fbpx

นักเรียน ม.2 ถูกครูบูลลี่จนอายไม่กล้าไปโรงเรียน

ตรัง 22 ส.ค.- ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ระบุ นักเรียน ม.2 ถูกครูบูลลี่เรื่องสายตา จนอายไม่กล้าไปโรงเรียน


จากเฟซบุ๊ก ชื่อเจ้านาย เจเจ ได้โพสต์ สอบถามความคิดเห็นถึงเรื่องราว ของ น้องบอย นามสมมุติ นักเรียนชั้น ม.2 แห่งหนึ่งในอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง หลานชายที่ ถูกครูบูลลี่ในชั้นเรียนดนตรี ต่อหน้าเพื่อนจำนวนมาก จนอับอายไม่กล้าไปโรงเรียน ใจความว่า สอบถาม “ผู้รู้หน่อยครับ…พอดีมีหลานเรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีสายตาผิดปกติ ตาข้างหนึ่งมองไม่ค่อยเห็น วันนี้ไปโรงเรียน แต่โดนอาจารย์ท่านนึงด่าว่า ด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม เอาปมด้อยของเด็กมาว่า เด็กตาเหล่บ้าง เด็กตาบอดบ้าง ขึ้นมึงขึ้นกู ทั้งๆ ที่เด็กคนนี้ไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าว แถมยังช่วยงานพ่อแม่ทุกอย่างถือว่าเป็นเด็กดีคนหนึ่งเลย เจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้เด็กกลับมาถึงบ้านอยู่แต่ในห้องไม่กินข้าว เครียด นอนร้องไห้กับแม่ บอกว่าจะไม่เรียนแล้วเพราะอายเพื่อน โดนครูว่า ต่อหน้าเพื่อนๆ หลายคน เลยอยากถามว่าอาจารย์ท่านนี้มีพฤติกรรมเหมาะสมหรือขอรบกวนผู้รู้ให้คำแนะนำครับ ทำให้มีหลากหลายความคิดเห็นเข้ามาแสดงข้อความ ทั้งตำหนิ ว่าคนไม่เป็นครูไม่สมควรทำแบบนี้

ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับน้องบอย และครอบครัว โดยน้องบอย เล่าว่า เหตุการณ์นี้ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม 2563 ในวิชาดนตรี ครูรายนี้เป็นผู้ชาย กำลังต่อว่า และทำโทษเพื่อนของ น้องบอย 2 คนก่อน และยังคงมีอารมณ์หงุดหงิด เมื่อเดินทางมาที่น้องบอย จึงได้พูดว่า “มึงไปไหนไอ้ตาเหล่ ไม่จบไม่สิ้นจริงพวกตาเหล่นี้” ซึ่งทำให้อับอาย จนไม่ได้ไปโรงเรียน ทั้งนี้ครูคนนี้ก็ไม่เคยพูดจาแบบนี้มาก่อน และตั้งแต่วันศุกร์ น้องบอย ก็ไม่ได้ไปโรงเรียน และวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็ไม่แน่ใจว่า จะกล้าไปโรงเรียนหรือไม่


เช่นเดียวกับนางอรอุมา หีบเพชร มารดาของน้องบอย ก็ออกว่าเล่ารู้สึก สงสารน้องบอย เพราะ ตั้งแต่น้องบอยเกิดมาก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสายตา แต่เมื่ออายุ 10 ขวบ ถูกนกจิบตา ข้างซ้าย ตาไม่ได้บอดสนิท แต่หากปิดตาข้างขวา จะมองเห็นลางๆ รักษามาตั้งแต่ ป.4 ต้องหยุดเรียนไป 2 ปี จึงสงสารลูกมาก และแม้ว่าครูจะได้มาขอโทษครอบครัวแต่ก็ อยากให้ครูคนนี้ตระหนัก และไม่ควรพูดจาล้อปมด้อยของเด็กอีก เพราะแม้ตนที่เป็นแม่ยังไม่เคยเอ่ยถึง เรื่องนี้เลย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง