ชาวเมียนมากว่าร้อยคนหนีภัยการสู้รบ

ระนอง 24 ก.พ. – ติดตามสถานการณ์ชายแดนจังหวัดระนอง บริเวณอำเภอกระบุรี หลังจากเกิดการสู้รบกันระหว่างทหารเมียนมาและกองกำลังร่วมผสมฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร บริเวณตอนเหนือของจังหวัดเกาะสอง ทำให้ชาวเมียนมาหนีภัยการสู้รบทะลักข้ามมายังฝั่งประเทศไทย


เสียงปืนและเสียงระเบิดที่ดังขึ้นสลับกันเป็นระยะทางฝั่งจังหวัดเกาะสอง บริเวณหมู่บ้านหวายแดง และหมู่บ้านปากกระเมียนมา คือเสียงจากการสู้รบกันระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา กับกองกำลังร่วมผสมสามฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาล จนทำให้ชาวเมียนมาในหมู่บ้านจำนวนสองแห่งรวม 154 คน มีทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ พระสงฆ์ รวมถึงสัตว์เลี้ยง ทิ้งหมู่บ้านหนีภัยการสู้รบข้ามชายแดนมายังฝั่งประเทศไทยเพื่อหนีเอาชีวิตรอด

การสู้รบกันระหว่างกองกำลังผสมไม่ทราบฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลเมียนมา กับกำลังฝ่ายทหารเมียนมา เพื่อยึดหมู่บ้านหวายแดง และหมู่บ้านปากกระ ของเมียนมาที่ตั้งอยู่ตรงข้ามแม่น้ำกระบุรีของไทย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เบื้องต้นทางการไทยได้ให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมาที่หนีภัยการสู้รบข้ามมายังฝั่งไทย ในขณะเดียวกันก็ขอให้ประชาชนไทยที่อยู่ตามริมแม่น้ำกระบุรี ตั้งแต่บริเวณบ้านน้ำทุ่นถึงบ้านเจ้าจอก หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำกระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้ใกล้การสู้รบเพื้อความปลอดภัยในระยะนี้


เต็นท์เพิงพัก ถูกนำมาติดตั้งในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันในแนวเขตปลอดภัยของฝั่งไทย ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านปากจั่น เพื้อให้ชาวเมียนมาที่หนีภัยการสู้รบจากหมู่บ้านหวายแดงและหมู่บ้านปากกระ จังหวัดเกาะสองได้พักพิงเป็นการชั่วคราว โดยมีหน่วยงานความมั่นคง ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจตระเวนชายแดน เฝ้าดูแลความสงบเรียบร้อย ขณะที่ฝ่ายปกครองและอำเภอกระบุรีได้นำอาหารทั้งที่ปรุงสุกแล้วและอาหารสำเร็จรูป ข้าวสารอาหารแห้งน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่หนีภัยการสู้รบเข้ามา โดยทั้งหมดไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตามเมื่อเหตุการณ์ฝั่งเมียนมาสงบลง รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 25 ระบุว่า จะเร่งทำความเข้าใจ เพื่อให้ผู้หนีภัยได้เดินทางกลับไปยัง หมู่บ้านทั้งสองแห่งในทันที

การสู้รบ ในพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดเกาะสอง เมียนมา ซึ่งมีแนวพรมแดนติดแม่น้ำกระบุรีของไทย ทำให้ทางการไทยทุกฝ่ายต้องเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนตามแนวชายแดนกระบุรีทั้งทางบกและทางน้ำ โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำกระบุรีบ้านน้ำทุ่นถึงบ้านเจ้าจอก ระยะทางราว 6 กิโลเมตร พื้นที่ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านที่มีการปะทะ ซึ่งบริเวณดังกล่าวแม่น้ำมีลักษณะตื้นเขินแคบจนสามารถเดินเท้าถึงกันได้


นอกจากนี้ทัพเรือภาคที่ 3 ยังได้เพิ่มความเข้มข้นการลาดตระเวนตลอดแนวลำน้ำกระบุรี แม้ว่าล่าสุดจะยังไม่มีรายงานการเคลื่อนตัวของกลุ่มกองกำลังดังกล่าวไปยังพื้นที่อื่นก็ตาม ซึ่งจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีคนไทย ที่อยู่ใกล้แนวการปะทะได้รับบาดเจ็บ จากการสู้รบแต่อย่างใด และส่วนใหญ่ไม่ได้วิตกกังวล ยังใช้ชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานความมั่นคงได้ประชาสัมพันธ์ขอให้ชาวบ้านฝั่งไทยหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้แนวแม่น้ำกระบุรี ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้จุดปะทะเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน

การสู้รบที่เกิดขึ้นในฝั่งเมียนมา ซึ่งมีพรมแดนติดอำเภอกระบุรีจังหวัดระนองแม้ตอนนี้จะยังไม่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนคนไทยแต่ก็ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหากการสู้รบยืดเยื้อยาวนานออกไป อาจกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนคนไทยที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำกระบุรี ในขณะที่ชาวเมียนมากว่า 100 ชีวิต ที่หนีภัยการสู้รบเข้ามา จะยังไม่สามารถกลับบ้านได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าทางการไทยเองก็ยังคงต้องดูแลช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่คนเหล่านี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]