สุพรรณบุรีเฝ้าระวัง 24 ชม. ระดับน้ำแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น

ภูมิภาค 18 ก.ย. – สถานการณ์แม่น้ำท่าจีน จ.สุพรรณบุรี หลังจากฝนตกหนักและปริมาณน้ำไหลหลากจากจังหวัดใกล้เคียง ล่าสุดน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ิริมตลิ่ง อำเภอที่ติดกับลุ่มแม่น้ำท่าจีน ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนทยอยเก็บของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม.


สถานการณ์น้ำท่วม จ.อ่างทอง ยังคงส่งผลกระทบต่อชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมคลองโผงเผง ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เป็นรอบที่ 2 มานานกว่า 1 เดือนแล้ว และยังคงขยายวงกว้างต่อเนื่อง ล่าสุดบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยานอกแนวคันกั้นน้ำใน ต.ชัยฤทธิ์ ต.จรเข้ร้อง อ.ไชโย ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมเพิ่มอีก และเป็นอำเภอที่ 4 ของ จ.อ่างทอง ซึ่งได้รับผลกระทบ

ขณะเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท ยังคงระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน เพื่อรองรับน้ำเหนือต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 1948 ลบ.ม./วินาที น้ำเหนือเขื่อน 16.42 เมตร ท้ายเขื่อน 14.33 เมตร โดยมีรายงานแจ้งว่าน้ำส่งผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้น มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมแล้วรวม 701 หลังคาเรือน และยังคงเพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งทาง จ.อ่างทอง เตรียมความพร้อมในการรับมือและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด


เฝ้าระวัง 24 ชม. ระดับน้ำแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น
สถานการณ์แม่น้ำท่าจีน จ.สุพรรณบุรี หลังจากสุพรรณบุรีเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และปริมาณน้ำไหลหลากจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ทั้งแม่น้ำแควน้อย จ.กาญจนบุรี แม่น้ำเจ้าพระยา จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ิริมตลิ่ง อำเภอที่ติดกับลุ่มแม่น้ำท่าจีน พื้นที่ท้ายน้ำอย่าง อ.เมือง อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง ทำให้บ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนทยอยกันเก็บของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม.

ในพื้นที่ อ.บางปลาม้า ปริมาณน้ำเริ่มเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำ พื้นที่ทำนาส่วนใหญ่ขณะนี้เร่งเก็บเกี่ยวข้าว เพราะหวั่นมีการระบายน้ำปล่อยน้ำเข้าทุ่ง ข้าวจะจมน้ำเสียหาย

ในพื้นที่ อ.บางปลาม้า ได้รับกระทบทุกปี เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบลุ่มและพื้นที่รองรับน้ำขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศเตือนให้ชาวบ้านเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยการระบายน้ำเข้าทุ่งปีนี้จะระบายในปริมาณไม่มากเท่าปีที่แล้ว


ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 6 “ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 18-21 กันยายน 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลทำให้ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมกระโชกแรง และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 18 กันยายน 2565

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน 2565
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี
ภาคตะวันออก : จังหวัดจันทบุรี และตราด

ในช่วงวันที่ 21 กันยายน 2565
ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา และบุรีรัมย์

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”