สุรินทร์ 22 พ.ค. – ครูสองสามีภรรยาที่สุรินทร์ ใช้เวลานอกราชการ เพาะไข่ตั๊กเเตนปาทังก้า ขาย เลี้ยงง่าย ต้นทุนต่ำ ราคาดี กิโลฯ ละหมื่น มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย
นายสมพงษ์ เชื้อทอง อายุ 53 ปี เเละนางมณีวรรณ เชื้อทอง อายุ 51 ปี สองสามีภรรยา เป็นครูประชาบาล ใช้พื้นที่บริเวณบ้าน ทดลองเลี้ยงตั๊กแตนปาทังกา เพื่อสร้างอาชีพใหม่ทำรายได้ให้กับครอบครัว โดยศึกษาวิธีเลี้ยงมาจากสื่อออนไลน์ และติดต่อซื้อไข่ตั๊กแตนมาเลี้ยงจนเริ่มประสบความสำเร็จ เพาะพันธุ์ขายต่อตามท้องตลาด ตอนนี้มียอดสั่งซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ
สองสามีภรรยาเล่าว่า รับราชการครูทั้งคู่ มีลูกสาว 2 คน จึงคิดหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ จึงอยากทดลองเลี้ยงอะไรใหม่ๆ ปกติก็เปิดร้านกาเเฟ เเละเลี้ยงวัว 13 ตัว พร้อมกับทำสวนองุ่น โดยใช้เวลานอกราชการมาทำอาชีพนี้ จากนั้นก็เริ่มศึกษาหาความรู้ผ่านทางโซเซียล จนมาพบวิธีการเพาะเลี้ยงตั๊กแตน จึงทดลองสั่งซื้อหามาเลี้ยง โดยซื้อมา 1 ขีด ราคาขีดละ1,000 บาท เพาะได้ 500 ตัว จากนั้นก็ให้ตั๊กแตนที่เพาะได้ผสมกันเอง แล้วออกไข่รุ่นใหม่มาแล้วก็ขยายพันธุ์ต่อ เเต่ก็ต้องระวังพวกมดที่จะมากินตั๊กเเตน
ขั้นตอนของการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า ภาษาถิ่นสุรินทร์เรียกว่า “กะโน้บ” (ภาษาเขมร) ซึ่งเตรียมสถานที่เลี้ยง เพราะต้องเลี้ยงในระบบปิด ใช้มุ้งตาข่ายขนาดเล็กมาทำเป็นโรงเรือนเพาะเลี้ยงรูปทรงสี่เหลี่ยม กว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 2 เมตร ปูพื้นด้วยทรายผสมกากมะพร้าว จากนั้นนำไข่ตั๊กแตนมาเพาะไว้ เมื่อตั๊กแตนฟักออกมาแล้ว เริ่มให้อาหารโดยการใช้ใบไม้อย่างใบกล้วยหรือหญ้า จากนั้นก็ฉีดพรมน้ำเช้าเย็น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
เมื่อตั๊กแตนอายุได้ 45 วัน จะเริ่มผสมพันธุ์และออกไข่ โดยจะนำกระบะทรายมาวางไว้ให้ตั๊กแตนวางไข่แล้วทยอยเขี่ยเก็บ หลังเก็บแล้วก็เว้นไปอีก 2-3 วัน ค่อยเก็บใหม่
ส่วนราคา หากเป็นตัว ขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 450 บาท แต่ถ้าเป็นไข่ ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 10,000 บาท ถือว่าเป็นอาชีพใหม่ที่ดี ราคาดี ตลาดต้องการ เพราะตั๊กแตนถือเป็นอาหารโปรตีนชั้นดี คนนิยมรับประทาน ขั้นตอนการเลี้ยงก็ง่าย ลงทุนต่ำ . – สำนักข่าวไทย