คุมตัว “ณัฐวุฒิ” ทำแผนฆ่าเผาอำพรางศพนักศึกษา

9 ส.ค. –คุมตัวสาวสองทำแผน ฆ่าเผานักศึกษาในหอพักย่านประชาชื่น หลังหนีกบดานบ้านเกิดนครสวรรค์ แต่ไม่รอด ส่วนสาเหตุที่ต้องฆ่า ผู้ต้องหาอ้างแค้นเรื่องเงิน


จากกรณีนายวิศว หรือ ซัน อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ย่านคลองประปา ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต ก่อนใช้ผ้าห่มพันร่างกายแล้วจุดไฟเผาอำพรางศพ ภายในห้องพักของหอพักแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น อำเภอเมืองนนทบุรี โดยมีวงจรปิดจับภาพคนร้ายลักษณะคล้ายสาวประเภทสอง ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดก่อเหตุ โดยที่ตอนนั้นผู้ตายมายืนรอรับที่ประตูทางเข้า และหลังก่อเหตุคนร้ายได้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขี่รถหนีไป

ต่อมาตำรวจได้เบาะแสว่าผู้ต้องหาหนีไปกบดานที่บ้านพักในพื้นที่อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ จึงบุกไปจับกุมได้ที่บ้านพักในตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว โดยคนร้าย คือ นายณัฐวุฒิ หรือ นัท สาวสองวัย 21 ปี ยอมรับลงมือฆ่าซันจริง เพราะแค้น มีปัญหากันเรื่องเงิน หลังลงมือฆ่าได้นำมือถือของซันไปขายได้เงินมา 7,000 บาท แล้วเดินทางไปภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อนตัดสินใจเดินทางกลับมาหาปู่กับย่าที่บ้านเกิดในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์


คืบหน้าเช้านี้ ภายหลังตำรวจได้ไปรับตัวนายณัฐวุฒิ มาคุมขังที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ พันตำรวจเอกพิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้เข้าไปพูดคุยกับนายณัฐวุฒิที่ห้องควบคุมประมาณ 20 นาที แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดกับนักข่าว บอกแต่เพียงว่า วันนี้จะคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบสำนวนคดี

ล่าสุดตำรวจได้คุมนายณัฐวุฒิ ไปทำแผน ท่ามกลางการคุ้มกันที่แน่นหนา รวมถึงให้นายณัฐวุฒิ สวมหมวกกันน็อกด้วย อย่างไรก็ตาม นาทีที่ถูกคุมตัวออกมาจากโรงพัก นักข่าวพยายามสอบถามย้ำถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ แต่นายณัฐวุฒิ ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามใดๆ กับนักข่าว ส่วนจุดแรกที่ตำรวจให้ผู้ต้องหาไปชี้ตัว คือบริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ที่อยู่หน้าหอพัก และหน้ารถกระบะคันสีขาว ตามภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่เกิดเหตุ ก่อนจะพานายณัฐวุฒิ ไปชี้จุดที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 6 ของห้องพักผู้ตาย

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าลงมือฆ่านายวิศวจริง โดยผู้ก่อเหตุเดินทางจากนครสวรรค์ไปที่เชียงใหม่ก่อนจะลงมาที่กรุงเทพ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. และพักที่โรงแรมย่านพญาไท ก่อนจะนัดพบนักศึกษาหนุ่มที่ห้องพัก เมื่อวันที่ 7 ส.ค. โดยสาเหตุการก่อเหตุมาจากเรื่องเงิน ซึ่งเดิมตกลงกันไว้ 2,000 บาท แต่เมื่อมาถึงมีการเรียกเงินเพิ่มเป็น 5,000 บาท จึงเกิดมีปากเสียงกันและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นมีดที่มีอยู่ในห้องอยู่แล้ว หลังจากใช้มีดแทงผู้ตายแล้วคิดว่าน่าจะเสียชีวิต จึงเอาเสื้อผ้าที่อยู่ในห้องรวมถึงหมอนผ้าห่มมาห่อบริเวณร่างของผู้เสียชีวิต ก่อนจะจุดไฟเผาและนำมีดที่ก่อเหตุโยนลงในกองเพลิง คาดว่าเป็นการก่อเหตุซึ่งหน้า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุยังไม่พบอาวุธดังกล่าว


ในส่วนของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ผู้ต้องหาอ้างว่ารู้จักกับผู้ตายผ่านทาง Facebook เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการติดต่อกันมาโดยตลอด จนกระทั่งนัดหมายมาพบเจอกันที่ห้องพักของผู้ตาย ส่วนจะนัดหมายมาทำอะไรกันนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ภายในสำนวน

เบื้องต้นมีการแจ้ง 4 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา วางเพลิงเผาทรัพย์ อำพรางศพ ลักทรัพย์ และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหายังไม่พบว่ามีประวัติก่อเหตุมาก่อนหน้านี้ รวมถึงในช่วงบ่ายของวันนี้จะมีการนำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน