ครอบครัว “ใหม่” ปรึกษาทนาย ไม่ต้องการให้ “พร” ได้รับมรดกสามี

สมุทรปราการ 6 ก.พ. – ครอบครัว “ใหม่” เดินหน้าปรึกษาทนาย ไม่ต้องการให้ “พร” ได้รับมรดกสามี ระบุรับพฤติกรรมไม่ได้ ด้าน “เอ” โลกอีกใบของ “พร” ก้มกราบขอโทษแม่ “ใหม่”


กล้องวงจรปิดของหมู่บ้านจับภาพได้เมื่อเวลา 22.43 น. วันที่ 27 ม.ค.67 พบนายเอ หรือนายเอกชัย ขับรถเข้ามาในหมู่บ้าน ก่อนส่งใบขับขี่ให้ รปภ. โชว์ในกล้องวงจรปิด ตามกฎของหมู่บ้าน จากนั้นนายเอหายเข้าไปที่บ้านนางสาวพร และคืนเดียวกันเวลา 00.03 น. วันที่ 28 ม.ค. 67 วงจรปิดทางเข้าซอยบ้านของนางสาวพร จับภาพนาทีที่นางสาวพรเดินถือของออกมากับนายเอ เพื่อไปที่รถของนางสาวพรที่จอดอยู่อีกซอย ก่อนที่นายเอจะเดินถือถุงเก้าอี้สนามกลับมาที่รถอีกครั้ง แล้วนำถุงดังกล่าวใส่ท้ายรถ จากนั้นนายเอถอยรถออกจากซอย แล้วขับออกจากหมู่บ้านไปในเวลา 00.40 น.

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน เล่าว่า นายเอเข้ามาในหมู่บ้านนี้อยู่บ่อยครั้ง แสดงบัตรชื่อและรูปตรงกับตัวจริง มีการบันทึกเข้าออกไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เข้ามาไม่นานก็ออกไป ไม่ได้มีการมานอนค้าง


นายเอ ยอมรับว่า คืนวันที่ 27 ม.ค. 67 นางสาวพรได้โทรหาตน บอกว่าพ่อไม่อยู่บ้านแล้ว หลังจากนางสาวพรโทรมาจึงเข้าไปหาที่บ้านและมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ตนมาทราบภายหลังว่าคืนนั้นเป็นคืนที่นายกิตอุ้มนายใหม่ไปฆ่า ซึ่งตนไม่เห็นความผิดปกติของนางสาวพรแต่อย่างใด ส่วนที่ตนหลงรักนางสาวพรเพราะพูดจาดี เป็นคนนิสัยน่ารัก ยืนยันว่าตนไม่ทราบว่านางสาวพรมีสามีมาก่อน เพราะไปบ้านนางสาวพรก็ไม่เคยเห็นของใช้ของผู้ชายเลย จึงเชื่อสนิทใจว่ามีตนคนเดียวจริงๆ

“เอ” กราบขอโทษแม่ผู้ตาย ยันไม่รู้ว่า “พร” มีสามีแล้ว
ล่าสุดนายเอ โลกอีกใบของนางสาวพร ก้มกราบขอโทษแม่ “นายใหม่” ผู้ตาย ที่ตัวเองคบหากับนางสาวพร ภรรยาของนายใหม่ เพราะไม่ทราบว่านางสาวพรมีสามีอยู่แล้ว หากทราบจะไม่ยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด เพราะนางสาวพรมักอ้างว่าพักอาศัยอยู่กับพ่อมาตลอด ด้านแม่นายใหม่รับคำขอโทษและทราบดีว่านายเอไม่มีส่วนผิด จึงอโหสิกรรมให้ และขอให้ใช้ชีวิตปกติ

แม่-น้องนายใหม่ หารือทนาย ไม่อยากให้ “พร” รับมรดก
อย่างไรก็ตาม วันนี้แม่ของนายใหม่ ยังได้เดินทางไปพบทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายใหม่ ที่นางสาวพรจะได้รับจากสินสมรส ทั้งในส่วนของเงินประกันสังคม เงินประกันชีวิต และเงินช่วยเหลือจากบริษัท รวมถึงเงินในบัญชีนายใหม่ ซึ่งแม่ของนายใหม่ และนางสาวพร จะต้องได้รับคนละครึ่ง โดยครอบครัวยืนยันรับไม่ได้กับพฤติกรรมของนางสาวพร และไม่ต้องการให้ได้รับเงินในส่วนนี้


ศาลไม่ให้ประกัน 4 ผู้ต้องหา ร่วมอุ้มฆ่า
ความคืบหน้าทางคดี หลังจากเมื่อวานนี้ (5 ก.พ.) ผู้ต้องหาอีก 4 คน ประกอบด้วย นายนันทพัทธ์ (โอ๊ต) อายุ 23 ปี นายปานเทพ (แท็ป) อายุ 29 ปี น.ส.อภิสรา (นิว) อายุ 22 ปี และนายสุขสงกรานต์ (กาน) อายุ 24 ปี ถูกคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในข้อหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ, ข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย ซึ่งแม้พนักงานสอบสวนจะไม่ค้านประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ วันนี้ญาติจึงต้องยื่นเรื่องอุทธรณ์ขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต

ผู้ว่าฯ กทม. คาด 4 วันเคลียร์ซากตึก สตง. ก่อนส่งคืนพื้นที่

ผู้ว่าฯ กทม. คาด 4 วัน เคลียร์พื้นที่ซากอาคาร สตง. เพื่อค้นหาผู้สูญหายได้หมด ก่อนส่งมอบพื้นที่คืนหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป