หลอกขายบ้านน็อกดาวน์ สูญเงินรวมกว่า 6 ล้าน

นนทบุรี 3 มี.ค. – ใครที่กำลังจะซื้อบ้านน็อกดาวน์ ควรระวัง หลังมีบริษัทแห่งหนึ่งอ้างสร้างบ้านน็อกดาวน์ขาย แต่ไม่ส่งมอบบ้านให้ผู้ซื้อ มีผู้เสียหาย 15 ราย สูญเงินไปกว่า 6 ล้านบาท


เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.66) นายสนั่นศิลป์ อายุ 34 ปี สไตลิสต์ทำผมชื่อดังย่านปทุม โพสต์ผ่านโซเชียลว่า “ใครที่กำลังจะซื้อบ้านน็อกดาวน์ ระวังจะโดนมันโกง หลายคนโดนโกงไปหลายแสนแล้ว”
หลังโดนบริษัทสร้างบ้านน็อกดาวน์รายหนึ่งขายบ้านน็อกดาวน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก สร้างบ้าน ราคาถูก ผ่อนได้ หลอกเงินสร้างบ้านไปกว่าแสนบาท ซ้ำยังลงทุนจ้างช่างมาปรับพื้นหมดเงินไปอีกกว่า 70,000 บาท แถมแจ้งความแล้วตำรวจก็ไม่รับแจ้ง พบผู้เสียหายมากกว่า 15 คน หลังพบเพจดังกล่าวยังเปิดขายบ้านน็อกดาวน์ได้ตามปกติ หวั่นมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเพิ่ม จึงรวมตัวกันปรึกษาทนาย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท ลั่นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายสนั่นศิลป์ เล่าว่า เนื่องจากสนใจที่จะต่อเติมบ้านย่านสายไหม และที่บ้านมีพื้นที่ว่างอยู่พอดี จึงหาบริษัทรับสร้างบ้านจนมาเห็นเพจดังกล่าวมีการขายบ้านน็อกดาวน์ จึงติดต่อซื้อบ้าน คุยผ่านคนที่อ้างว่าเป็นแอดมินเพจ ชื่อ ยุ้ย เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2565 จนตกลงซื้อบ้านน็อกดาวน์ในราคา 350,000 บาท และได้โอนค่ามัดจำงวดแรกไป 50,000 บาท โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารในชื่อ รังสิมันตุ์ ในเวลาต่อมาก็ได้รับการติดต่อจากแอดมินยุ้ย ให้โอนเงินมัดจำงวดที่ 2 อีก 52,000 บาท ในชื่อบัญชีบริษัทแห่งหนึ่ง รวมเป็นเงิน 102,000 บาท ต่อมา น.ส.ยุ้ยบอกว่าจะต้องปรับพื้นเพื่อนำบ้านมาวาง และให้โอนเงินอีก 90,000 บาท เพื่อเป็นค่าช่างและค่าอุปกรณ์ โดยบอกว่าช่างจะข้าไปทำการปรับพื้นให้หลังจากที่โอนแล้ว ตนเห็นว่าผิดปกติจึงไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไป จึงจ้างช่างข้างนอกมาปรับพื้นที่ด้วยตัวเองในราคา 70,000 บาท โดยพูดคุยและมีสัญญาการสร้างบ้านและจะส่งมอบภายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 65 ต่อมาเมื่อถึงกำหนดเวลาส่งมอบบ้าน กลับไม่ได้บ้านที่สั่งไว้ จึงโทรไปสอบถามกับทาง น.ส.ยุ้ย แต่กลับได้รับคำตอบว่า บ้านยังไม่เสร็จ ขอเลื่อนกำหนดส่งไปเป็นช่วงเดือนธันวาคม 65 แต่พอถึงกำหนดส่งเดือนธันวาคม ก็ยังไม่เสร็จ และ น.ส.ยุ้ย ขอเลื่อนไปอีกเป็นเดือนมกราคม 66 พอถึงกำหนดส่งบ้านก็ยังไม่เสร็จอีก น.ส.ยุ้ยอ้างว่า ช่างไม่ว่าง ช่างไม่สบายบ้าง ช่างเป็นโควิดบ้าง จึงได้เดินทางไปที่ออฟฟิศของ น.ส.ยุ้ย ที่คลอง 8 หน้าตลาดวิลล่า แต่ก็ไม่พบ น.ส.ยุ้ย พบแต่คนดูแลออฟฟิศ พอถามถึงคนดูแลก็บอกไม่ทราบว่า น.ส.ยุ้ยไปไหน สังเกตถึงความผิดปกติและคิดว่าโดนหลอกแน่ๆ จึงโทรไปหา น.ส.ยุ้ย และสอบถามถึงบ้านที่สั่ง และหากว่ายังไม่ได้รับบ้านที่สั่งตนจะไปแจ้งความ แต่ น.ส.ยุ้ย กลับพูดท้าทายว่าให้ไปแจ้งความ ไม่กลัวหรอก ต่อมาวันที่ 14 ก.พ.66 จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ แต่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ


นายสนั่นศิลป์ เล่าต่ออีกว่า หลังจากตำรวจ สภ.หนองเสือ ไม่รับแจ้งความแล้ว ตนจึงได้ติดต่อผู้เสียหายทั้งหมดที่โดนหลอกในลักษณะเดียวกัน 15 คน ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มี.ค.66 ได้รวมตัวผู้เสียหายที่ติดต่อตนเข้ามาทั้งหมด 5 คน ไปแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ อีกครั้ง โดยทั้ง 5 คน ได้สั่งซื้อบ้านน็อกดาวน์จากเพจดังกล่าว และได้ติดต่อกับ น.ส.ยุ้ย ทุกคน ในราคาบ้านหลังละ 2-5 แสนบาท รวมความเสียหายแล้วกว่า 6 ล้านบาท และมีผู้เสียหายอีกรายที่ติดต่อซื้อบ้านกับ น.ส.ยุ้ย และ น.ส.ยุ้ยได้บอกว่าจะต้องรื้อบ้านหลังเก่าออกเพื่อปรับพื้นที่ และได้ให้ทีมช่างของบริษัทเข้ามารื้อบ้านหลังเก่าออก จนตอนนี้บ้านที่คุณส้มซื้อกับ น.ส.ยุ้ย ก็ยังไม่ได้ แถมบ้านหลังเก่าก็ถูกรื้อ จนตอนนี้ไม่มีที่อยู่จนต้องออกไปหาเช่าบ้านอยู่แทน

ด้านนายนที อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เล่าว่า ได้ติดต่อซื้อบ้านน็อกดาวน์ในเพจดังกล่าวผ่าน น.ส.ยุ้ย เช่นกัน เมื่อวันที่ 27 พศจิกายน 64 ในราคา 325,000 บาท แต่บ้านของตนอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม น.ส.ยุ้ย จึงแนะนำให้สร้างฐานยกสูงในราคา 180,000 บาท โดยโอนค่าก่อสร้างฐานดังกล่าวจำนวน 2 งวด งวดแรกโอนผ่านบัญชี นายรังสิมันตุ์ จำนวน 100,000 บาท และงวดที่สอง โอนผ่านบัญชีชื่อบริษัท จำนวน 179,000 บาท ในเวลาต่อมา น.ส.ยุ้ย ได้ให้ช่างเข้ามาก่อสร้างฐานยกสูงที่ตกลงกันไว้ จนตอนนี้ก็ยังก่อสร้างฐานไม่เสร็จ ก่อนหน้านี้ตนก็เคยซื้อบ้านน็อกดาวน์และถูกหลอกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ใช่บริษัทนี้ พอจะซื้อบ้านหลังนี้ ต้องเอารถยนต์ไปขายเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าบ้าน ตอนนี้ก็ต้องไปเช่าบ้านอยู่เหมือนกัน เพราะบ้านที่สั่งไว้กับ น.ส.ยุ้ย ก็ไม่ได้ ก่อนหน้านี้เคยติดต่อไปที่ น.ส.ยุ้ย เพื่อสอบถามถึงบ้านที่สั่งไว้ แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงตลอดมา โดยอ้างว่าช่างไม่พอบ้าง ช่างไม่สบายบ้าง ช่างเป็นโควิดบ้าง จนมาจนถึงตอนนี้ไม่สามารถติดต่อ น.ส.ยุ้ยได้เลย แค้นใจมาก

ด้านทนายโป้ง หรือนายเกียรติคุณ ต้นยาง ประธานชมรมทนายจิตอาสา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นควมผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และจากข้อมูลมีการโอนเงินก็จะเข้าข่ายในเรื่องของการฉ้อโกงด้วย ส่วนเรื่องมูลค่าความเสียหายหลังจากนี้ทางผู้เสียหายจะรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ และตนได้ประสานกับทางร้อยเวรเจ้าของคดีแล้ว นัดหมายทางผู้เสียหายเข้าให้ปากคำในวันที่ 4 มี.ค.นี้ ทางพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมข้อมูลเพื่อขออนุมัติหมายศาลในเรื่องของการปิดเพจดังกล่าวไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อรายอื่นอีก และจะอายัติบัญชีธนาคารดังกล่าวเพื่อตรวจสอบว่าเป็นบัญชีม้าหรือไม่ ส่วนเรื่องการฉ้อโกงประชาชนนั้น จะต้องดูว่ามีผู้เสียหายกี่คน อยากฝากไปถึงผู้การปทุมธานี, ผกก.สภ.หนองเสือ,พนักงานสอบสวน สภ.หนองเสือ ช่วยเร่งดำเนินการคดีดังกล่าวเพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก คดีนี้มีผู้เสียหายหลายคน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท จะต้องจับตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพื่อจะได้ไม่มีผู้เสียหายเพิ่มเติมนอกจากนี้อีก. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย