ผบช.ภ.5 ยันการเสียชีวิต “จารุชาติ” พยานปากเอกคดี “บอส” เป็นอุบัติเหตุ

เชียงใหม่ 31 ก.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 สรุปสาเหตุการเสียชีวิตของพยานปากสำคัญในคดี “บอส อยู่วิทยา” เกิดจากอุบัติเหตุ ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้จำลองเหตุการณ์รถ จยย.ของพยานปากสำคัญชนกับ จยย.คู่กรณี ด้านคู่กรณีถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และยืนยันไม่รู้จักกับนายจารุชาติ ที่หนีออกจากโรงพยาบาลเพราะไม่มีค่ารักษา และตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น ด้านครอบครัว “จารุชาติ” ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานภาค 5 เข้าตรวจสอบสภาพรถจักรยานยนต์ 2 คัน ซึ่งเป็นของกลางในคดีที่นายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอก ในคดีบอส อยู่วิทยา ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ถนนห้วยแก้ว ในตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อคืนวานนี้ เพื่อตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชน พร้อมได้จำลองเหตุการณ์ที่รถ 2 คันเฉี่ยวชนกัน


ด้านนายสมชาย ตาวิโน คู่กรณี ให้การว่า เป็นฝ่ายถูกชนด้านท้าย กระทั่งนายจารุชาติ ขับรถเสียหลักชนกับขอบถนนด้านซ้าย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ขณะที่รถตัวเองรถเสียหลักพุ่งชนเกาะกลางถนน ยังคงยืนยันไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน และเหตุที่ออกจากโรงพยาบาลเพราะไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล กว่า 2,000 บาท ประกอบกับตกใจที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคู่กรณีเสียชีวิตและมีเงินติดตัวแค่ 500 บาท จึงออกจากโรงพยาบาลไปเอารถจักรยานยนต์ที่สถานีตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ โดยไม่ได้บอกใคร ก่อนกลับที่พัก จนตำรวจไปตามตัวมาสอบปากคำ

นอกจากนี้ยังนำช่างมอเตอร์ไซค์มาตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ของรถทั้งสองคันว่ามีการแก้ไขดัดแปลงจนมีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ ช่างซ่อมจักรยานแจ้งว่ารถทั้งสองคันมีสภาพ 80-90% ใช้งานปกติ ไม่มีการดัดแปลงปรับแต่ง แต่รถของนายสมชาย เบรกหน้าใช้การไม่ได้ รถทั้งสองคันมีร่องรอยบิดเบี้ยวจากการเฉี่ยวชน


ด้านผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 5 เผยว่า รถจักรยานยนต์ของกลางทั้งสองคัน เป็นวัตถุพยานที่ใช้ประกอบสำนวนคดี และประกอบผลการชันสูตรศพของนิติเวช การสอบปากคำของนายสมชาย คู่กรณี รวมถึงผลการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จึงจะสามารถสรุปสาเหตุการตายของนายจารุชาติได้

ผบช.ภ.5 ยืนยันการเสียชีวิต “จารุชาติ เป็นอุบัติเหตุ
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยความคืบหน้าว่า จากการตรวจสอบภาพคลิปวงจรปิด พบว่านายจารุชาติขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของนายสมชาย บนถนนห้วยแก้ว ในตัวเมืองเชียงใหม่ จนรถจักรยานยนต์ ของนายจารุชาติล้ม ศีรษะกระแทกพื้นถนน เจ้าตัวไม่ได้สวมหมวกนิรภัย จนเสียชีวิต ส่วนคู่กรณีเสียหลักชนเกาะกลางถนน บาดเจ็บ คดีนี้สรุปเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ ส่วนข้อสงสัยว่านายจารุชาติทำงานอะไร กับใครที่ไหน ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลแล้ว เพื่อตอบคำถามให้กับสังคมได้ทุกประเด็น

ครอบครัว “จารุชาติ” ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
ส่วนที่หมู่บ้านวังชมภู บ้านเลขที่ 225 หมู่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย มีพ่อแม่และญาติพี่น้อง ร่วมงานศพนายจารุชาติ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศรกเศร้า ครอบครัวเตรียมทำสะตวง เพื่อไปเรียกวิญญาณลูกชายจากจุดเกิดเหตุ ให้กลับบ้าน ส่วนศพจะทำพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคมนี้


แม่ของนายจารุชาติ ยืนยันขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความเสียใจจากครอบครัว ของนายบอส อยู่วิทยา ซึ่งครอบครัวไม่ทราบเรื่อง และยังรู้สึกงงว่าลูกเป็นพยานปากเอกในคดีดังกล่าวได้อย่างไร เพราะลูกจบแค่ ป.4 ซึ่งตำรวจเชียงใหม่ได้มาสอบปากคำไปเมื่อคืนแล้ว ส่วนคดีขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการตาย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน