าขนุน ต.คุ่งตะเภา อ.เมืองอุตรดิตถ์ จำนวน 1 รายอายุ 48 ปี ซึ่งเดินทางรับซื้ออาหารทะเลจากตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด 19 นอกจากนี้ยังได้นำคนใกล้ชิด ทั้งสามี และเพื่อนบ้าน รวม 8 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงนำสารคัดหลั่งไปทำการตรวจแล้ว แต่ผลยังไม่ออกมา

ทั้งนี้แม่ค้าอาหารทะเล จ.อุตรดิตถ์ รายดังกล่าว มีประวัติเดินทางไปซื้ออาหารทะเลที่ตลาดมหาชัย ตลาดค้ากุ้ง จ.สมุทรสาคร เป็นประจำ เพื่อนำอาหารทะเลมาจำหน่ายที่ตลาดป่าขนุน ทุกวันศุกร์ ทั้งนี้หลังได้รับการติดต่อจากเจ้โอ๋ หนึ่งในแม่ค้าตลาดมหาชัยว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ วันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา และผลการตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงจึงเป็นสามี กลุ่มเพื่อน และ แม่ค้าพ่อค้า รวมไปถึงลูกค้า ที่เข้าใช้บริการตลาดดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา เฉพาะแม่ค้ากว่า 100 ราย

นายไพฑูรย์ พรหมน้อย กำนันตำบลคุ้งตะเภา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ได้ใช้ที่ทำการกลุ่มเกษตรกรทำนาคุ้งตะภา หมู่ 4 ต.คุ้งตะเภา เป็นสถานที่คัดกรอง คัดแยก และสอบสวนโรคให้กับกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัส ใกล้ชิด กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดป่าขนุนกว่า 100 ราย จะแยกกลุ่มเสี่ยงสูงส่งต่อโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ กลุ่มเสี่ยงน้อยให้กักตัวเฝ้าระวัง 14 วัน ขณะเดียวกันสั่งปิดตลาดป่าขนุนเป็นเวลา 7 วัน

แม่ค้าอาหารทะเลซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.อุตรดิตถ์ เป็นคนต่างถิ่นที่เช่าห้องพักอยู่กับสามี ใกล้ตลาดเพื่อเปิดแผงขายอาหารทะเล ช่วงเย็นจะมีเพื่อนบ้านที่สนิท ไปช่วยล้างและจัดอาหารทะเล จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ขณะนี้ได้ค้นหาบุคคลกลุ่มเสี่ยง นำเข้าสู่ขบวนการคัดกรองและตรวจหาเชื้อแล้วกว่า 400 ราย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด–19 แล้ว 3 ราย รายล่าสุดเป็นเพศหญิง อายุ 57 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม และเลี้ยงกุ้งอยู่ในพื้นที่ ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยจะต้องนำกุ้งไปจำหน่ายที่ตลาดกลางค้ากุ้งมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์

ขณะที่โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดนครปฐม ประกาศงดให้ญาติเยี่ยมผู้ป่วยชั่วคราว พร้อมจัดระบบคัดกรองเบื้องต้นและเฝ้าระวังผู้ที่มาจากสมุทรสาคร ในขณะที่ กอ.รมน. ลงพื้นที่แหล่งพักอาศัยแรงงานต่างด้าว ค้นหาผู้ที่อาจหลบหนีมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 พร้อมติดตั้งระบบคัดกรองเบื้องต้น และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อไม่ให้เข้าไปปะปนกับผู้ป่วยรายอื่นๆ ป้องกันการนำเชื้อโรคระบาดเข้าไปแพร่กระจายในพื้นที่ ส่วนผู้ต้องสงสัยตัวเองจะเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือเดินทางกลับมาจากสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่จะสอบสวนโรคเบื้องต้น ก่อนจะส่งไปแยกตรวจด้านหลัง

ส่วนที่ตลาดสดศรีสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตลาดที่แรงงานต่างด้าว มาจับจ่ายซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. สาธารณสุขอำเภอ อสม.และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ค้นหาบุคคลกลุ่มเสี่ยง โดยเรียกแรงงานต่างด้าวที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า แรงงานต่างด้าวที่เช่าอาศัยอยู่ด้านบน หรือเช่าอาศัยอยู่ในพื้นที่ เรียกมาตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกาย สอบประวัติ มีการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง จังหวัดสมุทรสาครหรือไม่ หรือมีญาติ มีเพื่อนจากพื้นที่เสียง เดินทางมาหาหรือไม่ ซึ่งก็ไม่พบมีใครเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่มี 2 คน ไม่มีเอกสารการเดินทางเข้าประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามาจากไหน หรือไปไหนมาบ้าง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]