มหาสารคาม 1 ก.ย. – ชาวบ้านใน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ออกล่าแมงป่องช้าง สร้างรายได้เสริม กิโลกรัมละ 300-500 บาท
พื้นที่ที่สามารถขุดหาแมงป่องช้าง หรือคนอีสานเรียกว่า “แมงเงา” คือโคกขามเปี้ย อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ชาวบ้านที่หาประจำจะดูออกว่ารูไหนมีแมงป่องช้างอาศัยอยู่ โดยลักษณะรูแบนเฉียงลึกลงไป แมงป่องช้างจะอยู่ตื้นบ้าง ลึกบ้าง แล้วแต่รู ขุดได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูฝนจะขุดง่ายเพราะดินอ่อน ส่วนใหญ่จะอยู่เป็นคู่ ตัวผู้ตัวเมีย แต่ถ้ามีลูก ตัวเมียจะอยู่กับลูก ตัวผู้จะแยกออกไป ชาวบ้านบอกว่าในตัว อ.เชียงยืน มีฟาร์มรับซื้อแมงป่องช้าง จึงถือเป็นโอกาสหารายได้พิเศษเพิ่มเติมจากการหาเห็ด
ทีมข่าวตามไปที่ฟาร์มแมงป่องช้าง ซึ่งเจ้าของคือ นายยรรยง ฤทธิ์ทรงเมือง เลี้ยงในบ่อซีเมนต์ 12 บ่อ ประมาณ 10,000 ตัว ในจำนวนนี้เป็นพ่อแม่พันธุ์ 300 ตัว ในบ่อมีรังปลวกซึ่งเป็นอาหารของแมงป่องช้าง เช่นเดียวกับสัตว์เล็กอื่นๆ อย่างจิ้งหรีด ตั๊กแตน หนอน ลูกจิ้งจก เป็นต้น โดยปลวกจะออกมากินน้ำตอนกลางคืน แมงป่องช้างจะดักกินปลวกเป็นห่วงโซ่อาหาร อายุขัย 3-5 ปี ตั้งท้องนาน 7-12 เดือน ออกลูกครั้งละ 7-28 ตัว อัตรา 1 ตัวต่อ 1 ชั่วโมง แม่แมงป่องช้างจึงใช้เวลาออกลูกนานมาก 12-24 ชั่วโมง หลังจากนั้นลูกแมงป่องช้างจะขึ้นไปอยู่บนหลังแม่ประมาณ 2 สัปดาห์ สัปดาห์ต่อมาจะลอกคราบบนหลังแม่ แล้วไต่ลงมา ช่วงนี้จึงจะแยกบ่อไปอนุบาลได้ หากแยกก่อนตอนเป็นตัวสีขาวๆ จะไม่แข็งแรงพอ อาหารต้องให้อย่างเพียงพอ หากปล่อยให้อดจะกินกันเองตามสัญชาตญาณนักล่า
ลูกค้ามี 2 กลุ่ม คือ ตลาดแมงทอดทุกภูมิภาค โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยว คนต่างชาตินิยมกินมากกว่าคนไทย เพราะมองว่าเป็นของแปลก และความเชื่อสรรพคุณทางยา อีกแหล่งคือตลาดนักเล่นที่ชื่นชอบสัตว์แปลก
ทั้งนี้ ยังรับซื้อจากชาวบ้านราคากิโลกรัมละ 300-500 บาท แล้วแต่ฤดูกาล ขายเป็นตัว ตัวละ 15-30 บาท เคยขายให้ตลาดนักเล่นสูงสุดตัวละ 350 บาท ซึ่งมีความพิเศษ คือ ตัวใหญ่ กล้ามใหญ่ รายได้เฉลี่ยเดือนละ 50,000-100,000 บาท มีคนเวียดนามมาติดต่อซื้อขายกันแล้วประมาณ 1 ปี เดือนละ 400-500 ตัว ล่าสุดระหว่างทีมข่าวถ่ายทำ มีโทรศัพท์จากคนจีนสั่งตัวเล็กแบบตากแห้งเพื่อไปเสนอโรงงานยาด้วย
สำหรับความพิเศษของแมงป่องทุกชนิด คือ จะมีสารเรืองแสงสีเขียวสวยงามตอนถูกแสงยูวี ซึ่งนักวิจัยยังหาคำตอบไม่ได้ว่าคุณสมบัติแปลกประหลาดนี้มีเพื่อประโยชน์อันใด นักวิจัยทราบเพียงว่าเกิดจากสารชนิดหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัด ฝังตัวอยู่เป็นชั้นบางๆ ในเปลือกของแมงป่อง แม้ตายแล้วกลายเป็นฟอสซิลหลายร้อยปี แต่สารเรืองแสงยังคงฝังตัวติดกับหินฟอสซิล.-สำนักข่าวไทย