เร่งสางปมคนร้ายยิงถล่มอริกว่า 40 นัด 3 นาที ดับ 3 ศพ

พัทลุง 29 ก.ค.- ความคืบหน้าเหตุกลุ่มคนร้ายยิงถล่มคู่อริเกือบ 40 นัดกลางเมืองพัทลุง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ เบื้องต้นตำรวจคาดว่าอาจเป็นเหตุทะเลาะกัน และอาจไม่ใช่กลุ่มมืออาชีพที่ลงมือ ส่วนน้ำหนักก่อเหตุอาจมาจากความขัดแย้งส่วนตัว


พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ประชุมร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรเมืองพัทลุง เพื่อคลี่คลายคดีที่มีคนร้ายยิงถล่มวัยรุ่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง โดยแบ่งชุดกันทำงานสืบสวนสอบสวนหาตัวกลุ่มคนร้าย แหล่งกบดาน และรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ รวมถึงเส้นทางหลบหนี พร้อมกำชับให้เร่งหาพยานหลักฐานให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์

ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ สามารถบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดได้ เริ่มตั้งแต่เห็นรถเก๋งของผู้เสียชีวิตจอดอยู่ริมถนน จากนั้นมีกลุ่มคนร้าย 2 คน เดินมาคุมเชิง และมีรถกระบะคนร้ายจอดอยู่ด้านหลัง ซึ่งห่างออกไป 15 เมตร จากนั้นปรากฏผู้ตายเดินออกมาจากรถ ก่อนจะถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุยิงถล่มหลายสิบนัดจนเสียชีวิตคาที่ 1 ศพ จากนั้นคนร้ายยังยิงถล่มเข้าไปในรถเก๋งอีกหลายสิบนัด และขณะนั้นมีเพื่อนผู้ตายวิ่งหนีไปได้ 1 คน อย่างไรก็ตาม ผ่านไป 3 นาทีที่มีการยิงถล่มกัน ปรากฏว่ากลุ่มคนร้ายได้ขับรถเก๋งของกลุ่มผู้ตายออกมาจากจุดเกิดเหตุ กระทั่งมีผู้ไปพบถูกจอดทิ้งไว้ริมคลองชลประทาน ห่างจากถนนเพชรเกษม 2 กิโลเมตร และภายในรถพบศพอีก 2 ศพ


ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์ทราบผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพได้แล้ว ประกอบด้วย นายรัตนพงษ์ จันทร์ปาน อายุ 38 ปี (เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุแรก), นายภาสกร ดำสนิท อายุ 21 ปี และนายอรรถกร นุ่นปาน อายุ 24 ปี (2 ศพหลังเสียชีวิตในรถเก๋งที่ถูกขับมาจอดทิ้งไว้) โดยทั้งหมดถูกยิงถล่มด้วยอาวุธปืนหลายสิบนัดจนร่างพรุน มีร่องรอยกระสุนเกลื่อนเต็มพื้นที่เกิดเหตุเกือบ 40 นัด และยังมีร่องรอยกระสุนที่รถยนต์เก๋งสีดำ ทะเบียน 3กล-6280 กทม. อีกกว่า 20 นัด

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า ขณะนี้ได้หลักฐานมากพอสมควร ทั้งภาพวงจรปิดที่เกิดเหตุและเส้นทางหลบหนี คาดว่าก่อนเกิดเหตุมีการนัดเจรจาบางอย่าง ส่วนจะเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่นั้นต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ส่วนจะเป็นมืออาชีพหรือไม่นั้น มองว่าอาจเป็นการทะเลาะวิวาทกัน และประเด็นการสังหารโหดยังคงให้น้ำหนักไปในเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ