ยิงเพื่อนดับ เหตุไม่ยอมให้เข้าบ้านเสพยาบ้า

ร้อยเอ็ด 28 ส.ค. – รวบแล้วหนุ่มวัย 38 ปี โมโหเพื่อนไม่ยอมเปิดประตูบ้านให้เข้าไปเสพยาบ้า คว้าปืนยิงดับคาบ้าน


นี่เป็นภาพวงจรปิดที่บ้านพักของนายสถิต พึ่งเมือง ที่จับภาพคนร้ายใส่เสื้อกันฝนพกปืนยืนอยู่หน้าบ้านพักใน อ.สุวรรณคูหา จ.ร้อยเอ็ด ก่อนลงมือก่อเหตุยิงเบ้าตาทะลุหลังหูเสียชีวิต เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทั่งวันต่อมามีคนไปพบศพนายสถิต ตำรวจ สภ.สุวรรณคูหา ตรวจสอบจนทราบตัวคนร้าย และเร่งไล่ล่าจับกุม

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ตำรวจ สภ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู นำหมายจับของศาลจังหวัดหนองบัวลำภู เข้าจับกุมนายวัฒนา งอบสูงเนิน อายุ 38 ปี ชาว ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ในข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธปืน และทำให้เสียทรัพย์ หลังก่อเหตุยิงนายสถิต พึ่งเมือง อายุ 44 ปี เสียชีวิต


เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พนักงานสอบสวน สภ.สุวรรณคูหา ได้รับแจ้งว่า นายสถิต พึ่งเมือง ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพัก โดยสภาพศพมีรอยกระสุนถูกยิงเข้าที่ตาด้านขวาทะลุออกหลังหูขวา เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบว่า บ้านที่เกิดเหตุติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้รอบตัวบ้าน จึงเก็บไฟล์กล้องที่บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พบช่วงเกิดเหตุผู้ตายอาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียว และพบว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เวลาประมาณ 05.05 น. กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายรูปร่างสันทัด สูงไม่เกิน 160 เซนติเมตร สวมเสื้อกันฝนและกางเกงกันฝน พร้อมกับติดโคมไฟส่องกบไว้ที่ศีรษะ สวมรองเท้าบู๊ทยางสีน้ำตาล และใส่หมวกกันฝนคลุมศีรษะ มือขวาถืออาวุธปืนลูกซองยาวเดินเข้ามาบริเวณบ้านของผู้ตาย จากนั้นคนร้ายได้เคาะประตูเรียกผู้ตาย เพื่อจะเข้าไปในบ้าน แต่ผู้ตายไม่ยอมเปิดประตู สักพักผู้ตายจึงเปิดประตูออกมาด้านหลัง ลักษณะคล้ายจะต่อสู้ คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนที่ถืออยู่ยิงใส่ผู้ตาย 1 นัด ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป

หลังทราบตัวคนร้าย ตำรวจจึงออกติดตามจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 9 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ถูกถอดแยกชิ้นอยู่ในถุงกระสอบสีขาว ซุกซ่อนอยู่ภายในโอ่งแดงข้างกระท่อมนา

นายวัฒนา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง สาเหตุเกิดจากโมโหที่ผู้ตายไม่ยอมเปิดประตูให้เข้าไปในบ้าน โดยตอนนั้นมียาบ้าติดตัวมาด้วย 2 เม็ด ตั้งใจว่าจะนำไปเสพกับผู้ตายในบ้าน แต่ผู้ตายไม่ต้อนรับ ประกอบกับตนเองเสพยาบ้ามาก่อนแล้ว จึงเกิดอาการหลอน ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาเพื่อล่าสัตว์ ยิงใส่ผู้ตาย ก่อนจะหนีกลับบ้านที่ จ.อุดรธานี และเตรียมเก็บกระเป๋าหลบหนีไปกรุงเทพฯ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”