ผบ.ทร.เปิดอุทยานประวัติศาสตร์ เรือของพ่อ “เรือ ต.91”

ชลบุรี 28 ก.ย. – ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ เรือของพ่อ “เรือ ต.91” ณ บริเวณอ่าวดงตาลหน้าสโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี


วานนี้ (27 กันยายน) เวลา 18.01 น. พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ เรือของพ่อ “เรือ ต. 91” ณ บริเวณอ่าวดงตาลหน้าสโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอกชุมศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมด้วยคณะทหารชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงสนพระทัยในกิจการทหารเรือมาแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่กองทัพเรือเป็นอเนกอนันต์ เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จฯ ทอดพระเนตรการต่อเรือยนต์รักษาฝั่งที่ประเทศเยอรมนี เมื่อปี พ.ศ.2503 ภายหลังเสด็จฯ นิวัติประเทศไทย ได้ทรงพระราชทานพระราชดำรัสแก่กองทัพเรือว่า “กองทัพเรือควรต่อเรือประเภทนี้ใช้เองบ้าง” ซึ่งในครั้งนั้นได้ทรงพระราชทานวินิจฉัยและคำแนะนำในการต่อเรือแก่เจ้าหน้าที่กรมอู่ทหารเรือหลายประการ จนนำมาซึ่งโครงการต่อเรือ ต.91 โดยโครงการได้เสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2511 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงออกแบบและให้คำแนะนำในการต่อเรือ รวมทั้งเสด็จพระราชดำเนินมาทดลองขีดสมรรถนะเรือ ต.91 ด้วยพระองค์เอง จนปัจจุบันกองทัพเรือได้พัฒนาขีดความสามารถในการต่อเรือจนเป็นที่ประจักษ์ อันได้แก่ชุดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.991 และชุดเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เรือหลวงกระบี่ โดยกองทัพเรือได้สืบสานพระราชปณิธานในการต่อเรือ เพื่อพึ่งพาตนเองมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาของกองทัพเรือในการต่อเรือรบใช้เอง อันเป็นจุดเริ่มต้นของการพึ่งพาตนเอง อีกทั้งยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมการต่อเรือรบภายในประเทศในเวลาต่อมา นับได้ว่า เรือ ต.91 เป็นปฐมบทของการพัฒนาและการพึ่งพาตนเองของกองทัพเรือและประเทศชาติ


จากพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานให้แก่กองทัพเรือ ในการต่อเรือ ต.91 ในครั้งนั้น จึงเปรียบได้ว่า เรือ ต.91 เป็นเรือของพ่อ ตามที่ปรากฏเมื่อครั้งที่กองทัพเรือได้จัดงาน “50 วัน แห่งความอาลัย รวมหัวใจเรือของพ่อ” แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 โดยนำเรือ ต.91 มาจอดเทียบท่า ณ หอประชุมกองทัพเรือ ซึ่งนำมาซึ่งการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แก่ผู้ร่วมกิจกรรมอย่างมากมาย ทั้งกำลังพลของกองทัพเรือ และประชาชนทั่วไป

เรือ ต.91 มีประวัติการใช้ราชการยาวนานเป็นเวลาถึงกว่า 51 ปี จนกระทั่งกองทัพเรือได้พิจารณาเห็นว่า เรือ ต.91 นั้นมีสภาพทรุดโทรมมาก การซ่อมทำเพื่อใช้ราชการต่อไปไม่มีความคุ้มค่า จึงเสนอกระทรวงกลาโหมให้ปลดเรือ ต.91 ออกจากระวางประจำการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริว่า กองทัพเรือควรจะอนุรักษ์เรือรบเก่าไว้ แล้วจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางทหารเพื่อเผยแพร่ความรู้แก่สาธารณชน และเรือ ต.91 เป็นเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ที่เป็นตำนานของกองทัพเรือ แสดงถึงความเกี่ยวพันระหว่างพระมหากษัตริย์กับกองทัพเรือ และประเทศชาติ ที่พระองค์ทรงมีความห่วงใยในด้านการพัฒนากำลังรบอย่างชัดแจ้งและเป็นที่ประจักษ์แก่กองทัพเรือ

ด้วยสำนึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการ จึงมีความตั้งใจที่จะนำเรือ ต.91 ที่ปลดระวางประจำการมาอนุรักษ์จัดตั้งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์เรือของพ่อ “เรือ ต.91” ณ บริเวณอ่าวดงตาล โดยใช้ทุนจากการบริจาคเพื่อสนับสนุนโครงการฯ และรายได้ทั้งหมดจากการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง เทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยได้รับการสนับสนุนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สำหรับให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษาประวัติ พระอัจฉริยภาพในด้านการออกแบบและต่อเรือของพระองค์ อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กองทัพเรือ


โดยในส่วนของพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ เรือของพ่อ “เรือ ต.91” ที่จัดให้มีขึ้นบริเวณชายหาด หน้าอ่าวดงตาล กองเรือยุทธการ ในวันนี้ มีกิจกรรมที่สำคัญ ประกอบด้วย การแสดงบินหมู่สีควันธงชาติโดยพารามอเตอร์ การแสดงดนตรีแจ๊สบทเพลงพระราชนิพนธ์ จากวงดนตรีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล การแสดงพลุจำนวน 91 นัด นอกจากนั้นเรือใบที่เข้าร่วมการแข่งขันเรือใบชิงแชมป์ระดับประเทศไทยประเภทต่างๆ รวมถึงเรือใบประเภทซูเปอร์มด รวม 91 ลำ จะได้ร่วมแล่นใบหน้าอ่าวดงตาล เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อกองทัพเรือ และกีฬาเรือใบ ซึ่งเป็นกีฬาที่ทรงโปรด และทรงมีพระปรีชาสามารถในการแล่นใบ รวมทั้งมีพระอัจฉริยภาพในการต่อเรือใบด้วยพระองค์เอง โดยในส่วนของเรือใบซูเปอร์มดนั้น เป็นเรือใบที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงออกแบบและจดลิขสิทธิ์ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์เรือของพ่อ เรือ ต.91 แห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของของอำเภอสัตหีบ อันจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่สัตหีบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]