ผู้ต้องหาชิงทองสาหัส หลังดวลสนั่นกับตำรวจ

ขอนแก่น 3 ส.ค. – คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างโลตัส จ.บึงกาฬ เปิดฉากยิงต่อสู้กับตำรวจ หลังถูกตำรวจสืบสวนภาค 4 ไล่ติดตามจับกุมประชิดตัว ก่อนจะขัดขืนชักอาวุธปืนต่อสู้ สุดท้ายถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณข้างโรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น ช่วยกันปฐมพยาบาลนายรังสรรค์ ไม่ทราบนามสกุล หลังถูกตำรวจสืบสวนภาค 4 ใช้อาวุธปืนยิงบริเวณศีรษะ อาการสาหัส โดยผู้ต้องหาพยายามเปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ หลังนายรังสรรค์ ก่อเหตุเข้าไปชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เมื่อค่ำวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ไปกว่า 90 บาท หรือเป็นเงินราว 2.7 ล้านบาท ที่เกิดเหตุพบของกลางเป็นทองรูปพรรณจำนวนมากอยู่ในกระเป๋าคาดเอวสีดำ ตกอยู่ใกล้ผู้ต้องหา พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับกันพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรอตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 เข้าตรวจสอบหารายละเอียด รวมทั้งทองรูปพรรณของกลางที่พบภายในกระเป๋าว่ามีน้ำหนักกี่บาท จากการตรวจสอบทองรูปพรรณ พบเป็นสร้อยคอ จำนวน 20 เส้น กำไล 66 เส้น ยังไม่สามารถระบุน้ำหนักทองได้


เบื้องต้นตำรวจได้แกะรอยนายรังสรรค์มาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่าเป็นชาวจังหวัดขอนแก่น จึงได้ติดตามตัวอย่างใกล้ชิด โดยตำรวจได้ติดตามนายรังสรรค์ ตั้งแต่ซอยศรีมารัฐ 16 ภายในชุมชนสามเหลี่ยม เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยตำรวจได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ก่อนจะแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายรังสรรค์ขับรถหลบหนี เมื่อถึงที่เกิดเหตุ บริเวณแยกโรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น ถ.เฉลิมพระเกียรติ ตัดกับ ถ.มะลิวัลย์ ตำรวจพยายามบอกให้หยุดรถและมอบตัว แต่นายรังสรรค์ได้ควักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่อยู่ในกระเป๋าสะพาย ออกมายิงใส่ตำรวจ แต่ถูกตำรวจยิงก่อน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นนายรังสรรค์พยายามเดินหนีออกมา แต่สุดท้ายก็ทรุดลงกับพื้น ก่อนที่ตำรวจจะแจ้งเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ และนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น เพราะอาการสาหัส

สำหรับนายรังสรรค์ เป็นผู้ร่วมก่อเหตุชิงทองกับนายเฉลิมพงศ์ ที่ห้างเทสโก้ โลตัส จ.บึงกาฬ โดยวันที่จับกุมตัวนายเฉลิมพงศ์ได้นั้นไม่พบทองของกลาง เจ้าหน้าที่จึงขยายผลจนพบนายรังสรรค์ กำลังหลบหนีไปพร้อมกับทองที่ก่อเหตุมาได้

ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ (3 ส.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ ได้ควบคุมตัวนายเฉลิมพงศ์ หรือ เสือ เพชรตะกั่ว อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคนแรกที่เข้าไปใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาบึงกาฬ ภายในห้างเทสโก้ โลตัส โดยมีพนักงานสาว 5 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุเป็นคนชี้ตัว ใช้เวลาทำแผนฯ ไม่ถึง 5 นาที หลังจากทำแผนฯ เสร็จ เจ้าหน้าที่ก็รีบนำตัวไปฝากขังทันที


ส่วนฐานความผิดที่ตั้งไว้ ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย