สรุปแถลงพบซีเซียม-137 โรงหลอมเหล็ก

ปราจีนบุรี 20 ก.พ.- สรุปแถลงพบซีเซียม-137 ในฝุ่นแดง โรงหลอมเหล็ก สั่งปิดพื้นที่แล้ว ไม่พบปนเปื้อนออกมาพื้นที่ภายนอก ไม่ชัดมาจากโรงไฟฟ้าที่แจ้งหาย เร่งสืบหาที่มา พบกลุ่มเสี่ยงเป็นพนักงานโรงหลอมเหล็ก 70 คน ต้องเฝ้าระวัง


กรณีการหายไปของวัสดุกัมมันตรังสี “ซีเซียม-137” อุปกรณ์วัดระดับขี้เถ้าในไซโล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว หนัก 25 กิโลกรัม หายไปจากโรงไฟฟ้า ในนิคมอุตสาหกรรม 304 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เผยวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 มี.ค.66) เข้าตรวจอีกรอบที่พบโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี ตรวจพบสารซีเซียม-137 ในกระเป๋าบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่ใช้เครื่องวัดตรวจสอบและยืนยันแล้ว พบสารซีเซียม-137 ในพื้นที่นี้จริงได้ปิดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว


ด้าน นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาฯ สำนักงานปรมาณูฯ กล่าวว่าสารซีเซียม-137 ที่พบในโรงงานหลอมเหล็กนี้ เป็นล็อตที่หลอมละลายไปเมื่อวันที่ 4-5 มีนาคม เนื่องจากโรงงานหลอมเหล็กนี้ไม่มีเครื่องมือตรวจจับสารกัมมันตรังสี ตัวเหล็กต้องใช้อุณภูมิเป็น 1000 องศาฯ ถึงจะทำให้หลอมละลาย ตัวซีเซียม-137 หากเจอความร้อนที่ 60 องศาฯ หลอมละลายระเหยลอยไปเป็นฝุ่นแดง ไม่อยู่ในตัวเหล็กแน่นอน ฝุ่นแดงปนเปื้อน เมื่อหลอมแล้วเรียบร้อยอาจจะไม่อยู่ในเหล็กที่หลอม แต่อยู่ในเขม่าปนเปื้อนบางส่วน ตอนนี้พบซีเซียม-137 จริงแต่ไม่มั่นใจว่ามาจากอุปกรณ์นั้นของโรงงานไฟฟ้าที่หายไปหรือไม่ ต้องรอทางตร.สืบสวนอีกครั้ง

ชี้แจงเพิ่มเติมโรงงานหลอมเหล็กที่เจอ ได้มีการปิดล้อมและรู้จำนวน มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าตรวจสอบเรียบร้อย โดยใช้เครื่องมือตรวจได้ว่าเป็นวัตถุอะไร และวินิฉัยชัดเจน ว่ามีซีเซียม-137 ในโรงงานหลอมเหล็กนั้นจริงและมีการหลอมแล้ว เข้าปิดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว มีคุ้มครองอย่างเคร่งครัด ซึ่งทางกฎหมายระบุ หากรู้ว่าหาย ต้องแจ้งโดยผลัน แต่ทางโรงไฟฟ้าไม่มีการแจ้งโดยผลันจึงทำให้อุปกรณ์หายไป โดยโรงงานนี้ถือครองอุปกรณ์นี้มาตั้งแต่ปี 2538 (10 มี.ค.66) ทางสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ และผู้ว่าราชการจังหวัด เพิ่งได้ทราบการสูญหายจึงได้เร่งเข้าตรวจสอบหมดทันทีที่ทราบข่าว

ตร.ชุดสืบสวนกล่าวว่า ออกไปตรวจสอบ ซีเซียม-137 หายไปจากโรงงานไฟฟ้า และได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่กล้องบางตัวเก่ามากเก็บภาพได้บ้างไม่ได้บ้าง โรงงานแจ้งคนภายนอกไม่สามารถนำวัตถุออกจากโรงงานได้ ตอนนี้ทาง ปส. ได้แจ้งดำเนินการร้องทุกข์ และต้องสืบสวนสอบสวนต่อไปใครครเป็นคนนำออกมาแล้วนำออกมาได้อย่างไร สรุปเบื้องต้นของชิ้นนี้ขึ้นทะเบียนกับทาง ปส. ทั้งหมด มาตรการต่อจากนี้จะดำเนินการคนที่เก็บ ซีเซียม-137 และเดินหน้าต่อสืบต่อคนที่ซื้อขายไปเอาไปไหนที่นำมาสู่โรงงานหลอมเหล็กนี้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าหลอมหรือยังเนื่องจากที่พบว่าโดนหลอมไปแล้ว เป็นอุปกรณ์นั้นของโรงงานไฟฟ้าที่หายไปหรือไม่ ตรวจสอบโรงงานหลอมเหล็กเป็นโรงงานปิด ตรวจสอบรอบโรงงานไม่พบสารซีเซียม-137 เป็นฝุ่นเหล็กที่ระเหยรั่วออกมาจากโรงงาน


นักวิชาการแจง ใช้เครื่องมือตรวจวัดรังสี จากการตรวจสอบพบ ซีเซียม-137 ในฝุ่นโลหะในโรงงาน ใช้เครื่องมือตรวจวัดโลหะ ไม่พบการปนเปื้อนใดๆ และได้ใช้เครื่องมือตรวจอากาศวัดรังสีรอบๆโรงงาน 5 กม. เก็บดิน,น้ำ, อาการ ผลการตรวจสอบไม่พบการฝุ่นกระจายปนเปื้อน ไปสู่ประชาชนและสิ่งแวดล้อมจะไม่ได้รับผลกระทบการปนเปื้อนจาก ซีเซียม-137 อย่างแน่นอน ยืนยันว่าวัตถุกัมมันตรังสีที่พบในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่งถูกครอบคุ้มไม่มีการแผ่กระจายหรือฟุ้งกระจายออกนอกพื้นที่ และตรวจสอบความเปอะเปื่อนร่างกายของพนักงานก็ไม่พบการเปอะเปื่อน และขอยืนยันเจ้าหน้าที่ของ ปส. ได้ครอบคุมสถานการณ์การปนเปื้อน ซีเซียม-137 อยู่ในเฉพาะพื้นที่ของฝุ่นโลหะแดงเท่านั้น

ด้านแพทย์ ประเมินเบื้องต้นหากร่างกายได้รับสารซีเซียม-137 จะเกิดอาการ ด้านทางเดินอาหาร เช่นคลื่นใส้, อาเจียน, ชักเกร็ง, มะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้ตรวจสอบตามโรงพยาบาลทุกแห่ง ทั่วปราจีนบุรีแล้วว่าใน 1 เดือนที่ผ่านมาไม่พบประชาชนที่เข้าข่ายได้รับพบกระทบจาก ซีเซียม-137 โดยทีมอนามัย ทีมจิตวิทยา ทีมควบคุมโรค วางแผนประเมินตรวจสุขภาพพนักงานโรงหลอมเหล็กข้อมูลคราวๆ มีพนักงาน 70 คน ต่างด้าว 60 คน คนไทย10 คน เบื้องต้นตรวจร่างการพื้นฐาน เฝ้าระวังตรวจสอบร่างกาย ทุกๆ 6 เดือน และตรวจร่างกายประชาชนรอบข้างต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่