เพชรบูรณ์ 7 ม.ค. – หนุ่มบุกบ้านเพื่อนบ้านใช้ขวานทุบหัวเด็กวัย 4 ขวบ กะโหลกแตก-ฝังสมอง ผ่าตัดเย็บถึง 37 เข็ม ตำรวจตามรวบตัวได้ทันที บอกไม่รู้เรื่อง-ไม่ได้ก่อเหตุ แม่อ้างลูกขาดยา
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ เขตรับผิดชอบพื้นที่ สภ.ท่าพล นายวัน อายุ 68 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า เด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บ คือ น้องยูเครน อายุ 4 ขวบ เป็นหลานชาย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.67 ตนกำลังนั่งเล่นอยู่ชั้นล่างกับหลานสาว ส่วนหลานชายวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน แต่ก็อยู่ในเขตรั้วบ้าน สักพักได้ยินเสียงนายอาทิตย์ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและมีประวัติเสพยาเสพติดตะโกนเรียกหลานชายให้ออกไปหา แต่หลานชายกลัวจึงวิ่งเข้าบ้านและปิดประตู ต่อมานายอาทิตย์เดินตามเข้ามา โดยที่หลานชายยืนอยู่ห่างจากประตูไม่ถึง 1 เมตร จู่ ๆ นายอาทิตย์ ก็ใช้สันขวานทุบหัวหลานชายเสียงคล้ายทุบมะพร้าว หลานชายฟุบลงนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น มีเลือดไหลออกมา ตนตกใจทำอะไรไม่ถูก เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จึงตะโกนบอกญาติ ๆ เข้ามาช่วยเหลือ
หลังก่อเหตุ นายอาทิตย์เดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อญาติมาดูหลานแล้วตนจึงวิ่งตามออกไป นายอาทิตย์จึงหันมาพร้อมกับขู่ว่า “หรือมึงจะเอาอีก” ด้วยความกลัวตนจึงไม่กล้าตามไป สักพักนายอาทิตย์ก็กลับไปบ้าน และขี่รถจักรยานยนต์ออกไป พร้อมถือขวานด้ามที่ใช้ก่อเหตุ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสามารถติดตามจับกุมตัวได้ หลังสถานีอนามัยห่างจากบ้านของตนเองประมาณ 5 กิโลเมตร แต่ไม่พบขวานที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหา คาดว่าน่าจะขว้างทิ้งข้างทางไปแล้ว
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้าน พบว่าเวลาประมาณ 16.30 น. นายอาทิตย์ เดินมาที่เสาไฟหน้าบ้านของตนเอง พร้อมกับก้มหยิบขวาน ซึ่งไม่รู้ว่านำมาวางไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จากนั้นได้มานั่งรออยู่หน้าบ้าน สักพักก็ได้เดินเข้าไปก่อเหตุ และหลบหนีออกไป กระทั่งถูกจับได้ภายหลังก่อเหตุไม่กี่ชั่วโมง
สำหรับนายอาทิตย์ มีประวัติเสพยา และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดพิษณุโลกมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อกลับมาก็ยังมีพฤติกรรมกินเหล้า ดมกาว ก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนในหมู่บ้านมาแล้วหลายครั้ง ที่ผ่านมาชาวบ้านอยู่ด้วยความหวาดผวา หลังจากก่อเหตุแล้ว แม่ของนายอาทิตย์ บอกเพียงว่าลูกชายขาดยา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หากปล่อยออกมาจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านและอาจจะมีคนเสียชีวิตได้ .-สำนักข่าวไทย