ลูกสาว “อส.เขียน” วอนประหาร-จำคุกตลอดชีวิตมือแทง 3 ศพ

ตรัง 11 ม.ค. – ลูกสาว “อส.เขียน” ถูกแทงเสียชีวิตระหว่างเข้าระงับเหตุวิวาท พ้อกฎหมายอ่อนแอ ผู้ก่อเหตุเคยฆ่ามาแล้ว 2 ศพ พ้นโทษออกมาไม่ถึงปีก็ก่อเหตุซ้ำ ลั่นอยากให้รับโทษประหาร หรือติดคุกตลอดชีวิต


ความคืบหน้ากรณีเดนคุก เพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าคนตาย ออกจากเรือนจำไม่ถึงปีก่อคดีซ้ำ โดยใช้อาวุธมีดแทงนายเขียน จันฝาก อายุ 57 ปี สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) อำเภอหาดสำราญ ขณะเข้าห้ามปรามเหตุทะเลาะวิวาท ที่ร้านชำแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง เหตุเกิดช่วง 2 ทุ่มของวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา

ผู้ก่อเหตุคือนายยุทธนา เอ้งฉ้วน หรือ ย้อย อายุ 39 ปี จากการตรวจสอบแฟ้มประวัติคดีอาญาพบว่า นายยุทธนา เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาแล้ว 2 ศพ โดยศพแรกก่อเหตุเมื่อครั้งยังเป็นเยาวชน ใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิต ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 ได้ก่อเหตุฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยอาวุธมีดเช่นกันมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 1 คน จนกระทั่งถูกตัดสินโทษจำคุกและพ้นโทษมาเมื่อปี 2565 ยังไม่ทันครบหนึ่งปี ก็มาก่อเหตุฆ่าผู้อื่นเป็นศพที่ 3 ด้วยอาวุธมีดด้วยเช่นกัน


คืนเกิดเหตุนายยุทธนานั่งดื่มกินที่ร้านชำ มีอาการมึนเมาอย่างหนัก พร้อมทั้งอาละวาดชกต่อยนายเหมือน เจ้าของร้านชำ นายสมพร พ่อของนายยุทธนา จึงเข้าไปห้ามปราม ทำให้นายยุทธนาไม่พอใจ พยามยามใช้มีดพกแทงนายสมพร (พ่อของตนเอง) แต่นายเขียน อส.อำเภอหาดสำราญ ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เข้าระงับเหตุ ทำให้นายเขียนถูกแทง รวม 4 แผล ประกอบด้วย สีข้างขวา 1 แผล ไหล่ขวา 1 แผล หูซ้ายติ่งหูขาด 1 แผล และหลังใบหูซ้ายอีก 1 แผล ซึ่งนายเขียนได้ใช้อาวุธปืนพก ขนาด .38 ยิงสวน กระสุนเข้าที่เหนือสะบักหลังซ้ายฝังใน 1 นัด และแฉลบเข้าที่หลังหูด้านซ้ายอีก 1 นัด

น.ส.กนกวรรณ จันฝาก อายุ 22 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ หากญาติผู้ก่อเหตุจะมาขอขมาศพพ่อ ตนคิดว่ายังไม่ต้องมาจะดีกว่า หลังจากรู้ว่าผู้ก่อเหตุ เป็นคนที่พ่อตนเองให้ความช่วยเหลือมาตลอด ก็ไม่เข้าใจว่าทำลงไปได้อย่างไร ยิ่งมารู้ว่าผู้ก่อเหตุเคยฆ่าคนตายมาแล้วถึง 2 ศพ และถูกปล่อยตัวออกมา จนมาก่อเหตุฆ่าพ่อของตนเป็นศพที่ 3 แสดงว่าเจ้าตัวไม่มีสำนึก และเห็นว่ากฎหมายอ่อนแอ ไม่เข้มงวด เพราะฆ่าคนตายติดคุกแค่ไม่กี่ปี ก็ออกมาก่อเหตุซ้ำ ตนเองอยากให้ผู้ก่อเหตุรับโทษประหาร หรือติดคุกตลอดชีวิต เพราะหากพ้นคุกมาก็อาจจะมีรายที่ 4 ที่ต้องจบชีวิตลงเพราะคนคนนี้

อย่างไรก็ตาม ญาติผู้เสียชีวิต และชาวบ้าน ได้ตั้งคำถามถึงตำรวจ สภ.หาดสำราญ ว่าตอนที่นายเหมือน เจ้าของร้านชำ ไปแจ้งความหลังผู้ก่อเหตุอาละวาดทำร้ายร่างกายรอบแรก ก่อนจะก่อเหตุแทงคนตาย ทำไมไม่รับแจ้งความ และบอกให้กลับมาเคลียร์กันเองแทน โดยไม่มีการส่งสายตรวจมาระงับเหตุ จนกระทั่งเรื่องบานปลายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม